Wednesday, May 16, 2012

หมอเส็ง (Morseng) กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอเส็งอยู่ใช่ไหมครับ ? ท่านมาได้ถูกที่แล้วครับ! , 'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่'แผนไหนเวิร์ค? ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง TEL 020 5996 2888 , ทางเลือกที่น่าลอง , โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM , ทำไมทำธุรกิจMLMแล้วไปไม่รอดหรือไปไม่ถึงดวงดาว

หมอเส็ง (Morseng)

กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอเส็งอยู่ใช่ไหมครับ ? ท่านมาได้ถูกที่แล้วครับ!

ทักทายกันก่อนครับ
สวัสดีทุกท่านครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทุกเรื่องราวของหมอเส็ง ที่นี่
ที่มาที่ไปของการเขียนบล็อกหมอเส็งแห่งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะอะไร ? ผมจะเล่าให้ฟังครับ
 
คุณหมอเส็ง

เริ่มจากการทาน ยาหมอเส็ง สมุนไพรที่ได้ผลจริง!

 ตัวผมทำการตลาดเพื่อขายของต่างประเทศอย่างเช่น อเมริกาและอังกฤษ ผ่านช่องทางอินเตอร์เนตเป็นงานอดิเรกและ ไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับยาสมุนไพร แต่อย่างใด จนวันหนึ่งทาง (คุณ ทะนงสิน) ได้แนะนำให้ผมได้รู้จักกับหมอเส็ง และยาหมอเส็ง เนื่องจากว่าตอนนั้นผมเองมีโรคประจำตัวอยู่ นั่นคือ โรคภูมิแพ้ (ผมเองเป็นคนที่แพ้ฝุ่นง่าย ถ้าเจอฝุ่นเยอะจะจามตลอด) ตอนนั้นคุณได้แนะนำให้รับประทานยาบำรุงร่างเบอร์ 2 ชนิดน้ำ ตราหมอเส็ง และขมิ้นชันหมอเส็ง ชนิดแคปซูล ยอมรับว่าตอนนั้นค่อนข้างต่อต้านการรับประทานยาสมุนไพรรวมถึงยาสมุนไพรหมอ เส็ง ด้วย เพราะมีความเข้าใจอยู่ตลอดว่ายาสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นของหมอเส็ง หรือ หมอคนไหนก็ใช้ได้แค่เพียงรักษาโรคไม่ร้ายแรง อย่างเช่น ร้อนใน หรือ ท้องอืด เป็นต้น ตอนแรกที่คุณแม่ให้ยาหมอเส็ง ผมมาทาน ผมก็ทานบ้างไม่ทานบ้าง แต่พอได้ลองทานไปแล้วรู้ได้เลยว่าร่างกายดีขึ้นและอาการแพ้มีน้อยลงอย่าง เห็นได้ชัด ก็เลยลองตั้งใจทานยาหมอเส็ง ดู ก็ได้ผลที่น่าพอใจ คือ มีอาการแพ้น้อยลงจนแข็งแรงอย่างคนปกติ
ยาหมอเส็งไม่เพียงผ่านการพิสูจน์จากผมเท่านั้น คุณย่าของผมอายุ 80 ปีก็รับประทานอยู่เช่นเดียวกัน ท่านอายุมากแล้วก็เลยเจ็บออดๆแอดๆตามประสาคนแก่ คุณแม่ก็เลยให้ท่านรับประทานยาบำรุงร่างกายตราหมอเส็ง เป็นประจำ จนปัจจุบันนี้ท่านก็ยังแข็งแรงดีอยู่ครับ
หลังจากที่ได้ผลที่น่าพอใจจากการใช้ยาหมอเส็ง ในครอบครัวของเรา ทางคุณแม่จึงได้เริ่มแนะนำคนอื่นๆอีกหลายคน ซึ่งผู้ใช้ยาหมอเส็ง คนอื่นๆที่ได้ทดลองบอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ผลจริง
ที่เล่ามาเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยครับ มีคนอีกมากมายที่ทานยาหมอเส็ง แล้วได้ผลดี แต่ผมคงไม่สามารถบอกท่านได้ว่าสมุนไพรหมอเส็ง ดีอย่างไร จนกว่าท่านจะลองพิสูจน์ด้วยตนเอง

ผมคงไม่สามารถบอกท่านได้ว่าสมุนไพรหมอเส็ง ดีอย่างไร จนกว่าท่านจะลองพิสูจน์ด้วยตนเอง

แคปซูลว่านชักมดลูกสูตรหนื่ง ตราหมอเส็ง

ชื่อผลิตภัณฑ์ : ยาแคปซูลว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง 
ชื่อที่เรียกกัน : ยาแคปซูลว่านชักมดลูก, ยาแคปซูลว่านชักมดลูกหมอเส็ง, ยาแคปซูลว่านชักมดลูกสูตรหนื่ง


ประเภทยา : ยาแผนโบราณ, ยาสามัญประจำบ้าน

ขนาดบรรจุ : 100 แคปซูล
จำนวน : 1 ขวด
ราคาปกติ : 3,200 บาท
ราคาสมาชิก : 2,900 บาท
จำนวน PV : 100 PV

สรรพคุณ

แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ในยา 245 กรัม มีส่วนประกอบสำคัญ
ว่านชักมดลูก 75 กรัม
เอี๊ยะบ๊อเช่า 60 กรัม
โสมคน 50 กรัม
และตัวยาอื่นๆ

วิธีรับประทาน

รับประทานครั้งละ 2 – 4 แคปซูล วันละ 2 – 3 ครั้ง หลังอาหาร

คำเตือน

สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน
ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน

สรรพคุณ ยาแคปซูลว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง

สำหรับคุณสุภาพสตรีโดยเฉพาะ
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรไทยใช้สำหรับเสริมสร้างภายในช่องคลอดของสตรี
ว่านชักมดลูก ให้คุณประโยชน์กับสุภาพสตรีอย่างมหาศาล(ถ้ารู้จักใช้ให้ถูกต้อง)
คุณค่าของว่านชักมดลูก แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
ส่วนที่ 1.ใช้เป็นสมุนไพรดูแลความสะอาดภายในช่องคลอด
ส่วนที่ 2.ปรุงเป็นอาหารเสริมสร้างร่างกายที่เสื่อมโทรมให้แข็งแรง
โดยคุณค่าทั้ง 2 ส่วนมีรายละเอียดของสรรพคุณเพิ่มเติมดังนี้
ส่วนที่ 1. ใช้เป็นสมุนไพรดูแลความสะอาดภายในช่องคลอด มีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ
1. ใช้ว่านชักมดลูกช่วยดูแลอาการมดลูกต่ำ มดลูกโตมดลูกบาง หรือปวดหน่วงมดลูกเป็นประจำ
2. แก้หน่วง เสียวท้องน้อย หรือปีกมดลูกทั้ง 2 ข้าง
3. แก้ปวดประจำเดินอย่างรุนแรงระหว่างมีรอบเดือน
4. ช่วยป้องกันไม่ให้แท้งบุตรง่าย หรือตกเลือด
5. ช่วยลดอาการระดูขาว หรือมุตกิดเรื้อรัง
6. ที่เป็นมานานในสุภาพสตรี
7. ดับกลิ่นภายในช่องคลอดอย่างมหัศจรรย์
8. ช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกาย
9. ช่วยลดอาการมือ-เท้าเย็น, ขี้หนาว, หนาวในอก
10. ช่วยลดอาการเจ็บหรือปวดภายในช่องคลอดเวลาร่วมเพศ
ส่วนที่ 2. ปรุงเป็นอาหารเสริมสร้างของสุภาพสตรี
เพราะว่านชักมดลูก มีกลิ่นมีรสคล้ายกับขมิ้นขาว คนโบราณ
เวลาไม่มีขมิ้นขาวทานกับน้ำพริกก็ใช้ว่าน ชักมดลูกหัวอ่อน ๆ
แทนรวมถึงมีคุณประโยชน์ในการเสริมสร้าง ส่วนต่าง ๆ
ของร่างกายดังต่อไปนี้อีกคือ
1. ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ผิวลื่นละเอียดขึ้น
2. ช่วยบำรุงผิวหน้าที่เหี่ยวย่นและหยาบกร้านมาก ๆให้ดีขึ้น
3. ช่วยเสริมสร้างหญิงที่มีหน้าท้องที่เหี่ยวย่น หรือหย่อนยานที่เกิดจาก การคลอดบุตร ให้หายไป
4. ช่วยให้ภายใน และปากช่องคลอดกระชับเหมือนสาว ๆ อย่างมหัศจรรย์
5. ช่วยเสริมสร้างสตรีที่มีอารมณ์ทางเพศบกพร่องให้สมบูรณ์เป็นปกติ
6. ช่วยสตรีที่มีอายุเริ่มเข้าวัยกลางคน ที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นภายในช่องคลอดให้มีน้ำหล่อลื่น เป็นปกติเหมือนธรรมชาติ
7. คนโบราณใช้ว่าน ชักมดลูกหลังการคลอดบุตร
8. แทนการอยู่ไฟ ช่วยเสริมสร้างน้ำนมของคุณแม่

สรรพคุณพิเศษ

คนโบราณใช้ว่านชักมดลูก บรรเทาโรคเริมหรืออาการผื่นคัน
ปวดแสบปวดร้อน ในช่องคลอดอย่างได้ผล เมื่อบำรุงร่างกายด้วยว่านชักมดลูก
จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและอาการที่เคยมีความดันต่ำ, เลือดน้อย, อ่อนเพลีย,
เหนื่อยง่าย, เวียนศีรษะ, ใจสั่น, ใจหวิวจะเป็นลม, มือเท้าเย็น-ชา, นอนไม่หลับ
อาการเหล่านี้เมื่อรับประทานว่านชักมดลูกแล้วมีผลพลอยได้ทำให้หายไป

ข้อควรจำเกี่ยวกับการใช้ยาว่านชักมดลูก

เมื่อเริ่มทานยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง
1. ขอให้ทานติดต่อกัน 12-15 วัน ก็จะเห็นผล ถ้าทานยาไม่ต่อเนื่อง สรรพคุณก็จะเห็นผลไม่ชัดเจน
2. ถ้าเกิดมีอาการไข้, ตัวร้อน ไอ ให้หยุดยาไว้ก่อน เมื่อมีอาการไข้ ตัวร้อน หายแล้วค่อยทานยาต่อ
3. ยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการกระชับกล้ามเนื้อ ที่หย่อนยานทุกส่วนของร่างกายให้กระชับแน่นตัวขึ้น จึงมีบางคนทานยาแล้วมีอาการ หน้าอกตึงมาก หรือปวดมดลูก ปวดในช่องคลอดเล็กน้อย หรือมีประจำเดือนมาใหม่ก็อย่าตกใจ ขอให้ทานยาลดกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เป็นระยะ 7-10 วัน เมื่ออาการคัดหน้าอกหรือปวดตึงภายในช่องคลอดลดลงแล้ว ค่อยทานยาเพิ่มขึ้นเท่าที่กำหนดไว้
4. ถ้าทานยาแล้วมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว เมื่อยตึง คล้ายจะเป็นไข้ ให้ลดปริมาณยาลงครึ่งหนึ่ง เมื่ออาการที่เกิดหายแล้วให้ทานยาเท่าที่กำหนดไว้
5. ยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง เป็นยาที่เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในวัยทอง หรือคนที่หมดประจำเดือนแล้ว คนที่มีเนื้อหนังเหี่ยวย่น อารมณ์ซึมเศร้า จิตใจไม่สดชื่นเพลียเหนื่อยหรือปวดเมื่อยเหน็บชาง่าย ร่างกายวูบวาบเมื่อทานยานี้ระยะแรก ๆ มีบางคนอาจจะมีประจำเดือนมาใหม่ขอให้อย่าตกใจเพราะยานี้กำลังปรับร่างกาย ให้หายจากอาการดังกล่าวแล้ว ประจำเดือนก็จะหมดไปเอง
“หญิงที่ตั้งครรภ์ คนที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง โรคตับ ไต มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ห้ามทานว่านทุกชนิด!!!”
ລະກິດເຄືອຂ່າຍຂຸມຊັບທີ່ທ່ານສົມຄວນເປັນເຈົ້າຂອງ
ໃນຫລາຍສິບໆປີກ່ອນນີ້, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍແມ່ນຖືກຄັດຄ້ານຈາກຜູ້ຄົນທົ່ວໄປໃນທົ່ວສັງຄົມວ່າ: ເປັນທຸລະກິດຫລອກລວງ, ແຊລູກໂສ້, ປິລະມິດ, ມັນນີ້ເກມ(ມາໄວໄປໄວ)…ເພາະມີບໍລິສັດຈຳນວນໜຶ່ງເປີດຕົວບໍ່ພໍເທົ່າໃດຫລອກໃຫ້ຄົນສະໝັກຮ່ວມງານໄດ້ເງິນພຽງພໍແລ້ວກໍ່ປິດຕົວລົງ…ໂດຍເຫດຜົນສ່ວນໃຫຍ່ແມ່ນມາຈາກບັນຫາເລື່ອງການເງິນ, ບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍຈິ່ງຖືກເບິ່ງພາບລວມໃນແງ່ລົບມາໂດຍຕະຫລອດ.
ແຕ່ຫລັງຈາກນັ້ນ, ບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍຊື່ A…ເປີດຕົວຂຶ້ນແລະປະສົບຜົນສຳເລັດຍິ່ງໃຫຍ່ເກີນຄາດ. ບໍລິສັດເຄື່ອຂ່າຍຫລາຍໆຄ້າຍກໍ່ເປີດຕົວຂຶ້ນຕາມລຳດັບ, ເຊິ່ງມີຫລາຍບໍລິສັດທີ່ມີຊື່ສຽງໂດງດັງແລະຍິ່ງໃຫຍ່ມາຮອດປະຈຸບັນນີ້…ແລະມັນກໍ່ໄດ້ພິສູດຕົວມັນເອງແລ້ວວ່າ, ນີ້ແມ່ນທາງອອກໜຶ່ງຂອງຄົນທີ່ຢາກເຮັດວຽກເສີມ, ຫລືຢາກເຮັດເປັນວຽກເຕັມເວລາເປັນເຈົ້າຂອງກິດຈະການ. ສຸດທ້າຍ, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍຈິ່ງຖືກຍອມຮັບຈາກຄົນໃນສັງຄົມກວ້າງຂຶ້ນ. ຈົນເຖິງປະຈຸບັນນີ້, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍໄດ້ສ້າງກຸ່ມຄົນເສດຖີເງິນລ້ານ(ບໍ່ແມ່ນລ້ານກີບ)ແລະປ່ຽນຊີວິດພວກເຂົາເຈົ້າເຫລົ່ານັ້ນຈາກໜ້າມືເປັນຫລັງມື, ຈາກຄົນຕົວເປົ່າກາຍເປັນຄົນມີຄົບທຸກສິ່ງທຸກຢ່າງ: ມີເຮືອນ, ມີລົດ, ມີສຸຂະພາບທີແຂງແຮງ, ມີເງິນແລະອິດສະຫລະພາບທາງເວລາຢ່າງແທ້ຈິງ…

ທ່ານຈົ່ງຕອບຄຳຖາມທີ່ຢູ່ຂ້າງລຸ່ມນີ້:

=> ເປັນຫຍັງຄົນທີ່ມີຕໍ່າແໜ່ງລະດັບຜູ້ບໍລິຫານຈິ່ງຕັດສິນໃຈລາອອກຈາກວຽກເພື່ອມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

=> ເປັນຫຍັງຄົນທີ່ກຽມສືບທອດຕໍ່າແໜ່ງຫົວໜ້າບໍລິສັດກໍ່ສ້າງຈິ່ງປະຕິເສດບໍ່ຮັບຕໍ່າແໜ່ງນັ້ນເພື່ອມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?.

=> ເປັນຫຍັງອາຈານສອນຈິ່ງຕັດສິນໃຈລາອອກຈາກວຽກທີ່ຜູກພັນກັບເຂົາມາເປັນເວລາ 11 ປີ ກະທັນຫັນແລ້ວມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍເຕັມຕົວ?

=> ເປັນຫຍັງລາດາດັງຫລາຍຄົນຈິ່ງໃຊ້ເວລາຫວ່າງມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

=> ເຂົາມາຫາເອົາຫຍັງຢູ່ໃນທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

ຫລືເຂົາມາຂຸດຂຸມຊັບຢ່າງມິດງຽບໂດຍທີ່ພວກເຮົາທຸກຄົນຕ່າງກໍ່ເບິ່ງຂ້າມສິ່ງນີ້ໄປແລະເຫັນວ່າເປັນເລື່ອງບໍ່ມີສາລະ? ຕອບ: ແມ່ນຄວາມຈິງ, ມີຂຸມຊັບທີ່ຖືກຊ້ອນຢູ່ໃນ 4 ຄຳນີ້: “…ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ…”

ທ່ານຈົ່ງອ່ານເນື້ອໃນທີ່ຢູ່ຂ້າງລຸ່ມ, ແລ້ວຈົ່ງຄອນເຟີມກັບຕົວເອງວ່າ, ນັ້ນແມ່ນຂຸມຊັບຫລືບໍ່?:

ສະຖິຕິບໍລິສັດທີ່ມີຍອດຂາຍທອບສູງສຸດໃນປີ 2011:

ບໍລິສັດ A…ມີຍອດຂາຍກວ່າ 15,000 ລ້ານບາດ

ບໍລິສັດ G…ມີຍອດຂາຍ 5,300 ລ້ານບາດ

ແລະອີກຫລາຍໆບໍລິສັດທີ່ມີຍອດຂາຍຫລາຍກວ່າພັນລ້ານບາດ…

(ທີ່ມາຈາກວາລະສານ Leader Time ສະບັບ 134 ເດຶອນ 1 ປີ2012)
ເມື່ອອົງກອນເຕີບໃຫຍ່ຂະໜາດນີ້ແລະທ່ານລອງວາດມະໂນພາບເບິ່ງວ່າ: ຫາກທ່ານແມ່ນຜູ້ໜຶ່ງທີ່ເປັນຫຸ້ນສ່ວນ(ໃນສັບທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍອີກຢ່າງໜຶ່ງເອີ້ນວ່າ: ເຈົ້າຂອງກິດຈະການ)ທີ່ເຮັດຜົນງານດີໃນລະດັບແຖວໜ້າຂອງບໍລິສັດນັ້ນໆ, ທ່ານຈະຮັບເງິນປັນຜົນໜ້ອຍຫລືຫລາຍ?. ຈະມີເສດຖີທີ່ເກີດຂຶ້ນຈາກການເຕີບໃຫຍ່ນີ້ຈັກຄົນ?, ປີໜ້າຈະມີເສດຖີທີ່ເກີດຂຶ້ນໃໝ່ຈັກຄົນ?, ແລະອີກ 5 ຫາ 10 ປີຂ້າງໜ້າເດຈະມີຈັກຄົນ?.
ແລະສົມມຸດວ່າທ່ານແມ່ນໜຶ່ງໃນຜູ້ນຳແຖວໜ້າຂອງບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍເຫລົ່ານັ້ນລະ? ທ່ານຍັງຈະເຮັດວຽກແບບນີ້ອີກບໍ່: ເຊົ້າເຂົ້າແລງພັກ 5 ຫາ 6 ມື້ຕໍ່ອາທິດ, ໃຊ້ເງິນເດືອນຊະນິດເດືອນຊົນເດືອນ(ຕົ້ນເດືອນມີທ້າຍເດືອນໜີ້)…ຫລືທ່ານຈະໃຊ້ຊີວິດແບບໄລສະຕາຍ , ມີອິດສະຫລະພາບທາງການເງິນແລະເວລາ, ສຸຂະພາບແຂງແຮງ, ທ່ອງທ່ຽວຢ່າງມີຄວາມສຸກກັບຄອບຄົວ…

ຂ້າພະເຈົ້າຍັງຈື່ບໍ່ລືມບາງຕອນຂອງປຶ້ມ: “ Rich Dad Poor Dad ” ທີ່ມີເນື້ອໃນບາງຕອນສື່ຄວາມໝາຍວ່າ: “…ນິໃສຄົນລວຍຊອກຫາຊ່ອງທາງຈຳໜ່າຍສິນຄ້າຜ່ານເຄືອຂ່າຍ, ຂະນະທີ່ນິໃສຄົນຊັ້ນ ຈໍ ແລະ ຄົນຊັ້ນກາງຊອກຫາວຽກເຮັດທີ່ໝັ້ນຄົງ…”. ສ່ວນຕົວທ່ານມີນິໃສແບບໃດພໍຕອບຕົວເອງໄດ້ບໍ່?

ກ່ອນຈາກກັນ, ຂ້າພະເຈົ້າມີແງ່ຄິດດີໆມາຝາກທຸກໆທ່ານ: “…ຈົ່ງເປີດໃຈຕົວເອງເພື່ອ: ສຶກສາ, ຮັບເອົາສິ່ງໃໝ່ເຂົ້າໃສ່ຕົວ…ເພາະໂລກມັນບໍ່ເຄີຍຢຸດໝູນ, ທຸກວິນາທີຈະມີຄົນຄິດຄົ້ນສິ່ງໃໝ່ອອກມາ, ຫາກທ່ານໝັ່ນພັດທະນາຕົວເອງຢູ່ເລື້ອຍໆ, ມີຂໍ້ມູນຢ່າງພຽງພໍຫລືຫລາຍກວ່າຄົນອື່ນແລະພ້ອມສຶກສາຢ່າງຈິງຈັງ, ທ່ານຈະເປັນຄົນໜຶ່ງທີ່ຈະປະສົບຜົນສຳເລັດ, ເພາະຄົນທີ່ສຳເລັດ 1 ໃນ 1,000,000 ເຂົາກໍ່ເລີ່ມຈາກຈຸດທີ່ພວກເຮົາເລີ່ມຕົ້ນນັ້ນຄື:…ສູນ (0)…”  

ໂທ 020 5996 2888
โรงเรียนสอนธุรกิจเมื่ออยากจะเป็นเศรษฐี
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM

หาก คุณเชื่อว่า คนที่จะร่ำรวยได้จะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณคงจะต้องมองหาโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจสักตัว แต่คุณเชื่อ หรือไม่ การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ก็ไม่ได้การันตี ว่าคุณจะประสบความสำเร็จ หรือร่ำรวยเสมอไป ในทางตรงกันข้ามการเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะต้องลงทุน และที่แน่นอนคือ คุณมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลว หรือขาดทุน ขอให้คุณพิจารณาคำกล่าวที่ว่า

?ธุรกิจส่วนใหญ่ ล้มเหลวไป ภายใน5ปีแรก? หรือ ?95%ของธุรกิจมักล้มเหลว มีแค่5% เท่านั้นที่รอด? หรือ ?เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่ ล้มเหลวถึง3ครั้ง กว่าจะสำเร็จ ยิ่งใหญ่ได้?
เมื่อ คุณอ่านถึงประโยคเหล่านี้ ไม่สามารถทำให้คุณเปลี่ยนความตั้งใจ และคุณยังยืนยันความตั้งใจเดิมของคุณที่จะเป็นเศรษฐีให้ได้ คุณคงต้องมามองทางเลือกในการลงทุนเป็นเจ้าของธุรกิจ 3 ประเภท คือ
1.การสร้างบริษัทใหญ่ๆขึ้นมา (ต้นทุนการเป็นเจ้าของ ธุรกิจ สูง คุณต้องมีเงินมากพอ)
2.การเลือกซื้อแฟรนไชร์ (ต้นทุนสูง ทำงานภายใต้ข้อสัญญา)
3.การเข้าร่วมธุรกิจ แบบขายตรง หรือการตลาดแบบเครือข่าย (วิธีการที่ใหม่ เหมาะสำหรับคนพร้อมที่จะเรียนรู้)

คุณ จะเห็นว่าการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ 2 ประเภทแรกนั้น ต้องมีต้นทุนสูง คือใช้เงินลงทุนมาก ในกรณีคุณไม่มีเงินลงทุน แต่มุ่งมั่นที่จะเป็นเศรษฐีจากการเป็นเจ้าของธุรกิจให้ได้ คุณคงเหลือทางเลือกที่ 3 ประการเดียว

เมื่อ คุณตัดสินใจที่จะร่วมธุรกิจแบบเครือข่ายขายตรง สิ่งแรกที่จะต้องทำ คุณต้องเลือกบริษัทให้ รอบครอบ เพราะว่าบริษัทส่วนใหญ่มักจะบอกว่า สุดยอดทั้งสินค้า แผนการตลาด องค์กร แต่ในปัจจุบันสิ่งที่ต้องเน้นให้คุณดู คือ การฝึกอบรม ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะบอกว่ามี แต่ที่จริงแล้วไม่มี หรืออีกนัยหนึ่งแค่การฝึกแค่เพียงสอนคุณให้เป็นพนักงานขายสินค้า มากกว่า จะเป็นเจ้าของธุรกิจ การฝึกอบรมที่คุณต้องการคือ กระบวนการเรียนรู้ทางธุรกิจที่มีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ ให้แตกต่างไปจากเดิมให้ได้
การ เข้าร่วมธุรกิจขายตรง ถือว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จากผู้สอนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ในโลกธุรกิจ ซึ่งจะแตกต่างจากการเรียนในโรงเรียนธุรกิจทั่วๆไป ที่มักจะพบว่า อาจารย์ผู้สอนไม่เคยมีประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจเลย สักนิดเดียว อย่างเก่งก็เรียนจากกรณีศึกษา(Case Study)ไม่มีโอกาสลงมือทำ

ขยายโอกาส
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
เครือ ข่ายเป็นการสร้างและเอื้อผลประโยชน์ระหว่างกัน.... หากเรายิ่งแบ่งปันหรือขยายไมตรี และความสัมพันธ์ออกไปมากเท่าไร เราจะยิ่งได้รับความสัมพันธ์ตอบกลับคืนมามากขึ้นเท่านั้น

เครือข่าย จะเรียกว่าเน็ทเวิร์ก พันธมิตรหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับสังคมอย่างบ้านเราที่ยังคงให้ความหมายกับการนับญาติ นับเพื่อน การเกื้อกูลในระหว่างคนที่อยู่ในเครือข่ายด้วยกันจึงเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ไม่ว่าจะในเรื่องทางสังคม เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจ การสร้างเครือข่าย (Networking) หมายถึงกระบวนการให้ การสร้าง และแบ่งปันไมตรีหรือความสัมพันธ์ระหว่างกันที่อาจจะส่งผลดีมาถึงงานในอนาคต
ใน ชีวิตเรามีคนผ่านเข้ามามากมาย ยิ่งได้รู้จักได้สัมผัสกับคนมากเท่าไร โดยเฉพาะกับคนที่เกี่ยวข้องในแวดวงการทำงาน เครือข่ายของเราก็จะยิ่งกว้างไกล ทำให้ได้รับข่าวสารที่มีคุณค่ามากขึ้น และยังเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ และขยายตลาดมากขึ้นด้วย
หลัก การพื้นฐานของการสร้างเครือข่ายคือหลักที่ว่าเครือข่ายเป็นการสร้าง และเอื้อผลประโยชน์ระหว่างกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่ว่าแต่ละคนจะสามารถเรียนรู้และได้ประโยชน์จากกันและกัน หลักอีกประการคือหากเรายิ่งแบ่งปันหรือขยายไมตรี และความสัมพันธ์ออกไปมากเท่าไรเราจะยิ่งได้รับความสัมพันธ์ตอบกลับคืนมามาก ขึ้นเท่านั้นเครือ ข่ายหรือความสัมพันธ์ไม่จำเป็นจะต้องได้มาจากคนที่เราพบปะหรือเกี่ยวข้อง ด้วยโดยตรงในงานเสมอไป บางทีก็มาแบบอ้อมๆ หลายอ้อมด้วยซ้ำไป อย่างเช่นมาจากครอบครัว จากพ่อแม่เราเองหรือคนที่พ่อแม่เรารู้จัก จากพี่น้อง เพื่อนๆ ของพี่น้อง ไปจนกระทั่งญาติ ใครอยากได้อะไร อยากซื้อหาอะไร มีอะไรดีที่ไหนข้อมูลอะไรน่าสนใจ
บาง ทีการสร้างเครือข่ายกับหัวหน้าหรือเจ้านายก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง ทั้งเจ้านายปัจจุบัน และเจ้านายเก่า จากเพื่อนๆ พนักงานด้วยกันเองก็ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะพนักงานเก่าหรือใหม่ จะช่วยขยายวงกว้างของเครือข่ายของเราได้อีกมาก
เครือ ข่ายที่มาจากลูกค้าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้เสมอๆ หลายบริษัทมีโปรแกรมประเภทสมาชิกแนะนำสมาชิก (Member gets Member) นั่นคือลูกค้าซื้อของแล้วก็ช่วยแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักอื่นๆ ให้อีก บริษัทเขารู้ว่าเครือข่ายแบบนี้ทำงานได้ผลดีก็เลยมีรายการสมาชิกแนะนำสมาชิก เสียเลย เพื่อจูงใจให้ลูกค้าไปขยายเครือข่ายลูกค้าต่อเนื่องให้เขาอีกโดยมีสิ่งจูงใจ ให้ต่างๆ นานา
คู่ ค้าของเรา เช่นผู้ขายวัตถุดิบ คนกลางทั้งยี่ปั๊ว ซาปั๊วและอีกหลายๆ ปั๊ว ต่างอยู่ในเครือข่ายที่สามารถแนะนำบอกต่อหรือให้ข้อมูลเพื่อการขยายตลาด หรือความสัมพันธ์ได้ทั้งนั้น พวกนักวิชาชีพทั้งหลาย เช่นสำนักงานบัญชี สำนักงานทนายความ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ เจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราใช้บริการก็เป็นคนที่สามารถขยายเครือข่ายของเราได้ เช่นเดียวกับคนใกล้ๆ ตัวอย่างเพื่อนโรงเรียนเก่า ครูบาอาจารย์เก่าเพื่อนบ้านข้างเคียงหรือคนไกลตัวหน่อย เช่นคนที่เจอกันที่วัด นิทรรศการ งานแนะนำสินค้า สถานที่ออกกำลังกาย และงานสังคมอื่นๆ ฯลฯ
จะ เห็นว่าคนที่อยู่รอบๆ ตัวทั้งหลายอยู่ในข่ายที่จะขยายเครือข่ายเราได้ทั้งนั้น จึงไม่ควรรีรอที่จะสร้างนิสัยของการเป็นนักสร้างเครือข่ายเสียตั้งแต่บัดนี้ ด้วยหลักปฏิบัติ 10 ข้อง่ายๆ ต่อไปนี้
ข้อ 1 แลกนามบัตรเสมอ พกนามบัตรติดตัวตลอดเวลา และเป็นฝ่ายหยิบยื่นให้ก่อนพร้อมแนะนำตัว ถ้าเป็นผู้ด้อยอาวุโสกว่า อย่าลืมเอ่ยประโยคทำนอง "ขออนุญาตแนะนำตัวครับ/ค่ะ ผม/ดิฉัน???" ประเภทที่อีกฝ่ายส่งนามบัตรมาให้แล้วตอบกลับไปว่า "ขอโทษครับนามบัตรหมด" หรือ "ขอโทษครับลืมเอานามบัตรมา" อย่างนี้ควรเรียกนักสร้างเครือข่ายอ่อนหัด
ข้อ 2 อย่ายืนหลบมุม ใครๆ เขายืนจับกลุ่มคุยกัน หากไปยืนแอบอยู่หลังเสาหรือมุมมืดคนเขาจะนึกว่ามีปัญหาหรือทำอะไรผิดไม่กล้า สู้หน้าคน หวังจะสร้างเครือข่ายต้องเดินเข้าหาคนอื่นได้อย่างมั่นใจเสมอ
ข้อ 3 สอดส่ายมองหา กราดสายตาไปให้ทั่วว่าในที่นั้นมีใครที่เรารู้จักพอที่จะเข้าไปร่วมวงสนทนา ได้บ้าง เมื่อคิดจะขยายเครือข่ายก็ต้องหมั่นสอดส่ายสายตาไปที่คนหลายๆ กลุ่ม เครือข่ายจะได้กว้างขึ้น
ข้อ 4 ผูกมิตรในเวลาที่ไม่คิดว่าจะต้องการมิตร บางคนอาจเหม็นเบื่อกับการผูกไมตรีกับผู้คน เพราะรู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่มากมายจนเกินพอแล้ว หรือไม่ก็ยังไม่อยู่ในอารมณ์ที่ต้องการเพื่อนฝูงคนรู้จักเพิ่มเติม แต่หารู้ไม่ว่าในเวลาอย่างนั้นแหละคือเวลาที่สมควรจะสร้างมิตร เพราะหากไปสร้างมิตรเอาเวลาที่ตัวเองเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ คนเขาจะกังขาเอาได้ว่ามาผูกมิตร เพราะหวังประโยชน์จากเขา
ข้อ 5 รู้จักสนใจคนอื่นเสียบ้าง นักสร้างเครือข่ายจะสนใจและให้ความสำคัญกับคนรอบๆ ข้างเสมอ ไม่ผูกขาดการสนทนาอยู่คนเดียว รู้จักสังเกตสีหน้าของคนรอบข้าง อ่านความสนใจของคนอื่นออก และชื่นชมคนอื่นเป็น
ข้อ 6 ติดตามผล หากได้ช่วยเหลือเกื้อกูลใครที่อยู่ในเครือข่ายแล้ว ก็อย่าลืมติดตามถามไถ่ด้วยว่าได้ผลดีขนาดไหนอย่างไร ความสัมพันธ์ที่เราให้ไปเป็นประโยชน์กับเขาเพียงใด
ข้อ 7 ไม่ขาดการติดต่อ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ขาดตอนต้องไม่ขาดการติดต่อ ความสัมพันธ์ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ต้องการการดูแลใส่ใจ รดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยอยู่เสมอ เพื่อให้ความสัมพันธ์งอกงาม
ข้อ 8 ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่แขก เมื่อพบสนทนากับใคร การทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของบ้านที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ต้องรู้จักบริการผู้คนรอบข้าง อ่อนน้อมและแสดงน้ำใจ
ข้อ 9 ทบทวนความสัมพันธ์ นานๆ ทีก็ต้องทบทวนดูบ้าง ว่าใครที่เราขาดการติดต่อ
มาเนิ่นนานสมควรจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ใครบ้างที่สมควรจะกระชับความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ใครบ้างที่ไม่อยู่ให้สานต่อความสัมพันธ์แล้ว

ข้อ 10 แบ่งปันความสัมพันธ์ แบ่งปันเครือข่ายของเราให้กับคนรอบข้างที่เขาต้องการด้วยเสมอ เขาจะได้แบ่งปันเครือข่ายของเขามาให้เราด้วย เมื่อนั้นเครือข่ายของเราก็จะกว้างไกลไม่สิ้นสุด

ทำ ได้ทั้ง 10 ข้อรับรองว่าจะเป็นนักสร้างเครือข่ายมืออาชีพ แม้จะไม่ครบ หากแต่เมื่อลงมือทำบางข้ออย่างตั้งใจ จะพบว่าเครือข่ายขยายกว้างออกไปทีละนิดทีละหน่อยพร้อมๆ กับโอกาสของชีวิตและธุรกิจ มีคนรอบข้างมากมายรอให้สร้างเครือข่ายอยู่แล้ว ลงมือทำเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง
การตัดสินใจทำธุรกิจMLM
รงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
การ ตัดสินใจทำธุรกิจ MLM มีข้อควรพิจารณา เพื่อให้ ไขว่คว้า แสวงหา ความสำเร็จ ได้ ควรพิจารณา อย่างไร บ้าง ไม่ใช่ ทำไปแล้ว กลับถูกหลอกให้ ทำแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดกฎหมายเกี่ยวกับการระดมเงิน ซึ่งในบทท้ายๆได้เขียนไว้แล้ว การพิจารณาMLM ที่ดี กับดูแชร์ลูกโซ๋ให้ รู้ แล้วเราจะไม่เป็นเหยื่อ ซึ่งหลักการพิจารณาควรดูถึงปัจจัย เหล่านี้ ในแง่มุมบริษัท

ควรพิจารณาบริษัท หลายๆแง่มุม เพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจของบริษัท ไม่ใช่ รวยแล้วเลิก หรือ เลิกก่อนโรยลา โดยดูจาก
    • ปรัชญา วิสัยทัศน์ ของบริษัท หรือ ผู้บริหารองค์กรใหญ่
    • ประวัติความเป็นมาของบริษัท /เบี้องหลังธุรกิจ
    • ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของบริษัท / หรือผู้บริหาร
    • ความมั่นคง เงินทุน ประสพการณ์ของบริษัท
ในแง่ผลิตภัณฑ์
พิจารณาว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีอยู่เหมาะสมกับกลุ่มตนที่เรารู้จักมากน้อย เพียงใด โอกาสทางการตลาด ของผลิตภัณฑ์ เป็นอย่างไร มีความแตกต่าง แล้วหาจุดขายโดดเด่น หรือไม่ ตลอดจนมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อย่างไร มีคุณภาพมาตรฐานที่จะสร้างความมั่นใจว่า ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สมราคา และผู้จำหน่ายตรงได้รับความสำเร็จอย่างไร
ในแง่แผนการตลาด
พิจารณาการ ขยายแผนการตลาด เกิดความยืดหยุ่น ง่ายต่อการทำหรือ ไม่ ต้องสต๊อค ต้องรักษายอด หรือไม่เมื่อขึ้นตำแหน่ง การขึ้นตำแหน่งแต่ละขั้นยากต่อการทำ หรือ ไม่ (ซึ่ง จะมีรายละเอียดในบทหลังๆ)
แนวทางที่จะประสพความสำเร็จ
หากสินค้าดี แผนการตลาดดี บริษัทดี เป็นน่าเชื่อถือ จะต้องมีการจัดระบบงานดี หรือมีหน่วยคอยสนับสนุนสมาชิกให้ช่วยประสพความสำเร็จ อันได้แก่
?
    • มีองค์กรสนับสนุนพัฒนาบุคลากร และทีมงานคอยช่วยเหลือ
    • อัพไลท์ มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ จริงจัง ทุ่มเทมากน้อยเพียงใด
    • ผู้นำระดับต่างๆที่เหนือๆขึ้นไปให้ความช่วยเหลือ ให้เราประสพความสำเร็จได้ แค่ไหน
    • จุดเด่นขององค์กร และทีมงาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อการสร้างทีมงานของเรา มากน้อยแค่ไหน
สิ่ง ที่เราปรารถนา คือ เงิน ความสุข ความมั่นคง อิสรภาพ ความหวัง รางวัลแห่งชีวิต ความสำเร็จ แต่อย่างไร ก็ ตาม หาก แผนการตลาดดี สินค้าดี บริษัทดี ทีมงานให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่พร้อมที่จะให้เกิดความสำเร็จ สักแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่าง จะไม่บังเกิด หากไม่เริ่มต้น ที่ตัวเราก่อน

'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่'แผนไหนเวิร์ค?
ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง
จูนคลื่นแผนความรวยธุรกิจเครือข่าย...แผนไหนเวิร์ค แผนไหนเจ๋ง!...วิเคราะห์กันแบบช็อตต่อช็อต...ระบุ!ความโดดเด่นแผน "สแตร์ สเต็ปท์-ไบนารี่" ผลักดันความรวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อยู่ที่ว่าใครชอบรวยช้าหรือรวยเร็วเท่านั้นเอง...พร้อมขอดเกล็ด 3 บิ๊กไบนารี่ นาทีนี้ความเหนือชั้นต้องยกนิ้วให้
คนที่จะเดินเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรงได้นั้น เชื่อว่า สิ่งแรกที่หลายๆ คนต้องคิดพิจารณาเป็นอันดับแรกเลยคือ "สินค้า ต่อมาจะเป็นในส่วนของ "บริษัท" และ "ผู้บริหาร" ซึ่งนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่คนเครือข่ายพิจารณาไม่แพ้ไปกว่า "สินค้า-บริษัท-ผู้บริหาร" นั่นคือ "แผนการตลาด"
วันนี้ต้องบอกว่า แผนการตลาดของบริษัทหลายๆ ค่าย ค่อนข้างที่จะมีการ "ชูความเหนือชั้น-จ่ายเร็ว-จ่ายแรง" กันค่อนข้างที่จะเยอะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการเรียกความสนใจให้กับนักขายมือใหม่และมืออาชีพให้ เข้ามาสู่องค์กรของตนเองกันแทบทั้งนั้น
...เชื่อว่าหลายคนที่เป็นนักขายหน้าใหม่ๆ คงมีบางท่านที่ยังสงสัยว่าแต่ละแผนในธุรกิจขายตรงนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่น จุดด้อยอยู่ที่ตรงไหน และมีแผนไหนบ้างที่เรียกว่า "โดนใจคนเครือข่าย" แบบสุดๆ บ้าง?...โดยทีมข่าว "ตลาดวิเคราะห์" ได้สรุปจุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละแผนมาให้ทราบพอสังเขปดังนี้

เจาะแผน 'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่' อาวุธพิชิตยอดดึงคนร่วมธุรกิจ
หากจะให้วิเคราะห์ถึงแผนการตลาดส่วนใหญ่ ใน "ธุรกิจขายตรง" ที่ใช้กันในปัจจุบันพบว่า มีอยู่ 3 แผนด้วยกันที่หลายๆ ท่านคงรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับบางท่านที่ยังเพิ่งเข้าสู่ในธุรกิจนี้แบบใหม่มาดๆ คงอยากที่จะทราบว่าจุดเด่นของแต่ละแผนนั้นมีอะไรบ้าง?...
...เริ่มต้นด้วย "แผนสแตร์ สเต็ปท์" ที่จุดเด่นของแผนนี้คือ จะมีความมั่นคงในระยะยาว ส่วนข้อด้อยของ แผนนี้ก็จะมีเช่นกัน คือ 1.รายได้เริ่มต้นน้อยมาก 2.ตำแหน่งชนรายได้ตก 3.การหนีขึ้นตำแหน่งสูง 4.ทีมงานโตช่วยเหลือไม่ทัน ปัญหาที่พบบ่อย 1.เกิดการทอดทิ้งทีมงาน 2.ใช้การซื้อตำแหน่งให้สูงขึ้น 3.สต๊อกบวม (สินค้าเต็มบ้าน) 4.ทีมงานหยุดเร็วเพราะรายได้น้อย 5.การขายตัดราคา 

ส่วน "แผนไบนารี่" ที่มีจุดเด่นตรงที่สร้างรายได้เร็วทันใจบริหารงาน 2 สาย ข้อด้อย 1.การล้างรอบคะแนนทิ้ง 2.โตทีมเดียวไม่เกิดรายได้ ปัญหาที่พบบ่อย 1.นักธุรกิจเปลี่ยนบริษัทบ่อย 2.มันนี่เกมแอบแฝงง่าย 3.ทีมชักชวนกันไปธุรกิจใหม่ 4.ขายตัดราคา...ซึ่งทั้ง 3 แผนการตลาดที่กล่าวมานี้ เรียกว่าต่างก็มีจุดดีและจุดเด่นเป็นของตนเองแทบทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครอยากจะรวยมากรวยน้อยเท่านั้นเอง!!! 

ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า แผนการตลาดที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักขายหลายๆ คน คือ "แผนไบนารี่" เพราะแผนนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้บริษัทขายตรงในเมืองไทยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานอย่างมาก โดยเฉพาะ "ค่ายสแตร์ สเต็ปท์" ที่ไม่อาจหยุดอยู่กับที่ได้ หลังจากที่ "แผนไบนารี่" เข้ามา
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ในยุคนี้ "ค่ายสแตร์ สเต็ปท์" ที่เหลืออยู่มีให้เลือกเพียงไม่กี่ค่ายเท่านั้น เฉพาะค่ายเก่าๆ ซึ่งหลายคนต่างมองว่า ถ้าไปเริ่มต้นใหม่จากค่ายเหล่านี้ โอกาสจะก้าวขึ้นตำแหน่งสูงๆ ในเวลาอันสั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากลำบาก
โดยเฉพาะค่ายสแตร์ สเต็ปท์ที่เกิดใหม่ หากไม่มีอะไรเป็นที่น่าสนใจ ยิ่งวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการ รวมถึงแผนการตลาด สินค้าไม่เป็นที่สะดุดตาจริง น่าจะปิดประตูตายไปได้เลย...และยังจะเห็นได้อีกว่า บริษัทที่ใช้แผนสแตร์ สเต็ปท์หน้าใหม่ ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ในชั่วโมงนี้ แม้แต่ค่ายเก่าๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการดูดดึงสมาชิกไปร่วมธุรกิจเช่นกัน 

ในขณะเดียวกัน ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ ทุกวันนี้ เริ่มที่จะไม่มองค่ายไบนารี่เป็นคู่แข่งที่สำคัญอีกต่อไป เนื่องจากหลายค่ายสามารถพัฒนาแผนการตลาดเพื่อการแข่งขันกับค่ายไบนารี่ได้ เป็นที่พอใจ แม้จะเอาชนะในเรื่องการจ่ายผลตอบแทนไม่ได้ แต่ก็ชนะใจสมาชิกที่ภักดีต่อแผนการตลาดแบบสแตร์ สเต็ปท์ได้ไม่น้อย

จนอาจกลายเป็นว่า ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ ณ เวลานี้ กำลังอยู่ระหว่างการ "ชิงไหว ชิงพริบ" วางเกมเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในทุกๆ ด้าน ยิ่งบริษัทระดับกลางดูเหมือนจะเล่นเกมบุกหนัก เพราะสามารถปรับเปลี่ยนภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะเห็นว่า ยักษ์ใหญ่สแตร์ สเต็ปท์จะอยู่ในอาการตั้งรับ และมุ่งพัฒนาคุณภาพของบุคลากรมากกว่าที่จะไปแข่งแย่งลูกค้าหน้าใหม่ๆ ในปริมาณเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ เริ่มที่จะเห็นการออกโปรโมชั่นที่เร้าใจเพื่อหวังมัดใจมวลเหล่าสมาชิกมาก ขึ้นกว่าที่ผ่านมาในปีนี้...

สแตร์ สเต็ปท์นิ่งไบนารี่เสียบ เกมรบบีบหัวใจคนเครือข่าย

...จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์ทุกอย่างต่างบีบบังคับให้ ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการอะไรบ้างอย่างแล้ว เพราะ "ขืนนิ่ง" เหมือน "เต่าล้านปี" มีหวังคงได้ทุบหม้อข้าวตัวเองกินเป็นแน่แท้...ยิ่งปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะ ถามตัวเองว่า วันนี้การที่จะเลือกทำธุรกิจเครือข่ายสักค่ายนั้น แผนไหนที่รวย แผนไหนที่เวิร์ค ณ ช่วงเวลานี้บ้าง...คำตอบก็คือ...ทุกแผนต่างสร้างคนรวยได้หมดอยู่ที่ว่าจะรวย ช้าหรือรวดเร็วเท่านั้นเอง
ยิ่งสถานการณ์ "บีบบังคับ" บวกกับ "หัวใจบีบ" ให้ต้องได้มาในสิ่งที่ปรารถนาในสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว "แผนไบนารี่" จึงเป็นแผนที่หลายๆ คน ต่างยอมที่จะกระโดดเข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง...

นับได้ว่า ปัจจัยเสี่ยงของแผนการตลาดแบบไบนารี่ยังถือว่าหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี เนื่องจากในปัจจุบันนี้ได้มี "กลุ่มไบนารี่นอกรีต" เกิดขึ้น เป็นจำนวนมาก


ขอดเกล็ด3บิ๊กไบนารี่ ปี2011 / 2554 
1.เอม สตาร๋
2.นิโอไลฝ
3.แสงสุริยะฉัด (หมอเส็ง)

"หมอเส็ง" ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายที่ใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแบบง่ายๆ ใช้การจ่ายผลตอบแทนที่ไม่สลับซับซ้อน ผู้บริหารไม่มีเล่ห์เหลี่ยม และหมกเม็ดเรื่องแผนการตลาด ด้วยจุดนี้เอง จึงทำให้หลายคนต่างอยากที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจหมอเส็ง เพราะที่นี่นอกเหนือจากแผนการตลาดทำง่ายได้จริงแล้ว ความพร้อมในส่วนของสินค้า สำนักงานอาคารก็ไม่ได้เป็นสองรองใครด้วยในค่ายไบนารี่ด้วยกัน 

ทางเลือกที่น่าลอง
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
ทำไม MLM (Multi Level Marketing) จึงเป็นทางเลือกที่ต้องลอง ท่านเคยสงสัย หรือเคยคิดจะลอง หรือ จากคำบอกเล่า คนชักชวน แล้วไม่กล้าลอง จริงๆ แล้ว คือโอกาสทองของชีวิตการทำงานก็เหมือน กับนาทีทอง ของการตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีราคา โปรโมชั่น จะเป็นตัวช่วยชี้วัดทำให้ เราตัดสินใจง่ายขึ้น ดร.พอล เกตตี้ ได้กล่าว ถึงบัญญัติ 5 ประการ สู่ความสู่ความสำเร็จในโลกของธุรกิจ ไว้ว่า 1.ทำธุรกิจของตนเอง
2.ขายผลิตภัณฑ์ /การบริการที่ตลาดต้องการ
3.เสนอบริการดีกว่า คู่แข่ง
4.ให้รางวัลผู้ที่มีผลงาน
5.สร้างความสำเร็จ โดยอาศัยผู้อื่นช่วย

จากข้อกล่าวถึง ตามบัญญัติที่ ดร.พอล กล่าว หากพิจารณาดูดีๆแล้วก็สอดคล้องกับธุรกิจ ขายตรงMLM เพราะอะไร หรือ?.
1.เราเป็นเจ้าของกิจการ เป็นเจ้านายตัวเอง

2.มี รายได้ ทันที ไม่มีขีดจำกัด และไม่มีข้อต่อเนื่อง ผิดกับการลงทุนในธุรกิจ เราต้องลงทุน แล้ว รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ คุ้มทุนก่อน จึงจะนำมาคิดเป็นรายรับที่เรียกว่า กำไร
3.รายได้สูง และการทำงาน ก็ทำได้ 2อย่างพร้อมๆกันกับงานประจำโดยไม่ขัดแย้งกัน
4.มี อิสรภาพ ช่วยเหลือคนได้
5.อยู่ในสังคมที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน
6.ใช้เงินลงทุนน้อย ไม่ต้องอาศัยทำเล ยิ่งเป็นของ มิเนอร์รี่ แค่เงินลงทุน เพียง200บาท เท่านั้น
7.ไม่ จำเป็นต้องมีประสพการณ์ หรือพูดเก่ง เพราะจะมีระบบช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันเกื้อกูล ยิ่งทีมเราได้ ผลิตซีดี ให้ ใช้ในการแนะนำ การทำงาน ทำให้ไม่ต้องคิดถึงเรืองนี้ มีศูนย์อบรมพัฒนาบุคลากร ของบริษัทที่คอยช่วยจัดการเพิ่มพูนความรู้ ประสพการณ์

8.มีเวลามากขึ้น ได้เปิดตาเปิดสมองไปกับผู้คน ในที่ต่างๆ
9.ได้พัฒนาตนเองตลอดเวลา
10.ทำงานเพียง 1-5ปี มีรายได้ ตลอดชีวิตเป็นมรดก
หาก ถ้าเรามีทางเลือก2ทางในการใช้ตัดสินใจเลือกทางเดิน ของชีวิต ระหว่าง โครงการทำงานในตลอดระยะเวลาของเรา 40ปี กับโครงการ1-5ปี เราลองพิจารณาดู จากข้อมูลข้างล่าง
ทางเดินของชีวิต
ทางเลือกที่หนึ่ง การเป็นลูกจ้าง หรือรับราชการ
ทางเลือกที่2เส้นทางMLM
1.ทำงานให้คนอื่น
2.มีขอบเขตจำกัดรายได้
3.งานหยุดชะงัก รายได้ก็ชะงักด้วย
4.ไม่มีผลตอบแทนจากกำไร
5.ไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ในองค์กรที่เราทำ
6.เกษียณงานตามอายุงาน
7.เดินทางตามหน้าที่
8.หน้าที่งานมีขอบเขต
9.มีกฎระเบียบ
1.ทำงานเพื่อตนเอง
2.ทวีคูณรายได้
3.งานสะดุด รายได้คงที่
4.มีผลตอบแทนจากกำไร
5.มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ของการกระทำที่เกิดจากองค์กร นั้น สามารถให้เป็นมรดกได้
6.เลือกการเกษียณได้
7.มีผลกำไรชีวิตจากการเดินทาง
8.เคลื่อนไหวได้เต็มกำลัง
9.มีอิสระเสรี

นอก จากนี้ การขายตรง ยังมีจุดเด่น ไม่ว่าจะมองมุมไหนในแง่ผู้ประกอยการ ผู้บริหาร หรือมองในแง่นักขายตรงก็ตาม ทำให้ MLMเป็นทางเลือกที่ทุกคนต้องลอง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
จุดเด่นของธุรกิจMLM
มองในแง่ผู้ประกอบการ
มองในแง่นักขายตรง
1.การลงทุน ทำเลที่ตั้ง ไม่จำเป็น ต้องใช้ทำเลที่เด่นๆมาก
2.การบริหารสินค้าคงคลังไม่เสี่ยง
3.ไม่มีคู่แข่ง ณ จุดขาย
4.ไม่ต้องลงโฆษณาผ่านสื่อ ทีวี วิทยุ
5.ไม่มีสงครามเรื่องราคา
6.เพิ่มรายได้ ให้กับคนทั่วๆไป
7.ไม่เป็นปัญหา สังคม
1.ร่ำรวยด้วยการขยัน
2.รักกับทีมงาน
3.เบ่งบานเต็มที่พวกพ้อง?น้องพี่
4.มีฝีมือก้าวหน้า
5.หาความสำเร็จด้วยตนเอง
6.เก่ง และก้าวหน้า
7.สรรหาของดีไว้ให้ลูกค้า
ทำไมทำธุรกิจMLMแล้วไปไม่รอดหรือไปไม่ถึงดวงดาว
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
หลาย คนล้มเลิกการทำ MLM ไปเสียกลางคัน หรือกลางทาง ไปไม่ถึงดวงดาว ทั้งที่ ธุรกิจ นี้ไม่ได้ลงทุนเป็นตัวเงิน เพราะฉะนั้น ไม่มีคำว่า ล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก หลังจากลงแรงไปได้ สักพัก และบางคน ก็คิดว่าทำธุรกิจนี้ทำวันนี้ได้ ผลวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้เกิดได้ รวยได้เพียงคืนเดียว ยกเว้น จะถูกล๊อตเตอร์รี่ เท่านั้น ทำธุรกิจ นี้ คิดไส้เลยว่า3-6เดือน มันจะมีดัชนีชี้วัดออกมา แต่คนส่วนใหญ่มักใจร้อน และที่เป็นเหตุใหญ่ๆ มาจาก สาเหตุ ที่เหล่านี้??..
แพ้ภัยตัวเอง
นักขายตรงที่ทำธุรกิจ หรือ ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ แล้วไม่รวย ไปไม่ถึงดวงดาวมีที่มาจาก
จับ ปลาหลายมือ ขายหลายอย่าง แต่เอาดีไม่ได้เลย สักอย่าง บริษัท นี้ ก็เป็น นู่นก็เป็น บางทีเป็นเสียจนสินค้ามาชนกันเอง ยังแยกไม่ออก มั่วไปหมด อธิบายให้ ตัวเองยังไม่ถูกเลย แล้ว คนฟัง จะไปรู้เรื่องได้ไง
ไม่ เชื่อถือบริษัท มีทัศนคติไม่ดี ต่อองค์กร ทำงานไปตำหนิ บริษัท ของตนเองให้ทีมงานฟัง แล้วใครจะเชื่อถือ ตัวท่าน หรือวางใจบริษัท ว่าเป็นแบบท่านพูด หรือไม่ เท่ากับสู่ยุทธการทำร้ายตัวเอง
ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ไม่เอาจริงเอาจัง มัวแต่ทำเล่นๆ หรือจับจดจับจ่อ
เก่งแต่หาข้ออ้าง กล่าวคำแก้ตัวเสมอ ขาดวินัยการทำงาน และผัดวันประกันพรุ่ง
ทำงานอย่างขาดแรงจูงใจ ไม่มีความต้องการ ไม่ทุ่มเทต่อการงาน ขาดเป้าหมาย ขาดความทะเยอทะยาน และขาดจุดมุ่งหมายในชีวิต
ไม่เข้าใจรูปแบบ คือไม่เข้าใจว่ารูปแบบของความสำเร็จทางธุรกิจ MLM ต้องอาศัยเวลาไม่น้อยกว่า6เดือนในการเริ่ม หรือ อย่างเร็ว3เดือน ผ่านไปแล้ว จึงจะเห็นผล ต้องให้ความสำคัญต่อการประชุมเป็น อย่างมาก การสร้างบ้าน สร้างอนาคต ไม่มีสิ่งใดลงวันนี้ จะสำเร็จพรุ่งนี้
เซ็งคนรอบข้าง
ทำ งาน แล้ว คนรอบข้างที่ใกล้ชิด พูดให้แต่ข้อเสียธุรกิจ นี้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำ หรือทำมาเพราะตัวเองล้มเหลว ก็เลยมาพูดกรอกหูทุกวัน จนเกิดอาการ คล้อยตาม หรือญาติพี่น้อง มองเป็นเรื่องไร้สาระ คิดแบบเก่า ไม่เข้าใจธุรกิจ
หัวหน้าทีมไม่ดี
ดาวน์ ไลท์หลายๆคน ต้องอำลาวงการไปอย่าง น่าใจหาย เพราะมีปัญหากับอัพไลท์ จอมเบี้ยว พูดง่ายว่า เจออัพไลท์ หรือ หัวหน้าทีม จอมเล่ห์กล ประเภท
    • ฝากเบิกสินค้า แต่ไม่ได้สินค้า
    • ได้สินค้า แต่ไม่ได้ยอดขาย
    • ได้ยอดขาย แต่ไม่เคยได้โบนัส
    • โบนัสที่จะได้ รอกันแบบแทบชั่วอายุ
อัพ ไลท์ บางคน ขนาดเล่ห์เหลี่ยมจัด หลอกคนที่เป็น ดาวน์ไลท์ ที่รู้น้อยกว่า ให้ขนเงินขนทอง มาปิดยอดเพื่อหวังสมบัติ รางวัล หรือโบนัสพิเศษ หรือการเลื่อนตำแหน่ง ของตัวเอง เจอเข้าแบบนี้ก็กะอักเลือดกันทุกคน
บริษัทมีปัญหา
ขาด ความเป็นมืออาชีพในการบริหาร ขาดประสบการณ์ ขาดการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน แม้นการวิเคราะห์ทางด้านการตลาดหัวใจสำคัญ ยังมั่ว ไม่จริงจัง จริงใจ ขาดจริยธรรมและไม่ซื่อสัตย์ต่อผลิตภัณฑ์ หลายต่อหลายธุรกิจ ทำให้ บริษัทเหล่านี้ หยุดชะงัก และล้มตายไปในที่สุด มักมาจาก
ปัญหาตัวผู้บริหารธุรกิจขายตรง
ประเภทเก่งคนเดียว บริหารแบบเบ็ดเสร็จ ยึดอำนาจ ไดโนเสาร์เต่าล้านปี ขาดวิสัยทัศน์
-เขี้ยวลากดิน
-คอรับชั่นกันเป็นทึม กินกัน จนบริษัทเจ๊ง
ปัญหาจากสินค้า
คือ คุณภาพสินค้าไม่ได้ มาตรฐาน ลูกค้าเจอเข้าไปครั้งเดียว จอด แล้วใครจะมาซื้อซ้ำสอง ซ้ำสาม ราคาเกินจริง หรือ ประเภทสินค้า มีการขาดสต๊อคยู่บ่อย ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ฯลฯ
ปัญหาจากแผนการตลาด
จัด ทำแผนการตลาดโดยไม่คำนึงถึงจุดคุ้มทุน และผลกำไร ทางธุรกิจ จากพวกมือปืนรับจ้างๆ ต่างๆ ที่ใครเห็น ก็ยี้..โดยพยายามให้เห็น แผนการตลาดเด่น และจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูง แต่พอทำไปได้สักพัก ไม่มีเงินจ่ายผลประโยชน์ ให้เป็นไปตามแผนที่วาง หรือมีการเปลี่ยนแปลงแผนการตลาดในเชิงลบ แบบแทบรายเดือน ทำให้ ผู้ที่มาร่วมงานรามเป็นสมาชิกมีความรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบรายวัน รายเดือน
ปัญหาจริยธรรมทางธุรกิจ
สินค้า ไม่ผ่านการปฎิบัติ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่า จะในแง่สรรพสามิต หรือ อ.ย. (คณะกรรมการอาหาร และยา) แม้นแต่กระบวนการทางภาษี
TEL 85620 5996 2888 
>>www.morsenglao.blogspot.com<<