Friday, May 18, 2012

ปัญหาชายวัยทอง, ปัญหาของชายวัยทอง, มารู้จักโรคเบาหวาน,โรคเบาหวาน , ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน รับส่งสินค้าถึงมือท่าน.. สนใจติดต่อ 020-5996-2888

ปัญหาชายวัยทอง
ปัญหาของชายวัยทอง



เรามักจะได้ยินคำว่าวัยทอง ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนmenopause สำหรับผู้ชายเมื่ออายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนที่สร้างก็น้อยลงมักจะเริ่มเมื่อ อายุ 40 ปี andropause ซึ่งการขาดฮอร์โมนจะดำเนินไปอย่างช้าๆจนเหลือประมาณร้อยละ 10 ของวัยรุ่นบางคนอาจจเรียกว่า male climacteric, viropause
ฮอร์โมนเพศชาย
โดยทั่วๆไประดับฮอร์โมนเพศชายในผู้สูงอายุจะน้อยกว่าคนที่อายุน้อย ฮอร์โมนจะเริ่มลดลงเมื่อายุ 30 ปีและจะค่อยๆลดลง การลดลงของฮอร์โมนเพศชายจะไม่เหมือนเพศหญิงเมื่อถึงวัยทองจะไม่มีฮอร์โมน estrogen และเป็นทุกคน แต่สำหรับผู้ชายที่สูงอายุยังมีฮอร์โมนอยู่บ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างฮอร์โมนได้จนอายุ 70 ปีพบว่าร้อยละ5ที่มีฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ การให้ฮอร์โมนทดแทนเพศชายก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ
  • ทำให้ต่อมลูกหมากโต
  • ทำให้บดบังอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่ม
  • ทำให้เกิด sleep apnea
ความสำคัญของฮอร์โมน Testosterone
ฮอร์โมนนี้สร้างที่อัณฑะ(testis) และต่อมหมวกไต{adrenal gland}บทบาทสำคัญคือสร้างให้ร่างกายเหมือนผู้ชาย คือจะสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำให้มีความรู้สึกทางเพศและอารมณ์ดี ทำให้อวัยวะเพศแข็ง ช่วยสร้างเม็ดโลหิต ทำให้กระดูกแข็งแรง
อาการของผู้ชายที่ขาดฮอร์โมน
ฮอร์โมน testosterone มีหน้าที่สร้างความเป็นผู้ชาย เช่นกล้ามเนื้อ หนวดเครา ความต้องการทางเพศ เมื่อขาดฮอร์โมนจะมีอาการที่ขาดฮอร์โมน testosterone ดังนี้
  • หนวดเคราหยุดการเจริญ
  • อ้วนหรือไขมันเพิ่ม
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง
  • ร้อนตามตัว
  • อารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย
  • ไม่มีสมาธิ
  • ซึมเศร้า
  • อ่อนเพลียไม่มีแรง
  • นมโตและเจ็บ
  • หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  • เป็นโรคกระดูกพรุนการวินิจฉัยเนื่อง จากอาการไม่เฉพาะดังนั้นมักจะวินิจฉัยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคคนแก่ การตรวจเลือดก็ยังไม่มีเกณฑ์แน่ชัดว่าเมื่อไรจึงจะขาดฮอร์โมน ดังนั้นหากมีอาการเข้าได้กับภาวะที่มี testosteroneต่ำก็ให้สงสัยไว้ก่อนการรักษาการ ให้ฮอร์โมน Testosterone เพื่อทดแทนพบว่าได้ประโยชน์ในผู้ป่วยหลายรายโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีระดับ testosterone ต่ำพบว่าอาการที่ดีขึ้นได้แก่
    • อารมณ์ดีขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวา มองโรคในแง่ดี
    • รู้สึกกระฉับกระเฉง มีพลังในการทำงาน
    • อาการหงุดหงิดโกรธง่ายหรืออารมณ์ซึมเศร้าลดลง
    • นอนหลับดีขึ้น
    • มีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้น และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น
    • กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น
    ผลเสียของการฮอร์โมนทดแทน
    หากคุณมีโรค มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ห้ามใช้ฮอร์โมนนี้อย่างเด็ดขาด โรคต่างๆเหล่านี้ต้องระวัง
    • โรคตับ
    • โรคหัวใจและหลอดเลือด
    • บวมเท้า
    • ต่อมลูกหมากโต
    • โรคไต
    • โรคเบาหวาน 
     
    มารู้จักโรคเบาหวาน

    โรคเบาหวาน

    โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy article

    Diabetic-retinopathy.jpg
    โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy

    โรค เบาหวานขึ้นจอประสาทตาเป็นโรคแทรกซ้อนของเบาหวานที่ควบคุมไม่อยู่ จะลุกลามไปที่ตา และจะทำให้เกิดอันตราย ตั้งแต่ตามัว เห็นภาพซ้อน มองภาพแคบลง ไปจนถึงมองไม่เห็นไปเลย อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเป็นผลมาจากจอประสาทตาเสื่อม
    โรคตาที่เกิดจากเบาหวาน
    1.เบาหวานขึ้นจอรับภาพ : เกิดจากการทำลายของเส้นเลือดที่เลี้ยง จอ รับภาพ เบาหวานขึ้นจอรับภาพพบบ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุของตาบอดอันดับหนึ่ง เส้นเลือดที่เลี้ยงจอรับภาพจะบวม และรั่ว ทำให้จอรับภาพบวม และเกิดเส้นเลือดงอกผิดปกติที่จอรับภาพ ทำให้มีเลือดออกในลูกตา เนื่องจากเส้นเลือดเหล่านี้เปราะและแตกง่าย
    2.ต้อกระจก : เกิดจากเลนส์แก้วตาเปลี่ยนสภาพจากใสเป็นขุ่น โอกาสเกิดต้อกระจกของผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงกว่าตาคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2 เท่า และต้อกระจกก็เป็นตั้งแต่อายุยังไม่มากด้วย ต้อกระจกเองจะทำให้คนไข้ตามัวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นโรคที่รักษาได้ผลดีมากด้วยการผ่าตัด
    3.ต้อหิน : เกิดจากความดันตาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำลายขั้วประสาทตา ทำให้ตาบอดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่รู้สึกตัว ต้อหินในคนไข้เบาหวาน ก็พบบ่อยกว่าคนที่ไม่เป็นหวาน 2 เท่า และยิ่งเป็นเบาหวานนานขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีอัตราเสียงต่อการเป็นต้อหินสูงขึ้น เช่นเดียวกับ โรคเบาหวานขึ้นจอรับภาพ ต้อหินเป็นโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งเพราะมักไม่มีอาการเตือน ต้องตรวจจึงจะทราบ แต่รักษาได้ด้วยยาหยอด หรือแสงเลเซอร์ หรือ ผ่าตัด
    อาการ
    1.ในระยะแรกของโรคผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติที่จอประสาทตาเสื่อมจะไม่ลุกลามเร็ว แต่จะค่อยๆ เป็น และไม่ค่อยมีอาการจนกว่าตาจะมัว
    2.ต่อมาพบว่าการมองเห็นอาจปกติ หรือเริ่มมีอาการตามัวเนื่องจากจอประสาทตาบวม ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการตามัวโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานมาก่อน
    3.ในรายที่เป็นมากขึ้นมีเส้นเลือดผิดปกติงอกมาก อาจจะแตกได้ง่าย จะเห็นเป็นจุดๆ หรือมองไม่เห็นเลยถ้าเลือดออกมามาก ระยะลุกลามของโรค พบว่าจอประสาทตาจะขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นจุดๆ เกิดหลอดเลือดขึ้นใหม่ หลอดเลือดที่เกิดขึ้นใหม่นี้ผนังจะบางและแตกง่าย หลอดเลือดที่แตกแล้วน้ำเหลืองจะออกที่จอประสาทตา และในน้ำวุ้นของลูกตา ทำให้เกิดอาการตามัวและมองไม่เห็น ถ้าเลือดออกมากและน้ำวุ้นที่เลือดอยู่นานก็จะเกิดพังผืด และดึงให้จอประสาทตาหลุดลอกได้ เป็นสาเหตุให้ตาบอดได้
    4.ตาบอดจากเบาหวาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของประสาทตาทำให้มีเลือด น้ำเหลือง น้ำตา มาเกาะที่ประสาทตา ประสาทตาส่วนนั้นไม่สามารถจับภาพได้ เมื่อทิ้งไว้นานๆ ประสาทตาจะเสื่อมและมองไม่เห็น
    การรักษา
    1.ในระยะที่เบาหวานขึ้นจอตาไม่มาก จักษุแพทย์จะแนะนำให้ควบคุมโรคเบาหวานให้ดี และนัดมาดูเป็นระยะๆ สำหรับระยะที่มีเบาหวานขึ้นจอตามากจนถึงระดับหนึ่ง จำเป็นต้องฉายเลเซอร์ที่จอประสาทตาเพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตของหลอดเลือด และในกรณีที่เข้าสู่ระยะท้ายๆ จักษุแพทย์จะใช้การผ่าตัด
    2.จักษุแพทย์สามารถช่วยไม่ให้คนไข้เบาหวานตาบอดได้ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ ทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติในจอรับภาพ ทั้งนี้การใช้แสงเลเซอร์ไม่สามารถช่วยให้การมองเห็นที่เสียไปแล้วกลับคืนได้ หลักการคือใช้เลเซอร์ฉายลงไปตรงเส้นเลือดงอกใหม่เพื่ออุดเส้นเลือดและฉายลง บนจอรับภาพทั่วไปเพื่อลดการเกิดเส้นเลือดใหม่ เพราะเส้นเลือดที่งอกใหม่มีผนังบางแตกง่าย และลดการเกิดจอประสาทตาลอก
    3.การผ่าตัดน้ำวุ้นตา ในกรณีที่มีเส้นเลือดแตกและเลือดคั่งอยู่ในน้ำวุ้นตา ทำให้มองไม่เห็น ถ้าเลือดไม่สามารถดูดซึมเองได้หมด จะต้องผ่าตัดเอาออก เพื่อทำให้มองเห็นดีขึ้นและสามารถฉายเลเซอร์รักษาเบาหวานขึ้นตาได้
    4.การรักษาโดยการผ่าตัด ทำในรายที่มีเลือดออกในวุ้นตา และจอตาหลุดลอก โรคในระยะนี้ แม้จะได้รับการรักษาแล้ว แต่สายตาอาจจะไม่กลับมาดีดังเดิมได้
    5.ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์เจริญมากขึ้น มีการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพจอประสาทตาในระบบดิจิตอล ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย แพทย์สามารถถ่ายภาพจอประสาทตาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตาและบันทึก ภาพออกมาได้ทันที ซึ่งช่วยในการเก็บข้อมูลและช่วยในการพิจารณาตัดสินให้การรักษาได้ทันที ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยในการป้องกันมิให้เกิดตาบอดหรือสายตาพิการ

    ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย
    บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน
    รับส่งสินค้าถึงมือท่าน..
    สนใจติดต่อ 020-5996-2888

    บริการส่งถึงมือท่าน

    หมดปัญหาของล่าช้า ของไม่ถึงมือ การหลอกลวง ของปอม

     

ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร, ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์ TEL 020 5996 2888 / 2222 8597

ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร

 * ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ


TEL 020 5996 2888 / 2222 8597 คำพัด
สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนบทความวันนี้ เกิดจากการที่มี่ผู้อ่านบทความของเราถามกันมามากเหลือเกินเกี่ยวกับการรับประทานยาสตรีหลังคลอดหมอเส็ง ซึ่ง คำถามที่ผมได้รวบรวมมาไว้ เป็นคำถามที่ถูกถามบ่อยมาก จนกระทั่งผมคิดว่าน่าจะเขียนเป็นบทความที่เป็นทางการ จะได้ไม่ต้องถามกันให้เสียเวลาอีก

คำถามสุดฮิตนั่นก็คือ จะสามารถรับประทานยาสตรีหลังคลอดได้เมื่อไหร่ เนื่องจากเป็นห่วงว่าการรับประทานยาสตรีหลังคลอดจะส่งผลต่อน้ำนมที่ให้แก่บุตร ?
ผมเข้าใจ ว่าคนที่ถามคำถามนี้คงหนีไม่พ้นคุณแม่มือใหม่ หรืออาจจะเป็นคุณแม่มือเก่าที่สนใจอยากจะรับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอ เส็ง ก่อนอื่นเรามาทบทวนสรรพคุณของยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งกันก่อนอีกครั้งจะดี กว่า
  1. ช่วยทำหน้าที่แทนการอยู่ไฟ หมายความว่า ผู้ที่รับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งก็เหมือนได้อยู่ไฟหลังคลอดบุตร
  2. ช่วยขับน้ำคาวปลา
  3. ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
  4. ช่วยทำให้ผิวพรรณ สดใส สวยงาม
  5. ช่วยทำให้หน้าท้องที่หย่อนยาน จากการคลอดบุตรยุบตัวเร็ว
  6. ช่วยทำให้มีน้ำนมมาก
ส่วนประกอบหลักของยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง คือ ว่านชักมดลูก เพราะฉะนั้นท่านที่อยากจะทานว่านชักมดลูกหมอเส็งแทนยาสตรีหลังการคลอดบุตร หมอเส็ง ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ผมอยากถามคุณว่า ถ้าสรรพคุณของยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งดีกว่า ว่านชักมดลูกหมอเส็ง สูตร 2 ถึง 7 เท่า คุณจะเลือกรับประทานสูตรไหน ?

เอาละกลับมาตอบคำถามข้างต้นกันดีกว่า ผมขอตอบจากข้อมูลที่ผมได้สอบถามมาจากผู้รู้และประสบการณ์ตรงดังนี้
  1. กรณีที่คุณแม่คลอดตามธรรมชาติ ก่อนที่คุณแม่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งนั้น ควรจะรับประทานยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ (1 ขวดใหญ่) เพื่อบำรุงร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรงเสียก่อน จากนั้นค่อยรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งติดต่อกัน ส่วนระยะเวลาในการรับประทานนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่ว่าอยากสวย หน้าท้องยุบเร็ว มากขนาดไหน
  2. กรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด สูตรในการรับประทานก็ไม่แตกต่างจากข้อแรก เพียงแต่ว่าต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นชัน ชนิดแคปซูลไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ ก่อนที่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง
  3. การรับ ประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง มีผลการให้นมลูกหรือไม่ สำหรับคำถามนี้คุณแม่หลายๆท่านเป็นกังวลกันมาก ผมขอเอาประสบการณ์ตรงมาตอบเลยว่า พี่สะใภ้ ของผมหลังจากคลอดลูกก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งตามสูตร และให้นมลูกตามปกติ หลานผมก็เป็นเด็กฉลาดและแข็งแรงดีมาก นอกจากนี้คุณภรรยาของคุณหมอเส็งก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตร หลังคลอดน้องโป๊ยเซียนเช่นกัน
คิดว่าคุณแม่หลายท่านที่มีคำถามเกี่ยวกับยาสตรีหลังคลอดหมอเส็ง คงหายข้องใจกันไปแล้วนะครับ
ถ้าบทความที่ผมเขียนมีประโยชน์ช่วยคอมเม้นต์ที่ด้านล่างด้วยนะครับ

ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์

สุภาพ สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีน้องเป็นธรรมดาครับที่อยากจะบำรุงร่างกายของตัว เองและลูกในท้อง จึงมีคำถามจากคุณผู้หญิงที่กำลังมีน้องว่า ถ้าตนเองอยากจะบำรุงร่างกายด้วยยาหมอเส็งแล้วจะทานยาหมอเส็งตัวไหนดี
ไม่ใช่แค่อยากบำรุงร่างกายนะครับ คุณผู้หญิงบางคนในช่วงมีน้องแล้วมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นก็เป็นกังวลว่าหลัง คลอดแล้วจะลดน้ำหนักลำบาก ก็เลยอยากควบคุมน้ำหนักตอนตั้งท้องซะงั้น ผมถูกถามแบบนี้ก็งงๆเหมือนกันครับ แต่ก็ลองสอบถามผู้รู้มาให้ทุกครั้ง เพราะว่าใจเขาใจเราครับ
บทความในวันนี้ผมจะบอกถึงยาหมอเส็งที่หญิงตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้ครับ เอาเป็นว่าอ้างอิงจากคำถามที่เคยถูกถามมานะครับ

ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์สามารถรับประทานยาหมอเส็งตัวไหนได้บ้าง ?
ยาหมอเส็งที่รับประทานได้ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์มีดังนี้ครับ คือ
  1. ยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
  2. ยาบำรุงร่างกาย 234 ตราหมอเส็ง ชนิดแคปซูล
  3. ยาบำรุงร่างกาย 999 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
พูดโดยสรุป คือ หญิงตั้งท้องสามารถทานยาบำรุงร่างกายชนิดที่ใช้ปรับธาตุได้ครับแต่ยาหมอเส็งชนิดอื่นห้ามรับประทานครับ เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงต่อลูกได้ครับ !!!
มีคำถามน่าสนใจอีกคำถามหนึ่งของคนที่เค้าถามเข้ามาว่า อยากควบคุมน้ำหนักระหว่างตั้งท้องก็เลยอยากทานยาสลายไขมันหมอเส็ง ได้หรือเปล่า ?
อันนี้ขอยืนยันคำตอบด้านบนครับ ทานไม่ได้ครับ ทานได้เพียงยาบำรุงร่างกายที่ผมแนะนำไปได้เพียงเท่านั้น
วันนี้สั้นๆแต่คิดว่าเป็นประโยชน์ครับ

*** ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ
Email: morsenglao@hotmail.com