Sunday, May 27, 2012


สวัดีครับ   ทุกๆท่าน ผมชื่อ คำพัด  สีมมะวงค์  ครับผมเป็นคนหนึ่งฝันอยากจะรวย และ มีอิสรภาพทางการเงินกับเขาบ้าง ผมมีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับคนที่อยากจะมีอิสรภาพทางการเงินและเวลาเพื่อมาเปิดโอกาสให้ท่านได้พิจรณาอีกทางหนึ่งครับ
              10 คำถามของคนอยากรวย...... เมื่ออ่านจบแล้ว  ท่านคิดว่า  ท่านตอบคำถามตัวเองได้หรือยัง
เมื่อคืนผมออกไปสังสรรค์ กับรุ่นน้องคนหนึ่ง มีการพบปะพูดคุยเรื่องต่างๆมากมาย ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แต่ที่เอามาเขียน Post นี้มีสาระนะครับ เผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ อ่านนะครับ จากที่ผมได้คุยกับรุ่นน้องคนนี้ มีคำถามหนึ่งที่ผมชอบในคำถามของเขา พี่ครับ ทำอย่างไร ผมถึงจะรวยก่อน อื่นผมขอบอกก่อนนะครับ ว่าตัวผมเองก็ ไม่ได้รวยอะไร แค่มีกินมีใช้ไม่ขัดสน และมีเงินลงทุนบ้างแต่มีจำนวนจำกัดเท่านั้นเอง ตัวผมเองใคร่ควรในคำถาม นับว่าเป็นคำถามที่ดีทีเดียว  ผมก็เลยตอบเขาไปว่า เป็นคำถามที่ดี และถามได้ถูกต้องมาก พี่จะเปรียบเทียมคำถามให้ฟัง
           ทำอย่างไร ผมถึงจะรวย :การ ที่ถามแบบนี้แสดงว่าเราอยากรวยจริงๆโดยต้องเกิดจากการกระทำ นั่นคือทำอย่างไรถึงจะรวย จะต้องทำอะไร เพื่อให้เกิดการมีรายรับมากๆขึ้น อย่างนี้ซิ มีโอกาสรวยแน่นอน
เมื่อไหร่ผมจะรวย:การถามแบบนี้ก็แสดงว่าต้องการจะรวย แต่ไม่ต้องการทำอะไรทั้งสิ้น นั่งรอความรวย ถูกล็อตเตอรี่ หรือถูกรางวัล ช่างเพ้อฝัน  แล้วก็ ฝันไปเถอะว่าจะรวย ผมก็เลยเปรียบเทียบความคิดให้ได้เห็นภาพดังนี้นะครับ
             สิบข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง
ข้อหนึ่ง เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาวซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็น เวลานาน และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง 
ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มี แนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ ซุบซิบนินทาเป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
ข้อสาม คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่ มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้ 
ข้อสี่ คน รวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถ สร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความ ผันผวนของราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้ม ค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง บ้าบิ่นเช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ข้อห้า คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้ และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำ ไปสู่ความร่ำรวยได้ 
ข้อหก คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยงและอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อย กว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้ 
ข้อเจ็ด คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อย บอกหรือรู้กันยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต 
ข้อแปด คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง ข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนใน ทรัพย์สินหลาย ๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็น หลัก 
ข้อเก้า คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยมองที่ภาพรวม ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้อง เสียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขา จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง 
และสุดท้าย ข้อสิบ คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร? ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจเช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ?
เมื่ออ่านจบแล้ว  ท่านคิดว่า  ท่านตอบคำถามตัวเองได้หรือยัง
ถ้าท่านสนใจอยากจะรวยไปพร้อมกับเราและทีมงานท่านลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.morsenglao.blogspot.com
 รับอบรม ฟรี พร้อมเครื่องมือทำธุรกิจอีกเพียบ คุณมีหน้าที่แค่โปรโมทธุรกิจเท่านั้นก็รวยแล้ว
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เราจะส่งข้อมูลไปให้คุณอ่านเพิ่มเติมทาง mail:morsenglao@hotmail.com ครับ.
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงมีโอกาสได้ร่วมงานกัน 
ผม   คำพัด  สีมมะวงค์              โทรศัพท์: 020 22228597 / 56999579
 (คลิกลิ้งค์ ไม่ได้ กรุณาCopy แล้วไปวางที่ช่องใส่ เว็บไซด์) 

หมอเส็งให้สัมภาษณ์ นสพ สยามดารา TEL 020 5996 2888

หมอเส็งให้สัมภาษณ์ นสพ สยามดารา


ถ้าจะพูดถึงความสวยความงามแล้ว ผู้หญิงทุกคนต้องสนใจเป็นแน่ เพราะความงามกับผู้หญิงนั้นถือเป็นของคู่กันมานมนาน วันนี้เราจะพาคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามหรือผู้หญิงที่ต้องการให้ความสวย นั้นอยู่คู่กับตนเองไปตลอดกาลนั้นต้องฟังทางนี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปคุยกับปรมาจารย์ด้านศาสตร์สมุนไพร ที่จะทำให้คุณดูสวยจากภายในสู่ภายนอกกับผู้ชายที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี ในชื่อ “หมอเส็ง” ที่จะมาเปิดอกและเคล็ดลับความงามอย่างธรรมชาติให้คุณได้สัมผัสความมหัศจรรย์ ของว่านไทยทีมีชื่อว่า “ว่านชักมดลูก” ซึ่งหมอเส็งถือเป็นคนแรกที่ได้บุกเบิกสมุนไพรว่านชักมดลูกมาหลายทศวรรษ
ความเป็นมาของคุณหมอในการเริ่มทำสมุนไพรเป็นอย่างไร ?
ผมเป็นหมอแผนโบราณมาหลายสิบปี มีก๋งและพ่อผมทั้งตระกูลเป็นหมอยา มีความชำนาญด้านสมุนไพร ชีวิตวัยเด็กของผมคลุกคลีอยู่กับร้านขายยาแผนโบราณ พ่อก็เป็นหมอมาจากเมืองจีนสอนให้ผมรู้จักกับสมุนไพร ซึ่งการศึกษาแพทย์แผนโบราณนั้นยากมาก ต้องเรียนรู้ถึงสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด ถ้าจะใช้สมุนไพรรักษาให้ถูกหลักและให้ออกฤทธิ์รักษาอย่างได้ผลต้องแตกฉาน สมุนไพรเพียงชนิดเดียวไม่สามารถรักษาได้ผล ต้องนำสมุนไพรหลายๆชนิดมาผสมผสานกันจึงจะออกฤทธิ์ในการรักษาอย่างได้ผล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้ง ประสบการณ์เป็นหมอมาหลายสิบปี พอประสบการณ์มันสูง เก็บข้อมูลจากการรักษาคนมาเยอะ ก็จะรู้ว่าสมุนไพรตัวไหนรักษาโรคอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น มีความชำนาญขึ้น ระยะหลังเลยมาทำยาขาย เราเอาของที่ดีๆมีคุณภาพได้ผลเร็ว มาทำยาสำเร็จรูปขาย
อะไรที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนให้คุณหมอหันมาสนใจสร้างธุรกิจนี้ ?

เพราะลำพังเป็นหมออย่างเดียวเนี่ยเหนื่อย มันเหนื่อยเพราะรักษาคนไข้หลายสิบคน มันไม่มีเวลาว่าง ก็เลยเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นทำยามาขาย พอทำยามาขายแล้วขายดีมีชื่อเสียงดังขึ้นมา แล้วก็พอเราดังคนก็เข้ามาสัมผัสเยอะ แล้วพอมีคนกลุ่มหนึ่งพวกขายตรง ขายแบบที่ว่าสร้างคนขายให้เป็นกลุ่มแล้วเอาไปขายก็กลายเป็นเปิดบริษัท แสงสุริยะฉัตร ทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายใต้ชื่อ “หมอเส็ง” สมุนไพรที่เอามาจำหน่ายมีหลายตัวด้วยกัน และที่ทำให้มีชื่อเสียงมากๆคือ สมุนไพรชื่อว่า “ว่านชักมดลูก” นี่แหละครับ
จุดเด่นของสมุนไพรมีอะไรบ้าง ?

ก็คือ ความเป็นธรรมชาติ จริงๆแล้วร่างกายของคนเราเป็นธรรมชาติ ถ้าเราใช้ธรรมชาติไปบำบัดโรคต่างๆร่างกายจะยอมรับมากกว่า โอกาสแพ้ก็ไม่มี ถามว่ายาสมุนไพรได้ผลไหม ? คือ สมัยนี้คนทำไม่เป็นชอบทำออกมาขาย หรือเป็นหมอก็ไม่ชำนาญรักษาก็เลยไม่หาย ผมเองเป็นคนโกหกไม่เป็น ถ้าผมพูดถึงสรรพคุณ คือ ผมได้ทดสอบแล้วลองใช้แล้ว สมุนไพรมันอยู่ที่คนใช้ ใช้อย่งเดียวมันไม่ได้ผล กวาวเครือ อย่างเดียวมันไม่ได้ผล ถ้าได้ผลมันก็น้อย  คือ คนโบราณจะมีการผสมผสานสมุนไพรหลายตัว เพราะฉะนั้นสมุนไพรอยู่ที่คนชำนาญ  คนทำขายเยอะก็ต้องเลือกให้ดี ต้องระวัง
หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่านชักมดลูกมีที่มาอย่างไร ?
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรที่มีประเภทคล้ายเผือกมัน ลักษณะคล้ายมดลูกของผู้หญิง ธรรมชาติบ่งบอกถึงความเป็นยาเกี่ยวกับมดลูกของผู้หญิงโดยเฉพาะ ถ้าพูดถึงชื่อฟังดูแล้วน่ากลัว เพราะมีคำว่า “ชัก” คำว่าชักมดลูกนั้นหมายถึง ชักหรือหดทุกส่วนของกล้ามเนื้อที่หย่อนยานให้เต่งตึงสดใส ว่านนี้เราเห็นว่ามันให้คุณประโยชน์ เป็นสมุนไพรไทยของคนไทย แล้วยาไทยมันดัง เห็นว่าว่านเป็นสมุนไพรที่ให้คุณกับผู้หญิงทุกจุดทุกมุมครับ ก็เลยเรียกว่าทำออกมาขายแล้วมันขายดี ตลาดยอมรับ คุณผู้หญิงก็กินคุณภาพ คือ นอกจากจะทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิงแล้ว ยังเน้นเรื่องประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ หรือประจำเดือนมาแล้วปวดท้องมากๆ หรืออาการหน่วงท้องน้อย ปวดมดลูก ช่วยบรรเทาอาการตกขาว
สรรพคุณของว่านชักมดลูกมีอะไรบ้าง ?
อย่างที่บอก ว่านชักมดลูก มีฤทธิ์กระชับมดลูก ช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่งหรือมดลูกต่ำให้สูงขึ้น ช่วยให้มดลูกกระชับขึ้น จริงๆมันจะออกฤทธิ์ตรงมดลูกเป็นส่วนใหญ่ ที่อื่นมันจะออกฤทธิ์น้อย เพราะฉะนั้นคนไทยเราหรือคนทั่วไปทำงานหนัก เป็นเหตุให้มันมีปัญหาเรื่องมดลูก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการเจ็บท้องน้อยแล้วไม่หาย กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย หรือมดลูกต่ำลงมาคาอยู่ตรงช่องคลอดก็มี คือ มดลูกอยู่ผิดตำแหน่งมันก็ส่งผลเยอะก็มีปัญหาเยอะ
ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงกำลังเผชิญมีอะไรบ้าง ?
ก็มีอย่างตกขาว กลิ่นไม่สะอาด มดลูกอักเสบเป็นประจำ ทำให้มีประจำเดือนแล้วปวด แล้วพวกหน่วงท้องน้อยเนี่ย คือ ทำงานหนักแล้วจะเจ็บจี๊ดเข้าหัวใจเลย ทำให้ต้องหยุดชั่วคราวจนกว่าอาการเจ็บมันจะบรรเทา ถึงจะทำงานได้ต่อ เพราะฉะนั้นมันจะเป็นอุปสรรคต่อผู้หญิงนะครับ
ว่านชักมดลูกนี้จะช่วยรักษาปัญหาของผู้หญิงได้อย่างไร ?
มันจะช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่งให้เข้าอู่ หรือแก้เรื่องมดลูกอักเสบได้ ทุกวันนี้ผู้หญิงไทยที่มีปัญหาเรื่องมดลูกมีเยอะ ทุกคนที่กินมันได้ผล การทำยาขายมันอยู่ทีคุณภาพ ถ้าคุณภาพดีก็ยอมรับกันและผลิตภัณฑ์ของเรามันได้ผลมาก
นอกจากนั้นว่านชักมดลูกยังช่วยในเรื่องของความสวยความงามด้วย
ความสวยความงามของผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญ ว่านชักมดลูกทำให้ผู้หญิงมีความเป็นผู้หญิงโดยสมบูรณ์ อะไรที่หย่อนๆยานๆนั้นตึงหมด อย่างหน้าอกหย่อนยานกินสัก 3 วันก็จะตึงขึ้นแล้ว บางคนหน้าอกแฟบกินไปก็สร้างหน้าอกเป็นรูปเดิม ถึงจะไม่สวยเท่าเดิมแต่ก็ดูแล้วไม่น่าเกลียด เรียกง่ายๆว่าช่วยเสริมอกหย่อนยานให้เต่งตึงขึ้น ผู้หญิงจะรู้จุดนี้ เนื่องจากมันมีวิวัฒนาการการชัก หมายถึงว่า ทำให้ตึง อย่างใบหน้าหย่อนๆมันก็ตึงขึ้นไป อีกทั้งยังลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ต้นคอ หน้าท้องและผิวพรรณ ลบรอยด่างดำบนใบหน้า
ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่นอยากให้คุณหมออธิบายตรงนี้ให้สาวๆฟังหน่อย
กล้ามเนื้อย่นๆหย่อนๆ หน้าเหี่ยวๆ จริงๆมันไม่เกี่ยวกับผิวนะ คุณต้องเข้าใจมันเกิดจากกล้ามเนื้อบนใบหน้าหดตัว พอกล้ามเนื้อบนใบหน้าเหี่ยวย่นผิวจะย่นด้วย เพราะผิวต่อกับเนื้อพอกล้ามเนื้อมันเสื่อมโทรมหรือหย่อนยาน มันก็จะทำให้ใบหน้าเหี่ยว
แสดงว่าว่านนี้ช่วยในเรื่องของผิวดีขึ้นด้วย ?
หน้าตึงก็ทำให้ผู้หญิงสวยขึ้นด้วย ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ฝ้าต่างๆจางลง และนอกจากนั้นก็ทำให้พวกหน้าแห้งทาแป้งไม่ติด กินสัก 3-5 วันหน้าก็จะมีน้ำมีนวลขึ้นรับแป้ง ผ่องขึ้น คือจะช่วยรักษาผิวหน้าที่แห้งทาแป้งไม่ติดหลังจากรับประทานประมาณ 7 วัน อาการทาแป้งไม่ติดจะหายไป เรียกว่าว่านชักมดลูกให้คุณภาพทั้งร่างกายเลย
แล้วสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์เป็นเช่นไร ?
ผู้หญิงที่เจ็บมดลูกบ่อยนอนกับสามีก็ไม่ได้ ก็จะเจ็บ หรือผู้หญิงที่มีอารมณ์ทางเพศเปลี่ยนไปเพราะมดลูกไม่ดี อย่างพวกที่ตายด้านไม่มีอารมณ์เรื่อง sex ไม่มีน้ำหล่อลื่น พอกินเข้าไปจะมีน้ำหล่อลื่น ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดสตรี จะมีอาราณ์มากขึ้้น ช่วยกระชับช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์ ช่วยเสริมอารมณ์ทางเพศที่หมดไปให้กลับฟื้นคืนมาภายใน 7 วัน เรื่องเซ็กซ์ไม่น่ารังเกียจนะ เพราะไม่ว่าจะโกรธกันแค่ไหนกลางคืนมีเซ็กซ์กันเนี่ยอารมณ์โกรธแค้นจะหายไป คนถึงเรียกว่า ว่านมหาเสน่ห์
ทราบมาว่าคุณหมอมีไร่ปลูกว่านเองเลย ?
ครับ ว่านผมปลูกเอง เรามีพันธุ์ของเราเอง ผมจะเอาว่านมาปรุงแต่งเอง เลยทำให้ว่านชักมดลูกของผมที่กินเข้าไปแล้ว ผู้หญิงนอกจากจะสวยมีเสน่ห์แล้ว อกตึงไร้รอยเหี่ยวย่นแล้ว ยังทำให้ผู้หญิงที่บกพร่องเรื่องเซ็กซ์หรือเรื่องเพศจะสมบูรณ์ขึ้นได้ใน 3 วัน มันจะกลับมาดี ผู้หญิงที่ไม่มีความบกพร่องเรื่องเพศยังไงก็มีเสน่ห์ครับ และยิ่งกว่านั้นสูตรที่ผมทำ สรรพคุณยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่สะอาดต่างๆ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ กลิ่นผม กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นเท้า เมื่อทานติดต่อกัน 3-5 วันรับรองว่ากลิ่นต่างๆจะไม่มีเลย
แสดงว่าคุณหมอได้ประยุกต์การผสมสมุนไพรให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น ?
คือผมได้ใช้ตัวอื่นเข้าไปให้มีฤทธิ์ในการดับกลิ่นครับ เพราะฉะน้้นคนที่กินเข้าไปจะดับกลิ่นหมด กลิ่นตัว กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ คนกินเข้าไปแล้วปากจะหอมมาก นี่คือจุดเด่นกินแล้วหายครับ ยาฝรั่งไม่มีหรอก บางอย่างยาแผนปัจจุบันไม่มี แม้ว่าจะมีว่านชักมดลูกหลายยี่ห้อ แต่ส่วนผสมยังไงก็ไม่เหมือนกันหรอกครับ
นอกจากว่าชักมดลูกแล้วคุณหมอมีสมุนไพรตัวอื่นๆแนะนำสาวๆอีกไหม ?
ใครอยากอกสวยนะผมมีอีกตัวนึง สวยภายในอาทิตย์เดียว หน้าจะเด้งมีออร่า หน้าผุดผ่องขึ้น จะเป็นแบบกินเกี่ยวกับภายในครับ กวาวเครือขาวครับ ตัวนี้จะเป็นยาที่เพิ่งทำออกมา ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงขาวสวย ฝ้าจางใบหน้าหายมัน ใบหน้าที่ทาแป้งไม่ติดจะดีขึ้น แป้งจะติดหน้า มันจะรักษาจากภายสู่ภายนอก จะสวยได้นานขึ้น
งั้นให้คุณหมอช่วยสรุปข้อสำคัญของสมุนไพรตามแบบฉบับของหมอเส็งหน่อย
สมุนไพรของหมอเส็งจะช่วยลบรอยเหี่ยวย่น ลบรอยฝ้าและด่างดำ รักษาผิวที่แห้ง ช่วยเสริมอกที่หย่อนยาน รักษาอาการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการตกขาว ช่วยกระชับช่องคลอดชักมดลูกให้สูงขึ้น ลดอาการร้อนวูบวาบและอ่อนเพลียในคนวัยทอง ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ทางเพศเพิ่มน้ำหล่อลื่น ขจัดกลิ่นต่างๆในร่างกายครับ
ข้อมูลจาก นสพ สยามดารา
Telephone Laos 85620 5996 2888  /  2222 8597  /  5479 2000  /  7775 8881 /  7755 5579 Mr kham phat

Friday, May 18, 2012

ปัญหาชายวัยทอง, ปัญหาของชายวัยทอง, มารู้จักโรคเบาหวาน,โรคเบาหวาน , ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน รับส่งสินค้าถึงมือท่าน.. สนใจติดต่อ 020-5996-2888

ปัญหาชายวัยทอง
ปัญหาของชายวัยทอง



เรามักจะได้ยินคำว่าวัยทอง ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนmenopause สำหรับผู้ชายเมื่ออายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนที่สร้างก็น้อยลงมักจะเริ่มเมื่อ อายุ 40 ปี andropause ซึ่งการขาดฮอร์โมนจะดำเนินไปอย่างช้าๆจนเหลือประมาณร้อยละ 10 ของวัยรุ่นบางคนอาจจเรียกว่า male climacteric, viropause
ฮอร์โมนเพศชาย
โดยทั่วๆไประดับฮอร์โมนเพศชายในผู้สูงอายุจะน้อยกว่าคนที่อายุน้อย ฮอร์โมนจะเริ่มลดลงเมื่อายุ 30 ปีและจะค่อยๆลดลง การลดลงของฮอร์โมนเพศชายจะไม่เหมือนเพศหญิงเมื่อถึงวัยทองจะไม่มีฮอร์โมน estrogen และเป็นทุกคน แต่สำหรับผู้ชายที่สูงอายุยังมีฮอร์โมนอยู่บ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างฮอร์โมนได้จนอายุ 70 ปีพบว่าร้อยละ5ที่มีฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ การให้ฮอร์โมนทดแทนเพศชายก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ
  • ทำให้ต่อมลูกหมากโต
  • ทำให้บดบังอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่ม
  • ทำให้เกิด sleep apnea
ความสำคัญของฮอร์โมน Testosterone
ฮอร์โมนนี้สร้างที่อัณฑะ(testis) และต่อมหมวกไต{adrenal gland}บทบาทสำคัญคือสร้างให้ร่างกายเหมือนผู้ชาย คือจะสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำให้มีความรู้สึกทางเพศและอารมณ์ดี ทำให้อวัยวะเพศแข็ง ช่วยสร้างเม็ดโลหิต ทำให้กระดูกแข็งแรง
อาการของผู้ชายที่ขาดฮอร์โมน
ฮอร์โมน testosterone มีหน้าที่สร้างความเป็นผู้ชาย เช่นกล้ามเนื้อ หนวดเครา ความต้องการทางเพศ เมื่อขาดฮอร์โมนจะมีอาการที่ขาดฮอร์โมน testosterone ดังนี้
  • หนวดเคราหยุดการเจริญ
  • อ้วนหรือไขมันเพิ่ม
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง
  • ร้อนตามตัว
  • อารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย
  • ไม่มีสมาธิ
  • ซึมเศร้า
  • อ่อนเพลียไม่มีแรง
  • นมโตและเจ็บ
  • หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  • เป็นโรคกระดูกพรุนการวินิจฉัยเนื่อง จากอาการไม่เฉพาะดังนั้นมักจะวินิจฉัยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคคนแก่ การตรวจเลือดก็ยังไม่มีเกณฑ์แน่ชัดว่าเมื่อไรจึงจะขาดฮอร์โมน ดังนั้นหากมีอาการเข้าได้กับภาวะที่มี testosteroneต่ำก็ให้สงสัยไว้ก่อนการรักษาการ ให้ฮอร์โมน Testosterone เพื่อทดแทนพบว่าได้ประโยชน์ในผู้ป่วยหลายรายโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีระดับ testosterone ต่ำพบว่าอาการที่ดีขึ้นได้แก่
    • อารมณ์ดีขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวา มองโรคในแง่ดี
    • รู้สึกกระฉับกระเฉง มีพลังในการทำงาน
    • อาการหงุดหงิดโกรธง่ายหรืออารมณ์ซึมเศร้าลดลง
    • นอนหลับดีขึ้น
    • มีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้น และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น
    • กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น
    ผลเสียของการฮอร์โมนทดแทน
    หากคุณมีโรค มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ห้ามใช้ฮอร์โมนนี้อย่างเด็ดขาด โรคต่างๆเหล่านี้ต้องระวัง
    • โรคตับ
    • โรคหัวใจและหลอดเลือด
    • บวมเท้า
    • ต่อมลูกหมากโต
    • โรคไต
    • โรคเบาหวาน 
     
    มารู้จักโรคเบาหวาน

    โรคเบาหวาน

    โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy article

    Diabetic-retinopathy.jpg
    โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy

    โรค เบาหวานขึ้นจอประสาทตาเป็นโรคแทรกซ้อนของเบาหวานที่ควบคุมไม่อยู่ จะลุกลามไปที่ตา และจะทำให้เกิดอันตราย ตั้งแต่ตามัว เห็นภาพซ้อน มองภาพแคบลง ไปจนถึงมองไม่เห็นไปเลย อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเป็นผลมาจากจอประสาทตาเสื่อม
    โรคตาที่เกิดจากเบาหวาน
    1.เบาหวานขึ้นจอรับภาพ : เกิดจากการทำลายของเส้นเลือดที่เลี้ยง จอ รับภาพ เบาหวานขึ้นจอรับภาพพบบ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุของตาบอดอันดับหนึ่ง เส้นเลือดที่เลี้ยงจอรับภาพจะบวม และรั่ว ทำให้จอรับภาพบวม และเกิดเส้นเลือดงอกผิดปกติที่จอรับภาพ ทำให้มีเลือดออกในลูกตา เนื่องจากเส้นเลือดเหล่านี้เปราะและแตกง่าย
    2.ต้อกระจก : เกิดจากเลนส์แก้วตาเปลี่ยนสภาพจากใสเป็นขุ่น โอกาสเกิดต้อกระจกของผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงกว่าตาคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2 เท่า และต้อกระจกก็เป็นตั้งแต่อายุยังไม่มากด้วย ต้อกระจกเองจะทำให้คนไข้ตามัวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นโรคที่รักษาได้ผลดีมากด้วยการผ่าตัด
    3.ต้อหิน : เกิดจากความดันตาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำลายขั้วประสาทตา ทำให้ตาบอดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่รู้สึกตัว ต้อหินในคนไข้เบาหวาน ก็พบบ่อยกว่าคนที่ไม่เป็นหวาน 2 เท่า และยิ่งเป็นเบาหวานนานขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีอัตราเสียงต่อการเป็นต้อหินสูงขึ้น เช่นเดียวกับ โรคเบาหวานขึ้นจอรับภาพ ต้อหินเป็นโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งเพราะมักไม่มีอาการเตือน ต้องตรวจจึงจะทราบ แต่รักษาได้ด้วยยาหยอด หรือแสงเลเซอร์ หรือ ผ่าตัด
    อาการ
    1.ในระยะแรกของโรคผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติที่จอประสาทตาเสื่อมจะไม่ลุกลามเร็ว แต่จะค่อยๆ เป็น และไม่ค่อยมีอาการจนกว่าตาจะมัว
    2.ต่อมาพบว่าการมองเห็นอาจปกติ หรือเริ่มมีอาการตามัวเนื่องจากจอประสาทตาบวม ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการตามัวโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานมาก่อน
    3.ในรายที่เป็นมากขึ้นมีเส้นเลือดผิดปกติงอกมาก อาจจะแตกได้ง่าย จะเห็นเป็นจุดๆ หรือมองไม่เห็นเลยถ้าเลือดออกมามาก ระยะลุกลามของโรค พบว่าจอประสาทตาจะขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นจุดๆ เกิดหลอดเลือดขึ้นใหม่ หลอดเลือดที่เกิดขึ้นใหม่นี้ผนังจะบางและแตกง่าย หลอดเลือดที่แตกแล้วน้ำเหลืองจะออกที่จอประสาทตา และในน้ำวุ้นของลูกตา ทำให้เกิดอาการตามัวและมองไม่เห็น ถ้าเลือดออกมากและน้ำวุ้นที่เลือดอยู่นานก็จะเกิดพังผืด และดึงให้จอประสาทตาหลุดลอกได้ เป็นสาเหตุให้ตาบอดได้
    4.ตาบอดจากเบาหวาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของประสาทตาทำให้มีเลือด น้ำเหลือง น้ำตา มาเกาะที่ประสาทตา ประสาทตาส่วนนั้นไม่สามารถจับภาพได้ เมื่อทิ้งไว้นานๆ ประสาทตาจะเสื่อมและมองไม่เห็น
    การรักษา
    1.ในระยะที่เบาหวานขึ้นจอตาไม่มาก จักษุแพทย์จะแนะนำให้ควบคุมโรคเบาหวานให้ดี และนัดมาดูเป็นระยะๆ สำหรับระยะที่มีเบาหวานขึ้นจอตามากจนถึงระดับหนึ่ง จำเป็นต้องฉายเลเซอร์ที่จอประสาทตาเพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตของหลอดเลือด และในกรณีที่เข้าสู่ระยะท้ายๆ จักษุแพทย์จะใช้การผ่าตัด
    2.จักษุแพทย์สามารถช่วยไม่ให้คนไข้เบาหวานตาบอดได้ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ ทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติในจอรับภาพ ทั้งนี้การใช้แสงเลเซอร์ไม่สามารถช่วยให้การมองเห็นที่เสียไปแล้วกลับคืนได้ หลักการคือใช้เลเซอร์ฉายลงไปตรงเส้นเลือดงอกใหม่เพื่ออุดเส้นเลือดและฉายลง บนจอรับภาพทั่วไปเพื่อลดการเกิดเส้นเลือดใหม่ เพราะเส้นเลือดที่งอกใหม่มีผนังบางแตกง่าย และลดการเกิดจอประสาทตาลอก
    3.การผ่าตัดน้ำวุ้นตา ในกรณีที่มีเส้นเลือดแตกและเลือดคั่งอยู่ในน้ำวุ้นตา ทำให้มองไม่เห็น ถ้าเลือดไม่สามารถดูดซึมเองได้หมด จะต้องผ่าตัดเอาออก เพื่อทำให้มองเห็นดีขึ้นและสามารถฉายเลเซอร์รักษาเบาหวานขึ้นตาได้
    4.การรักษาโดยการผ่าตัด ทำในรายที่มีเลือดออกในวุ้นตา และจอตาหลุดลอก โรคในระยะนี้ แม้จะได้รับการรักษาแล้ว แต่สายตาอาจจะไม่กลับมาดีดังเดิมได้
    5.ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์เจริญมากขึ้น มีการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพจอประสาทตาในระบบดิจิตอล ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย แพทย์สามารถถ่ายภาพจอประสาทตาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตาและบันทึก ภาพออกมาได้ทันที ซึ่งช่วยในการเก็บข้อมูลและช่วยในการพิจารณาตัดสินให้การรักษาได้ทันที ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยในการป้องกันมิให้เกิดตาบอดหรือสายตาพิการ

    ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย
    บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน
    รับส่งสินค้าถึงมือท่าน..
    สนใจติดต่อ 020-5996-2888

    บริการส่งถึงมือท่าน

    หมดปัญหาของล่าช้า ของไม่ถึงมือ การหลอกลวง ของปอม

     

ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร, ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์ TEL 020 5996 2888 / 2222 8597

ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร

 * ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ


TEL 020 5996 2888 / 2222 8597 คำพัด
สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนบทความวันนี้ เกิดจากการที่มี่ผู้อ่านบทความของเราถามกันมามากเหลือเกินเกี่ยวกับการรับประทานยาสตรีหลังคลอดหมอเส็ง ซึ่ง คำถามที่ผมได้รวบรวมมาไว้ เป็นคำถามที่ถูกถามบ่อยมาก จนกระทั่งผมคิดว่าน่าจะเขียนเป็นบทความที่เป็นทางการ จะได้ไม่ต้องถามกันให้เสียเวลาอีก

คำถามสุดฮิตนั่นก็คือ จะสามารถรับประทานยาสตรีหลังคลอดได้เมื่อไหร่ เนื่องจากเป็นห่วงว่าการรับประทานยาสตรีหลังคลอดจะส่งผลต่อน้ำนมที่ให้แก่บุตร ?
ผมเข้าใจ ว่าคนที่ถามคำถามนี้คงหนีไม่พ้นคุณแม่มือใหม่ หรืออาจจะเป็นคุณแม่มือเก่าที่สนใจอยากจะรับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอ เส็ง ก่อนอื่นเรามาทบทวนสรรพคุณของยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งกันก่อนอีกครั้งจะดี กว่า
  1. ช่วยทำหน้าที่แทนการอยู่ไฟ หมายความว่า ผู้ที่รับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งก็เหมือนได้อยู่ไฟหลังคลอดบุตร
  2. ช่วยขับน้ำคาวปลา
  3. ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
  4. ช่วยทำให้ผิวพรรณ สดใส สวยงาม
  5. ช่วยทำให้หน้าท้องที่หย่อนยาน จากการคลอดบุตรยุบตัวเร็ว
  6. ช่วยทำให้มีน้ำนมมาก
ส่วนประกอบหลักของยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง คือ ว่านชักมดลูก เพราะฉะนั้นท่านที่อยากจะทานว่านชักมดลูกหมอเส็งแทนยาสตรีหลังการคลอดบุตร หมอเส็ง ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ผมอยากถามคุณว่า ถ้าสรรพคุณของยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งดีกว่า ว่านชักมดลูกหมอเส็ง สูตร 2 ถึง 7 เท่า คุณจะเลือกรับประทานสูตรไหน ?

เอาละกลับมาตอบคำถามข้างต้นกันดีกว่า ผมขอตอบจากข้อมูลที่ผมได้สอบถามมาจากผู้รู้และประสบการณ์ตรงดังนี้
  1. กรณีที่คุณแม่คลอดตามธรรมชาติ ก่อนที่คุณแม่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งนั้น ควรจะรับประทานยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ (1 ขวดใหญ่) เพื่อบำรุงร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรงเสียก่อน จากนั้นค่อยรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งติดต่อกัน ส่วนระยะเวลาในการรับประทานนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่ว่าอยากสวย หน้าท้องยุบเร็ว มากขนาดไหน
  2. กรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด สูตรในการรับประทานก็ไม่แตกต่างจากข้อแรก เพียงแต่ว่าต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นชัน ชนิดแคปซูลไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ ก่อนที่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง
  3. การรับ ประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง มีผลการให้นมลูกหรือไม่ สำหรับคำถามนี้คุณแม่หลายๆท่านเป็นกังวลกันมาก ผมขอเอาประสบการณ์ตรงมาตอบเลยว่า พี่สะใภ้ ของผมหลังจากคลอดลูกก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งตามสูตร และให้นมลูกตามปกติ หลานผมก็เป็นเด็กฉลาดและแข็งแรงดีมาก นอกจากนี้คุณภรรยาของคุณหมอเส็งก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตร หลังคลอดน้องโป๊ยเซียนเช่นกัน
คิดว่าคุณแม่หลายท่านที่มีคำถามเกี่ยวกับยาสตรีหลังคลอดหมอเส็ง คงหายข้องใจกันไปแล้วนะครับ
ถ้าบทความที่ผมเขียนมีประโยชน์ช่วยคอมเม้นต์ที่ด้านล่างด้วยนะครับ

ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์

สุภาพ สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีน้องเป็นธรรมดาครับที่อยากจะบำรุงร่างกายของตัว เองและลูกในท้อง จึงมีคำถามจากคุณผู้หญิงที่กำลังมีน้องว่า ถ้าตนเองอยากจะบำรุงร่างกายด้วยยาหมอเส็งแล้วจะทานยาหมอเส็งตัวไหนดี
ไม่ใช่แค่อยากบำรุงร่างกายนะครับ คุณผู้หญิงบางคนในช่วงมีน้องแล้วมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นก็เป็นกังวลว่าหลัง คลอดแล้วจะลดน้ำหนักลำบาก ก็เลยอยากควบคุมน้ำหนักตอนตั้งท้องซะงั้น ผมถูกถามแบบนี้ก็งงๆเหมือนกันครับ แต่ก็ลองสอบถามผู้รู้มาให้ทุกครั้ง เพราะว่าใจเขาใจเราครับ
บทความในวันนี้ผมจะบอกถึงยาหมอเส็งที่หญิงตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้ครับ เอาเป็นว่าอ้างอิงจากคำถามที่เคยถูกถามมานะครับ

ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์สามารถรับประทานยาหมอเส็งตัวไหนได้บ้าง ?
ยาหมอเส็งที่รับประทานได้ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์มีดังนี้ครับ คือ
  1. ยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
  2. ยาบำรุงร่างกาย 234 ตราหมอเส็ง ชนิดแคปซูล
  3. ยาบำรุงร่างกาย 999 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
พูดโดยสรุป คือ หญิงตั้งท้องสามารถทานยาบำรุงร่างกายชนิดที่ใช้ปรับธาตุได้ครับแต่ยาหมอเส็งชนิดอื่นห้ามรับประทานครับ เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงต่อลูกได้ครับ !!!
มีคำถามน่าสนใจอีกคำถามหนึ่งของคนที่เค้าถามเข้ามาว่า อยากควบคุมน้ำหนักระหว่างตั้งท้องก็เลยอยากทานยาสลายไขมันหมอเส็ง ได้หรือเปล่า ?
อันนี้ขอยืนยันคำตอบด้านบนครับ ทานไม่ได้ครับ ทานได้เพียงยาบำรุงร่างกายที่ผมแนะนำไปได้เพียงเท่านั้น
วันนี้สั้นๆแต่คิดว่าเป็นประโยชน์ครับ

*** ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ
Email: morsenglao@hotmail.com

Wednesday, May 16, 2012

หมอเส็ง (Morseng) กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอเส็งอยู่ใช่ไหมครับ ? ท่านมาได้ถูกที่แล้วครับ! , 'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่'แผนไหนเวิร์ค? ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง TEL 020 5996 2888 , ทางเลือกที่น่าลอง , โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM , ทำไมทำธุรกิจMLMแล้วไปไม่รอดหรือไปไม่ถึงดวงดาว

หมอเส็ง (Morseng)

กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอเส็งอยู่ใช่ไหมครับ ? ท่านมาได้ถูกที่แล้วครับ!

ทักทายกันก่อนครับ
สวัสดีทุกท่านครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทุกเรื่องราวของหมอเส็ง ที่นี่
ที่มาที่ไปของการเขียนบล็อกหมอเส็งแห่งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะอะไร ? ผมจะเล่าให้ฟังครับ
 
คุณหมอเส็ง

เริ่มจากการทาน ยาหมอเส็ง สมุนไพรที่ได้ผลจริง!

 ตัวผมทำการตลาดเพื่อขายของต่างประเทศอย่างเช่น อเมริกาและอังกฤษ ผ่านช่องทางอินเตอร์เนตเป็นงานอดิเรกและ ไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับยาสมุนไพร แต่อย่างใด จนวันหนึ่งทาง (คุณ ทะนงสิน) ได้แนะนำให้ผมได้รู้จักกับหมอเส็ง และยาหมอเส็ง เนื่องจากว่าตอนนั้นผมเองมีโรคประจำตัวอยู่ นั่นคือ โรคภูมิแพ้ (ผมเองเป็นคนที่แพ้ฝุ่นง่าย ถ้าเจอฝุ่นเยอะจะจามตลอด) ตอนนั้นคุณได้แนะนำให้รับประทานยาบำรุงร่างเบอร์ 2 ชนิดน้ำ ตราหมอเส็ง และขมิ้นชันหมอเส็ง ชนิดแคปซูล ยอมรับว่าตอนนั้นค่อนข้างต่อต้านการรับประทานยาสมุนไพรรวมถึงยาสมุนไพรหมอ เส็ง ด้วย เพราะมีความเข้าใจอยู่ตลอดว่ายาสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นของหมอเส็ง หรือ หมอคนไหนก็ใช้ได้แค่เพียงรักษาโรคไม่ร้ายแรง อย่างเช่น ร้อนใน หรือ ท้องอืด เป็นต้น ตอนแรกที่คุณแม่ให้ยาหมอเส็ง ผมมาทาน ผมก็ทานบ้างไม่ทานบ้าง แต่พอได้ลองทานไปแล้วรู้ได้เลยว่าร่างกายดีขึ้นและอาการแพ้มีน้อยลงอย่าง เห็นได้ชัด ก็เลยลองตั้งใจทานยาหมอเส็ง ดู ก็ได้ผลที่น่าพอใจ คือ มีอาการแพ้น้อยลงจนแข็งแรงอย่างคนปกติ
ยาหมอเส็งไม่เพียงผ่านการพิสูจน์จากผมเท่านั้น คุณย่าของผมอายุ 80 ปีก็รับประทานอยู่เช่นเดียวกัน ท่านอายุมากแล้วก็เลยเจ็บออดๆแอดๆตามประสาคนแก่ คุณแม่ก็เลยให้ท่านรับประทานยาบำรุงร่างกายตราหมอเส็ง เป็นประจำ จนปัจจุบันนี้ท่านก็ยังแข็งแรงดีอยู่ครับ
หลังจากที่ได้ผลที่น่าพอใจจากการใช้ยาหมอเส็ง ในครอบครัวของเรา ทางคุณแม่จึงได้เริ่มแนะนำคนอื่นๆอีกหลายคน ซึ่งผู้ใช้ยาหมอเส็ง คนอื่นๆที่ได้ทดลองบอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ผลจริง
ที่เล่ามาเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยครับ มีคนอีกมากมายที่ทานยาหมอเส็ง แล้วได้ผลดี แต่ผมคงไม่สามารถบอกท่านได้ว่าสมุนไพรหมอเส็ง ดีอย่างไร จนกว่าท่านจะลองพิสูจน์ด้วยตนเอง

ผมคงไม่สามารถบอกท่านได้ว่าสมุนไพรหมอเส็ง ดีอย่างไร จนกว่าท่านจะลองพิสูจน์ด้วยตนเอง

แคปซูลว่านชักมดลูกสูตรหนื่ง ตราหมอเส็ง

ชื่อผลิตภัณฑ์ : ยาแคปซูลว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง 
ชื่อที่เรียกกัน : ยาแคปซูลว่านชักมดลูก, ยาแคปซูลว่านชักมดลูกหมอเส็ง, ยาแคปซูลว่านชักมดลูกสูตรหนื่ง


ประเภทยา : ยาแผนโบราณ, ยาสามัญประจำบ้าน

ขนาดบรรจุ : 100 แคปซูล
จำนวน : 1 ขวด
ราคาปกติ : 3,200 บาท
ราคาสมาชิก : 2,900 บาท
จำนวน PV : 100 PV

สรรพคุณ

แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ในยา 245 กรัม มีส่วนประกอบสำคัญ
ว่านชักมดลูก 75 กรัม
เอี๊ยะบ๊อเช่า 60 กรัม
โสมคน 50 กรัม
และตัวยาอื่นๆ

วิธีรับประทาน

รับประทานครั้งละ 2 – 4 แคปซูล วันละ 2 – 3 ครั้ง หลังอาหาร

คำเตือน

สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน
ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน

สรรพคุณ ยาแคปซูลว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง

สำหรับคุณสุภาพสตรีโดยเฉพาะ
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรไทยใช้สำหรับเสริมสร้างภายในช่องคลอดของสตรี
ว่านชักมดลูก ให้คุณประโยชน์กับสุภาพสตรีอย่างมหาศาล(ถ้ารู้จักใช้ให้ถูกต้อง)
คุณค่าของว่านชักมดลูก แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
ส่วนที่ 1.ใช้เป็นสมุนไพรดูแลความสะอาดภายในช่องคลอด
ส่วนที่ 2.ปรุงเป็นอาหารเสริมสร้างร่างกายที่เสื่อมโทรมให้แข็งแรง
โดยคุณค่าทั้ง 2 ส่วนมีรายละเอียดของสรรพคุณเพิ่มเติมดังนี้
ส่วนที่ 1. ใช้เป็นสมุนไพรดูแลความสะอาดภายในช่องคลอด มีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ
1. ใช้ว่านชักมดลูกช่วยดูแลอาการมดลูกต่ำ มดลูกโตมดลูกบาง หรือปวดหน่วงมดลูกเป็นประจำ
2. แก้หน่วง เสียวท้องน้อย หรือปีกมดลูกทั้ง 2 ข้าง
3. แก้ปวดประจำเดินอย่างรุนแรงระหว่างมีรอบเดือน
4. ช่วยป้องกันไม่ให้แท้งบุตรง่าย หรือตกเลือด
5. ช่วยลดอาการระดูขาว หรือมุตกิดเรื้อรัง
6. ที่เป็นมานานในสุภาพสตรี
7. ดับกลิ่นภายในช่องคลอดอย่างมหัศจรรย์
8. ช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกาย
9. ช่วยลดอาการมือ-เท้าเย็น, ขี้หนาว, หนาวในอก
10. ช่วยลดอาการเจ็บหรือปวดภายในช่องคลอดเวลาร่วมเพศ
ส่วนที่ 2. ปรุงเป็นอาหารเสริมสร้างของสุภาพสตรี
เพราะว่านชักมดลูก มีกลิ่นมีรสคล้ายกับขมิ้นขาว คนโบราณ
เวลาไม่มีขมิ้นขาวทานกับน้ำพริกก็ใช้ว่าน ชักมดลูกหัวอ่อน ๆ
แทนรวมถึงมีคุณประโยชน์ในการเสริมสร้าง ส่วนต่าง ๆ
ของร่างกายดังต่อไปนี้อีกคือ
1. ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ผิวลื่นละเอียดขึ้น
2. ช่วยบำรุงผิวหน้าที่เหี่ยวย่นและหยาบกร้านมาก ๆให้ดีขึ้น
3. ช่วยเสริมสร้างหญิงที่มีหน้าท้องที่เหี่ยวย่น หรือหย่อนยานที่เกิดจาก การคลอดบุตร ให้หายไป
4. ช่วยให้ภายใน และปากช่องคลอดกระชับเหมือนสาว ๆ อย่างมหัศจรรย์
5. ช่วยเสริมสร้างสตรีที่มีอารมณ์ทางเพศบกพร่องให้สมบูรณ์เป็นปกติ
6. ช่วยสตรีที่มีอายุเริ่มเข้าวัยกลางคน ที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นภายในช่องคลอดให้มีน้ำหล่อลื่น เป็นปกติเหมือนธรรมชาติ
7. คนโบราณใช้ว่าน ชักมดลูกหลังการคลอดบุตร
8. แทนการอยู่ไฟ ช่วยเสริมสร้างน้ำนมของคุณแม่

สรรพคุณพิเศษ

คนโบราณใช้ว่านชักมดลูก บรรเทาโรคเริมหรืออาการผื่นคัน
ปวดแสบปวดร้อน ในช่องคลอดอย่างได้ผล เมื่อบำรุงร่างกายด้วยว่านชักมดลูก
จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและอาการที่เคยมีความดันต่ำ, เลือดน้อย, อ่อนเพลีย,
เหนื่อยง่าย, เวียนศีรษะ, ใจสั่น, ใจหวิวจะเป็นลม, มือเท้าเย็น-ชา, นอนไม่หลับ
อาการเหล่านี้เมื่อรับประทานว่านชักมดลูกแล้วมีผลพลอยได้ทำให้หายไป

ข้อควรจำเกี่ยวกับการใช้ยาว่านชักมดลูก

เมื่อเริ่มทานยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง
1. ขอให้ทานติดต่อกัน 12-15 วัน ก็จะเห็นผล ถ้าทานยาไม่ต่อเนื่อง สรรพคุณก็จะเห็นผลไม่ชัดเจน
2. ถ้าเกิดมีอาการไข้, ตัวร้อน ไอ ให้หยุดยาไว้ก่อน เมื่อมีอาการไข้ ตัวร้อน หายแล้วค่อยทานยาต่อ
3. ยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการกระชับกล้ามเนื้อ ที่หย่อนยานทุกส่วนของร่างกายให้กระชับแน่นตัวขึ้น จึงมีบางคนทานยาแล้วมีอาการ หน้าอกตึงมาก หรือปวดมดลูก ปวดในช่องคลอดเล็กน้อย หรือมีประจำเดือนมาใหม่ก็อย่าตกใจ ขอให้ทานยาลดกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เป็นระยะ 7-10 วัน เมื่ออาการคัดหน้าอกหรือปวดตึงภายในช่องคลอดลดลงแล้ว ค่อยทานยาเพิ่มขึ้นเท่าที่กำหนดไว้
4. ถ้าทานยาแล้วมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว เมื่อยตึง คล้ายจะเป็นไข้ ให้ลดปริมาณยาลงครึ่งหนึ่ง เมื่ออาการที่เกิดหายแล้วให้ทานยาเท่าที่กำหนดไว้
5. ยาว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง เป็นยาที่เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในวัยทอง หรือคนที่หมดประจำเดือนแล้ว คนที่มีเนื้อหนังเหี่ยวย่น อารมณ์ซึมเศร้า จิตใจไม่สดชื่นเพลียเหนื่อยหรือปวดเมื่อยเหน็บชาง่าย ร่างกายวูบวาบเมื่อทานยานี้ระยะแรก ๆ มีบางคนอาจจะมีประจำเดือนมาใหม่ขอให้อย่าตกใจเพราะยานี้กำลังปรับร่างกาย ให้หายจากอาการดังกล่าวแล้ว ประจำเดือนก็จะหมดไปเอง
“หญิงที่ตั้งครรภ์ คนที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง โรคตับ ไต มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ห้ามทานว่านทุกชนิด!!!”
ລະກິດເຄືອຂ່າຍຂຸມຊັບທີ່ທ່ານສົມຄວນເປັນເຈົ້າຂອງ
ໃນຫລາຍສິບໆປີກ່ອນນີ້, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍແມ່ນຖືກຄັດຄ້ານຈາກຜູ້ຄົນທົ່ວໄປໃນທົ່ວສັງຄົມວ່າ: ເປັນທຸລະກິດຫລອກລວງ, ແຊລູກໂສ້, ປິລະມິດ, ມັນນີ້ເກມ(ມາໄວໄປໄວ)…ເພາະມີບໍລິສັດຈຳນວນໜຶ່ງເປີດຕົວບໍ່ພໍເທົ່າໃດຫລອກໃຫ້ຄົນສະໝັກຮ່ວມງານໄດ້ເງິນພຽງພໍແລ້ວກໍ່ປິດຕົວລົງ…ໂດຍເຫດຜົນສ່ວນໃຫຍ່ແມ່ນມາຈາກບັນຫາເລື່ອງການເງິນ, ບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍຈິ່ງຖືກເບິ່ງພາບລວມໃນແງ່ລົບມາໂດຍຕະຫລອດ.
ແຕ່ຫລັງຈາກນັ້ນ, ບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍຊື່ A…ເປີດຕົວຂຶ້ນແລະປະສົບຜົນສຳເລັດຍິ່ງໃຫຍ່ເກີນຄາດ. ບໍລິສັດເຄື່ອຂ່າຍຫລາຍໆຄ້າຍກໍ່ເປີດຕົວຂຶ້ນຕາມລຳດັບ, ເຊິ່ງມີຫລາຍບໍລິສັດທີ່ມີຊື່ສຽງໂດງດັງແລະຍິ່ງໃຫຍ່ມາຮອດປະຈຸບັນນີ້…ແລະມັນກໍ່ໄດ້ພິສູດຕົວມັນເອງແລ້ວວ່າ, ນີ້ແມ່ນທາງອອກໜຶ່ງຂອງຄົນທີ່ຢາກເຮັດວຽກເສີມ, ຫລືຢາກເຮັດເປັນວຽກເຕັມເວລາເປັນເຈົ້າຂອງກິດຈະການ. ສຸດທ້າຍ, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍຈິ່ງຖືກຍອມຮັບຈາກຄົນໃນສັງຄົມກວ້າງຂຶ້ນ. ຈົນເຖິງປະຈຸບັນນີ້, ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍໄດ້ສ້າງກຸ່ມຄົນເສດຖີເງິນລ້ານ(ບໍ່ແມ່ນລ້ານກີບ)ແລະປ່ຽນຊີວິດພວກເຂົາເຈົ້າເຫລົ່ານັ້ນຈາກໜ້າມືເປັນຫລັງມື, ຈາກຄົນຕົວເປົ່າກາຍເປັນຄົນມີຄົບທຸກສິ່ງທຸກຢ່າງ: ມີເຮືອນ, ມີລົດ, ມີສຸຂະພາບທີແຂງແຮງ, ມີເງິນແລະອິດສະຫລະພາບທາງເວລາຢ່າງແທ້ຈິງ…

ທ່ານຈົ່ງຕອບຄຳຖາມທີ່ຢູ່ຂ້າງລຸ່ມນີ້:

=> ເປັນຫຍັງຄົນທີ່ມີຕໍ່າແໜ່ງລະດັບຜູ້ບໍລິຫານຈິ່ງຕັດສິນໃຈລາອອກຈາກວຽກເພື່ອມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

=> ເປັນຫຍັງຄົນທີ່ກຽມສືບທອດຕໍ່າແໜ່ງຫົວໜ້າບໍລິສັດກໍ່ສ້າງຈິ່ງປະຕິເສດບໍ່ຮັບຕໍ່າແໜ່ງນັ້ນເພື່ອມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?.

=> ເປັນຫຍັງອາຈານສອນຈິ່ງຕັດສິນໃຈລາອອກຈາກວຽກທີ່ຜູກພັນກັບເຂົາມາເປັນເວລາ 11 ປີ ກະທັນຫັນແລ້ວມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍເຕັມຕົວ?

=> ເປັນຫຍັງລາດາດັງຫລາຍຄົນຈິ່ງໃຊ້ເວລາຫວ່າງມາເຮັດທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

=> ເຂົາມາຫາເອົາຫຍັງຢູ່ໃນທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ?

ຫລືເຂົາມາຂຸດຂຸມຊັບຢ່າງມິດງຽບໂດຍທີ່ພວກເຮົາທຸກຄົນຕ່າງກໍ່ເບິ່ງຂ້າມສິ່ງນີ້ໄປແລະເຫັນວ່າເປັນເລື່ອງບໍ່ມີສາລະ? ຕອບ: ແມ່ນຄວາມຈິງ, ມີຂຸມຊັບທີ່ຖືກຊ້ອນຢູ່ໃນ 4 ຄຳນີ້: “…ທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍ…”

ທ່ານຈົ່ງອ່ານເນື້ອໃນທີ່ຢູ່ຂ້າງລຸ່ມ, ແລ້ວຈົ່ງຄອນເຟີມກັບຕົວເອງວ່າ, ນັ້ນແມ່ນຂຸມຊັບຫລືບໍ່?:

ສະຖິຕິບໍລິສັດທີ່ມີຍອດຂາຍທອບສູງສຸດໃນປີ 2011:

ບໍລິສັດ A…ມີຍອດຂາຍກວ່າ 15,000 ລ້ານບາດ

ບໍລິສັດ G…ມີຍອດຂາຍ 5,300 ລ້ານບາດ

ແລະອີກຫລາຍໆບໍລິສັດທີ່ມີຍອດຂາຍຫລາຍກວ່າພັນລ້ານບາດ…

(ທີ່ມາຈາກວາລະສານ Leader Time ສະບັບ 134 ເດຶອນ 1 ປີ2012)
ເມື່ອອົງກອນເຕີບໃຫຍ່ຂະໜາດນີ້ແລະທ່ານລອງວາດມະໂນພາບເບິ່ງວ່າ: ຫາກທ່ານແມ່ນຜູ້ໜຶ່ງທີ່ເປັນຫຸ້ນສ່ວນ(ໃນສັບທຸລະກິດເຄືອຂ່າຍອີກຢ່າງໜຶ່ງເອີ້ນວ່າ: ເຈົ້າຂອງກິດຈະການ)ທີ່ເຮັດຜົນງານດີໃນລະດັບແຖວໜ້າຂອງບໍລິສັດນັ້ນໆ, ທ່ານຈະຮັບເງິນປັນຜົນໜ້ອຍຫລືຫລາຍ?. ຈະມີເສດຖີທີ່ເກີດຂຶ້ນຈາກການເຕີບໃຫຍ່ນີ້ຈັກຄົນ?, ປີໜ້າຈະມີເສດຖີທີ່ເກີດຂຶ້ນໃໝ່ຈັກຄົນ?, ແລະອີກ 5 ຫາ 10 ປີຂ້າງໜ້າເດຈະມີຈັກຄົນ?.
ແລະສົມມຸດວ່າທ່ານແມ່ນໜຶ່ງໃນຜູ້ນຳແຖວໜ້າຂອງບໍລິສັດເຄືອຂ່າຍເຫລົ່ານັ້ນລະ? ທ່ານຍັງຈະເຮັດວຽກແບບນີ້ອີກບໍ່: ເຊົ້າເຂົ້າແລງພັກ 5 ຫາ 6 ມື້ຕໍ່ອາທິດ, ໃຊ້ເງິນເດືອນຊະນິດເດືອນຊົນເດືອນ(ຕົ້ນເດືອນມີທ້າຍເດືອນໜີ້)…ຫລືທ່ານຈະໃຊ້ຊີວິດແບບໄລສະຕາຍ , ມີອິດສະຫລະພາບທາງການເງິນແລະເວລາ, ສຸຂະພາບແຂງແຮງ, ທ່ອງທ່ຽວຢ່າງມີຄວາມສຸກກັບຄອບຄົວ…

ຂ້າພະເຈົ້າຍັງຈື່ບໍ່ລືມບາງຕອນຂອງປຶ້ມ: “ Rich Dad Poor Dad ” ທີ່ມີເນື້ອໃນບາງຕອນສື່ຄວາມໝາຍວ່າ: “…ນິໃສຄົນລວຍຊອກຫາຊ່ອງທາງຈຳໜ່າຍສິນຄ້າຜ່ານເຄືອຂ່າຍ, ຂະນະທີ່ນິໃສຄົນຊັ້ນ ຈໍ ແລະ ຄົນຊັ້ນກາງຊອກຫາວຽກເຮັດທີ່ໝັ້ນຄົງ…”. ສ່ວນຕົວທ່ານມີນິໃສແບບໃດພໍຕອບຕົວເອງໄດ້ບໍ່?

ກ່ອນຈາກກັນ, ຂ້າພະເຈົ້າມີແງ່ຄິດດີໆມາຝາກທຸກໆທ່ານ: “…ຈົ່ງເປີດໃຈຕົວເອງເພື່ອ: ສຶກສາ, ຮັບເອົາສິ່ງໃໝ່ເຂົ້າໃສ່ຕົວ…ເພາະໂລກມັນບໍ່ເຄີຍຢຸດໝູນ, ທຸກວິນາທີຈະມີຄົນຄິດຄົ້ນສິ່ງໃໝ່ອອກມາ, ຫາກທ່ານໝັ່ນພັດທະນາຕົວເອງຢູ່ເລື້ອຍໆ, ມີຂໍ້ມູນຢ່າງພຽງພໍຫລືຫລາຍກວ່າຄົນອື່ນແລະພ້ອມສຶກສາຢ່າງຈິງຈັງ, ທ່ານຈະເປັນຄົນໜຶ່ງທີ່ຈະປະສົບຜົນສຳເລັດ, ເພາະຄົນທີ່ສຳເລັດ 1 ໃນ 1,000,000 ເຂົາກໍ່ເລີ່ມຈາກຈຸດທີ່ພວກເຮົາເລີ່ມຕົ້ນນັ້ນຄື:…ສູນ (0)…”  

ໂທ 020 5996 2888
โรงเรียนสอนธุรกิจเมื่ออยากจะเป็นเศรษฐี
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM

หาก คุณเชื่อว่า คนที่จะร่ำรวยได้จะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณคงจะต้องมองหาโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจสักตัว แต่คุณเชื่อ หรือไม่ การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ก็ไม่ได้การันตี ว่าคุณจะประสบความสำเร็จ หรือร่ำรวยเสมอไป ในทางตรงกันข้ามการเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะต้องลงทุน และที่แน่นอนคือ คุณมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลว หรือขาดทุน ขอให้คุณพิจารณาคำกล่าวที่ว่า

?ธุรกิจส่วนใหญ่ ล้มเหลวไป ภายใน5ปีแรก? หรือ ?95%ของธุรกิจมักล้มเหลว มีแค่5% เท่านั้นที่รอด? หรือ ?เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่ ล้มเหลวถึง3ครั้ง กว่าจะสำเร็จ ยิ่งใหญ่ได้?
เมื่อ คุณอ่านถึงประโยคเหล่านี้ ไม่สามารถทำให้คุณเปลี่ยนความตั้งใจ และคุณยังยืนยันความตั้งใจเดิมของคุณที่จะเป็นเศรษฐีให้ได้ คุณคงต้องมามองทางเลือกในการลงทุนเป็นเจ้าของธุรกิจ 3 ประเภท คือ
1.การสร้างบริษัทใหญ่ๆขึ้นมา (ต้นทุนการเป็นเจ้าของ ธุรกิจ สูง คุณต้องมีเงินมากพอ)
2.การเลือกซื้อแฟรนไชร์ (ต้นทุนสูง ทำงานภายใต้ข้อสัญญา)
3.การเข้าร่วมธุรกิจ แบบขายตรง หรือการตลาดแบบเครือข่าย (วิธีการที่ใหม่ เหมาะสำหรับคนพร้อมที่จะเรียนรู้)

คุณ จะเห็นว่าการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ 2 ประเภทแรกนั้น ต้องมีต้นทุนสูง คือใช้เงินลงทุนมาก ในกรณีคุณไม่มีเงินลงทุน แต่มุ่งมั่นที่จะเป็นเศรษฐีจากการเป็นเจ้าของธุรกิจให้ได้ คุณคงเหลือทางเลือกที่ 3 ประการเดียว

เมื่อ คุณตัดสินใจที่จะร่วมธุรกิจแบบเครือข่ายขายตรง สิ่งแรกที่จะต้องทำ คุณต้องเลือกบริษัทให้ รอบครอบ เพราะว่าบริษัทส่วนใหญ่มักจะบอกว่า สุดยอดทั้งสินค้า แผนการตลาด องค์กร แต่ในปัจจุบันสิ่งที่ต้องเน้นให้คุณดู คือ การฝึกอบรม ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะบอกว่ามี แต่ที่จริงแล้วไม่มี หรืออีกนัยหนึ่งแค่การฝึกแค่เพียงสอนคุณให้เป็นพนักงานขายสินค้า มากกว่า จะเป็นเจ้าของธุรกิจ การฝึกอบรมที่คุณต้องการคือ กระบวนการเรียนรู้ทางธุรกิจที่มีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ ให้แตกต่างไปจากเดิมให้ได้
การ เข้าร่วมธุรกิจขายตรง ถือว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จากผู้สอนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ในโลกธุรกิจ ซึ่งจะแตกต่างจากการเรียนในโรงเรียนธุรกิจทั่วๆไป ที่มักจะพบว่า อาจารย์ผู้สอนไม่เคยมีประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจเลย สักนิดเดียว อย่างเก่งก็เรียนจากกรณีศึกษา(Case Study)ไม่มีโอกาสลงมือทำ

ขยายโอกาส
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
เครือ ข่ายเป็นการสร้างและเอื้อผลประโยชน์ระหว่างกัน.... หากเรายิ่งแบ่งปันหรือขยายไมตรี และความสัมพันธ์ออกไปมากเท่าไร เราจะยิ่งได้รับความสัมพันธ์ตอบกลับคืนมามากขึ้นเท่านั้น

เครือข่าย จะเรียกว่าเน็ทเวิร์ก พันธมิตรหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับสังคมอย่างบ้านเราที่ยังคงให้ความหมายกับการนับญาติ นับเพื่อน การเกื้อกูลในระหว่างคนที่อยู่ในเครือข่ายด้วยกันจึงเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ไม่ว่าจะในเรื่องทางสังคม เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจ การสร้างเครือข่าย (Networking) หมายถึงกระบวนการให้ การสร้าง และแบ่งปันไมตรีหรือความสัมพันธ์ระหว่างกันที่อาจจะส่งผลดีมาถึงงานในอนาคต
ใน ชีวิตเรามีคนผ่านเข้ามามากมาย ยิ่งได้รู้จักได้สัมผัสกับคนมากเท่าไร โดยเฉพาะกับคนที่เกี่ยวข้องในแวดวงการทำงาน เครือข่ายของเราก็จะยิ่งกว้างไกล ทำให้ได้รับข่าวสารที่มีคุณค่ามากขึ้น และยังเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ และขยายตลาดมากขึ้นด้วย
หลัก การพื้นฐานของการสร้างเครือข่ายคือหลักที่ว่าเครือข่ายเป็นการสร้าง และเอื้อผลประโยชน์ระหว่างกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่ว่าแต่ละคนจะสามารถเรียนรู้และได้ประโยชน์จากกันและกัน หลักอีกประการคือหากเรายิ่งแบ่งปันหรือขยายไมตรี และความสัมพันธ์ออกไปมากเท่าไรเราจะยิ่งได้รับความสัมพันธ์ตอบกลับคืนมามาก ขึ้นเท่านั้นเครือ ข่ายหรือความสัมพันธ์ไม่จำเป็นจะต้องได้มาจากคนที่เราพบปะหรือเกี่ยวข้อง ด้วยโดยตรงในงานเสมอไป บางทีก็มาแบบอ้อมๆ หลายอ้อมด้วยซ้ำไป อย่างเช่นมาจากครอบครัว จากพ่อแม่เราเองหรือคนที่พ่อแม่เรารู้จัก จากพี่น้อง เพื่อนๆ ของพี่น้อง ไปจนกระทั่งญาติ ใครอยากได้อะไร อยากซื้อหาอะไร มีอะไรดีที่ไหนข้อมูลอะไรน่าสนใจ
บาง ทีการสร้างเครือข่ายกับหัวหน้าหรือเจ้านายก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง ทั้งเจ้านายปัจจุบัน และเจ้านายเก่า จากเพื่อนๆ พนักงานด้วยกันเองก็ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะพนักงานเก่าหรือใหม่ จะช่วยขยายวงกว้างของเครือข่ายของเราได้อีกมาก
เครือ ข่ายที่มาจากลูกค้าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้เสมอๆ หลายบริษัทมีโปรแกรมประเภทสมาชิกแนะนำสมาชิก (Member gets Member) นั่นคือลูกค้าซื้อของแล้วก็ช่วยแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักอื่นๆ ให้อีก บริษัทเขารู้ว่าเครือข่ายแบบนี้ทำงานได้ผลดีก็เลยมีรายการสมาชิกแนะนำสมาชิก เสียเลย เพื่อจูงใจให้ลูกค้าไปขยายเครือข่ายลูกค้าต่อเนื่องให้เขาอีกโดยมีสิ่งจูงใจ ให้ต่างๆ นานา
คู่ ค้าของเรา เช่นผู้ขายวัตถุดิบ คนกลางทั้งยี่ปั๊ว ซาปั๊วและอีกหลายๆ ปั๊ว ต่างอยู่ในเครือข่ายที่สามารถแนะนำบอกต่อหรือให้ข้อมูลเพื่อการขยายตลาด หรือความสัมพันธ์ได้ทั้งนั้น พวกนักวิชาชีพทั้งหลาย เช่นสำนักงานบัญชี สำนักงานทนายความ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ เจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราใช้บริการก็เป็นคนที่สามารถขยายเครือข่ายของเราได้ เช่นเดียวกับคนใกล้ๆ ตัวอย่างเพื่อนโรงเรียนเก่า ครูบาอาจารย์เก่าเพื่อนบ้านข้างเคียงหรือคนไกลตัวหน่อย เช่นคนที่เจอกันที่วัด นิทรรศการ งานแนะนำสินค้า สถานที่ออกกำลังกาย และงานสังคมอื่นๆ ฯลฯ
จะ เห็นว่าคนที่อยู่รอบๆ ตัวทั้งหลายอยู่ในข่ายที่จะขยายเครือข่ายเราได้ทั้งนั้น จึงไม่ควรรีรอที่จะสร้างนิสัยของการเป็นนักสร้างเครือข่ายเสียตั้งแต่บัดนี้ ด้วยหลักปฏิบัติ 10 ข้อง่ายๆ ต่อไปนี้
ข้อ 1 แลกนามบัตรเสมอ พกนามบัตรติดตัวตลอดเวลา และเป็นฝ่ายหยิบยื่นให้ก่อนพร้อมแนะนำตัว ถ้าเป็นผู้ด้อยอาวุโสกว่า อย่าลืมเอ่ยประโยคทำนอง "ขออนุญาตแนะนำตัวครับ/ค่ะ ผม/ดิฉัน???" ประเภทที่อีกฝ่ายส่งนามบัตรมาให้แล้วตอบกลับไปว่า "ขอโทษครับนามบัตรหมด" หรือ "ขอโทษครับลืมเอานามบัตรมา" อย่างนี้ควรเรียกนักสร้างเครือข่ายอ่อนหัด
ข้อ 2 อย่ายืนหลบมุม ใครๆ เขายืนจับกลุ่มคุยกัน หากไปยืนแอบอยู่หลังเสาหรือมุมมืดคนเขาจะนึกว่ามีปัญหาหรือทำอะไรผิดไม่กล้า สู้หน้าคน หวังจะสร้างเครือข่ายต้องเดินเข้าหาคนอื่นได้อย่างมั่นใจเสมอ
ข้อ 3 สอดส่ายมองหา กราดสายตาไปให้ทั่วว่าในที่นั้นมีใครที่เรารู้จักพอที่จะเข้าไปร่วมวงสนทนา ได้บ้าง เมื่อคิดจะขยายเครือข่ายก็ต้องหมั่นสอดส่ายสายตาไปที่คนหลายๆ กลุ่ม เครือข่ายจะได้กว้างขึ้น
ข้อ 4 ผูกมิตรในเวลาที่ไม่คิดว่าจะต้องการมิตร บางคนอาจเหม็นเบื่อกับการผูกไมตรีกับผู้คน เพราะรู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่มากมายจนเกินพอแล้ว หรือไม่ก็ยังไม่อยู่ในอารมณ์ที่ต้องการเพื่อนฝูงคนรู้จักเพิ่มเติม แต่หารู้ไม่ว่าในเวลาอย่างนั้นแหละคือเวลาที่สมควรจะสร้างมิตร เพราะหากไปสร้างมิตรเอาเวลาที่ตัวเองเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ คนเขาจะกังขาเอาได้ว่ามาผูกมิตร เพราะหวังประโยชน์จากเขา
ข้อ 5 รู้จักสนใจคนอื่นเสียบ้าง นักสร้างเครือข่ายจะสนใจและให้ความสำคัญกับคนรอบๆ ข้างเสมอ ไม่ผูกขาดการสนทนาอยู่คนเดียว รู้จักสังเกตสีหน้าของคนรอบข้าง อ่านความสนใจของคนอื่นออก และชื่นชมคนอื่นเป็น
ข้อ 6 ติดตามผล หากได้ช่วยเหลือเกื้อกูลใครที่อยู่ในเครือข่ายแล้ว ก็อย่าลืมติดตามถามไถ่ด้วยว่าได้ผลดีขนาดไหนอย่างไร ความสัมพันธ์ที่เราให้ไปเป็นประโยชน์กับเขาเพียงใด
ข้อ 7 ไม่ขาดการติดต่อ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ขาดตอนต้องไม่ขาดการติดต่อ ความสัมพันธ์ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ต้องการการดูแลใส่ใจ รดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยอยู่เสมอ เพื่อให้ความสัมพันธ์งอกงาม
ข้อ 8 ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่แขก เมื่อพบสนทนากับใคร การทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของบ้านที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ต้องรู้จักบริการผู้คนรอบข้าง อ่อนน้อมและแสดงน้ำใจ
ข้อ 9 ทบทวนความสัมพันธ์ นานๆ ทีก็ต้องทบทวนดูบ้าง ว่าใครที่เราขาดการติดต่อ
มาเนิ่นนานสมควรจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ใครบ้างที่สมควรจะกระชับความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ใครบ้างที่ไม่อยู่ให้สานต่อความสัมพันธ์แล้ว

ข้อ 10 แบ่งปันความสัมพันธ์ แบ่งปันเครือข่ายของเราให้กับคนรอบข้างที่เขาต้องการด้วยเสมอ เขาจะได้แบ่งปันเครือข่ายของเขามาให้เราด้วย เมื่อนั้นเครือข่ายของเราก็จะกว้างไกลไม่สิ้นสุด

ทำ ได้ทั้ง 10 ข้อรับรองว่าจะเป็นนักสร้างเครือข่ายมืออาชีพ แม้จะไม่ครบ หากแต่เมื่อลงมือทำบางข้ออย่างตั้งใจ จะพบว่าเครือข่ายขยายกว้างออกไปทีละนิดทีละหน่อยพร้อมๆ กับโอกาสของชีวิตและธุรกิจ มีคนรอบข้างมากมายรอให้สร้างเครือข่ายอยู่แล้ว ลงมือทำเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง
การตัดสินใจทำธุรกิจMLM
รงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
การ ตัดสินใจทำธุรกิจ MLM มีข้อควรพิจารณา เพื่อให้ ไขว่คว้า แสวงหา ความสำเร็จ ได้ ควรพิจารณา อย่างไร บ้าง ไม่ใช่ ทำไปแล้ว กลับถูกหลอกให้ ทำแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดกฎหมายเกี่ยวกับการระดมเงิน ซึ่งในบทท้ายๆได้เขียนไว้แล้ว การพิจารณาMLM ที่ดี กับดูแชร์ลูกโซ๋ให้ รู้ แล้วเราจะไม่เป็นเหยื่อ ซึ่งหลักการพิจารณาควรดูถึงปัจจัย เหล่านี้ ในแง่มุมบริษัท

ควรพิจารณาบริษัท หลายๆแง่มุม เพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจของบริษัท ไม่ใช่ รวยแล้วเลิก หรือ เลิกก่อนโรยลา โดยดูจาก
    • ปรัชญา วิสัยทัศน์ ของบริษัท หรือ ผู้บริหารองค์กรใหญ่
    • ประวัติความเป็นมาของบริษัท /เบี้องหลังธุรกิจ
    • ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของบริษัท / หรือผู้บริหาร
    • ความมั่นคง เงินทุน ประสพการณ์ของบริษัท
ในแง่ผลิตภัณฑ์
พิจารณาว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีอยู่เหมาะสมกับกลุ่มตนที่เรารู้จักมากน้อย เพียงใด โอกาสทางการตลาด ของผลิตภัณฑ์ เป็นอย่างไร มีความแตกต่าง แล้วหาจุดขายโดดเด่น หรือไม่ ตลอดจนมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อย่างไร มีคุณภาพมาตรฐานที่จะสร้างความมั่นใจว่า ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สมราคา และผู้จำหน่ายตรงได้รับความสำเร็จอย่างไร
ในแง่แผนการตลาด
พิจารณาการ ขยายแผนการตลาด เกิดความยืดหยุ่น ง่ายต่อการทำหรือ ไม่ ต้องสต๊อค ต้องรักษายอด หรือไม่เมื่อขึ้นตำแหน่ง การขึ้นตำแหน่งแต่ละขั้นยากต่อการทำ หรือ ไม่ (ซึ่ง จะมีรายละเอียดในบทหลังๆ)
แนวทางที่จะประสพความสำเร็จ
หากสินค้าดี แผนการตลาดดี บริษัทดี เป็นน่าเชื่อถือ จะต้องมีการจัดระบบงานดี หรือมีหน่วยคอยสนับสนุนสมาชิกให้ช่วยประสพความสำเร็จ อันได้แก่
?
    • มีองค์กรสนับสนุนพัฒนาบุคลากร และทีมงานคอยช่วยเหลือ
    • อัพไลท์ มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ จริงจัง ทุ่มเทมากน้อยเพียงใด
    • ผู้นำระดับต่างๆที่เหนือๆขึ้นไปให้ความช่วยเหลือ ให้เราประสพความสำเร็จได้ แค่ไหน
    • จุดเด่นขององค์กร และทีมงาน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อการสร้างทีมงานของเรา มากน้อยแค่ไหน
สิ่ง ที่เราปรารถนา คือ เงิน ความสุข ความมั่นคง อิสรภาพ ความหวัง รางวัลแห่งชีวิต ความสำเร็จ แต่อย่างไร ก็ ตาม หาก แผนการตลาดดี สินค้าดี บริษัทดี ทีมงานให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่พร้อมที่จะให้เกิดความสำเร็จ สักแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่าง จะไม่บังเกิด หากไม่เริ่มต้น ที่ตัวเราก่อน

'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่'แผนไหนเวิร์ค?
ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง
จูนคลื่นแผนความรวยธุรกิจเครือข่าย...แผนไหนเวิร์ค แผนไหนเจ๋ง!...วิเคราะห์กันแบบช็อตต่อช็อต...ระบุ!ความโดดเด่นแผน "สแตร์ สเต็ปท์-ไบนารี่" ผลักดันความรวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อยู่ที่ว่าใครชอบรวยช้าหรือรวยเร็วเท่านั้นเอง...พร้อมขอดเกล็ด 3 บิ๊กไบนารี่ นาทีนี้ความเหนือชั้นต้องยกนิ้วให้
คนที่จะเดินเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรงได้นั้น เชื่อว่า สิ่งแรกที่หลายๆ คนต้องคิดพิจารณาเป็นอันดับแรกเลยคือ "สินค้า ต่อมาจะเป็นในส่วนของ "บริษัท" และ "ผู้บริหาร" ซึ่งนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่คนเครือข่ายพิจารณาไม่แพ้ไปกว่า "สินค้า-บริษัท-ผู้บริหาร" นั่นคือ "แผนการตลาด"
วันนี้ต้องบอกว่า แผนการตลาดของบริษัทหลายๆ ค่าย ค่อนข้างที่จะมีการ "ชูความเหนือชั้น-จ่ายเร็ว-จ่ายแรง" กันค่อนข้างที่จะเยอะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการเรียกความสนใจให้กับนักขายมือใหม่และมืออาชีพให้ เข้ามาสู่องค์กรของตนเองกันแทบทั้งนั้น
...เชื่อว่าหลายคนที่เป็นนักขายหน้าใหม่ๆ คงมีบางท่านที่ยังสงสัยว่าแต่ละแผนในธุรกิจขายตรงนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่น จุดด้อยอยู่ที่ตรงไหน และมีแผนไหนบ้างที่เรียกว่า "โดนใจคนเครือข่าย" แบบสุดๆ บ้าง?...โดยทีมข่าว "ตลาดวิเคราะห์" ได้สรุปจุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละแผนมาให้ทราบพอสังเขปดังนี้

เจาะแผน 'สแตร์สเต็ปท์-ไบนารี่' อาวุธพิชิตยอดดึงคนร่วมธุรกิจ
หากจะให้วิเคราะห์ถึงแผนการตลาดส่วนใหญ่ ใน "ธุรกิจขายตรง" ที่ใช้กันในปัจจุบันพบว่า มีอยู่ 3 แผนด้วยกันที่หลายๆ ท่านคงรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับบางท่านที่ยังเพิ่งเข้าสู่ในธุรกิจนี้แบบใหม่มาดๆ คงอยากที่จะทราบว่าจุดเด่นของแต่ละแผนนั้นมีอะไรบ้าง?...
...เริ่มต้นด้วย "แผนสแตร์ สเต็ปท์" ที่จุดเด่นของแผนนี้คือ จะมีความมั่นคงในระยะยาว ส่วนข้อด้อยของ แผนนี้ก็จะมีเช่นกัน คือ 1.รายได้เริ่มต้นน้อยมาก 2.ตำแหน่งชนรายได้ตก 3.การหนีขึ้นตำแหน่งสูง 4.ทีมงานโตช่วยเหลือไม่ทัน ปัญหาที่พบบ่อย 1.เกิดการทอดทิ้งทีมงาน 2.ใช้การซื้อตำแหน่งให้สูงขึ้น 3.สต๊อกบวม (สินค้าเต็มบ้าน) 4.ทีมงานหยุดเร็วเพราะรายได้น้อย 5.การขายตัดราคา 

ส่วน "แผนไบนารี่" ที่มีจุดเด่นตรงที่สร้างรายได้เร็วทันใจบริหารงาน 2 สาย ข้อด้อย 1.การล้างรอบคะแนนทิ้ง 2.โตทีมเดียวไม่เกิดรายได้ ปัญหาที่พบบ่อย 1.นักธุรกิจเปลี่ยนบริษัทบ่อย 2.มันนี่เกมแอบแฝงง่าย 3.ทีมชักชวนกันไปธุรกิจใหม่ 4.ขายตัดราคา...ซึ่งทั้ง 3 แผนการตลาดที่กล่าวมานี้ เรียกว่าต่างก็มีจุดดีและจุดเด่นเป็นของตนเองแทบทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครอยากจะรวยมากรวยน้อยเท่านั้นเอง!!! 

ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า แผนการตลาดที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักขายหลายๆ คน คือ "แผนไบนารี่" เพราะแผนนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้บริษัทขายตรงในเมืองไทยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานอย่างมาก โดยเฉพาะ "ค่ายสแตร์ สเต็ปท์" ที่ไม่อาจหยุดอยู่กับที่ได้ หลังจากที่ "แผนไบนารี่" เข้ามา
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ในยุคนี้ "ค่ายสแตร์ สเต็ปท์" ที่เหลืออยู่มีให้เลือกเพียงไม่กี่ค่ายเท่านั้น เฉพาะค่ายเก่าๆ ซึ่งหลายคนต่างมองว่า ถ้าไปเริ่มต้นใหม่จากค่ายเหล่านี้ โอกาสจะก้าวขึ้นตำแหน่งสูงๆ ในเวลาอันสั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากลำบาก
โดยเฉพาะค่ายสแตร์ สเต็ปท์ที่เกิดใหม่ หากไม่มีอะไรเป็นที่น่าสนใจ ยิ่งวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการ รวมถึงแผนการตลาด สินค้าไม่เป็นที่สะดุดตาจริง น่าจะปิดประตูตายไปได้เลย...และยังจะเห็นได้อีกว่า บริษัทที่ใช้แผนสแตร์ สเต็ปท์หน้าใหม่ ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ในชั่วโมงนี้ แม้แต่ค่ายเก่าๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการดูดดึงสมาชิกไปร่วมธุรกิจเช่นกัน 

ในขณะเดียวกัน ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ ทุกวันนี้ เริ่มที่จะไม่มองค่ายไบนารี่เป็นคู่แข่งที่สำคัญอีกต่อไป เนื่องจากหลายค่ายสามารถพัฒนาแผนการตลาดเพื่อการแข่งขันกับค่ายไบนารี่ได้ เป็นที่พอใจ แม้จะเอาชนะในเรื่องการจ่ายผลตอบแทนไม่ได้ แต่ก็ชนะใจสมาชิกที่ภักดีต่อแผนการตลาดแบบสแตร์ สเต็ปท์ได้ไม่น้อย

จนอาจกลายเป็นว่า ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ ณ เวลานี้ กำลังอยู่ระหว่างการ "ชิงไหว ชิงพริบ" วางเกมเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในทุกๆ ด้าน ยิ่งบริษัทระดับกลางดูเหมือนจะเล่นเกมบุกหนัก เพราะสามารถปรับเปลี่ยนภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะเห็นว่า ยักษ์ใหญ่สแตร์ สเต็ปท์จะอยู่ในอาการตั้งรับ และมุ่งพัฒนาคุณภาพของบุคลากรมากกว่าที่จะไปแข่งแย่งลูกค้าหน้าใหม่ๆ ในปริมาณเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ เริ่มที่จะเห็นการออกโปรโมชั่นที่เร้าใจเพื่อหวังมัดใจมวลเหล่าสมาชิกมาก ขึ้นกว่าที่ผ่านมาในปีนี้...

สแตร์ สเต็ปท์นิ่งไบนารี่เสียบ เกมรบบีบหัวใจคนเครือข่าย

...จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์ทุกอย่างต่างบีบบังคับให้ ค่ายสแตร์ สเต็ปท์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการอะไรบ้างอย่างแล้ว เพราะ "ขืนนิ่ง" เหมือน "เต่าล้านปี" มีหวังคงได้ทุบหม้อข้าวตัวเองกินเป็นแน่แท้...ยิ่งปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะ ถามตัวเองว่า วันนี้การที่จะเลือกทำธุรกิจเครือข่ายสักค่ายนั้น แผนไหนที่รวย แผนไหนที่เวิร์ค ณ ช่วงเวลานี้บ้าง...คำตอบก็คือ...ทุกแผนต่างสร้างคนรวยได้หมดอยู่ที่ว่าจะรวย ช้าหรือรวดเร็วเท่านั้นเอง
ยิ่งสถานการณ์ "บีบบังคับ" บวกกับ "หัวใจบีบ" ให้ต้องได้มาในสิ่งที่ปรารถนาในสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว "แผนไบนารี่" จึงเป็นแผนที่หลายๆ คน ต่างยอมที่จะกระโดดเข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง...

นับได้ว่า ปัจจัยเสี่ยงของแผนการตลาดแบบไบนารี่ยังถือว่าหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี เนื่องจากในปัจจุบันนี้ได้มี "กลุ่มไบนารี่นอกรีต" เกิดขึ้น เป็นจำนวนมาก


ขอดเกล็ด3บิ๊กไบนารี่ ปี2011 / 2554 
1.เอม สตาร๋
2.นิโอไลฝ
3.แสงสุริยะฉัด (หมอเส็ง)

"หมอเส็ง" ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายที่ใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแบบง่ายๆ ใช้การจ่ายผลตอบแทนที่ไม่สลับซับซ้อน ผู้บริหารไม่มีเล่ห์เหลี่ยม และหมกเม็ดเรื่องแผนการตลาด ด้วยจุดนี้เอง จึงทำให้หลายคนต่างอยากที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจหมอเส็ง เพราะที่นี่นอกเหนือจากแผนการตลาดทำง่ายได้จริงแล้ว ความพร้อมในส่วนของสินค้า สำนักงานอาคารก็ไม่ได้เป็นสองรองใครด้วยในค่ายไบนารี่ด้วยกัน 

ทางเลือกที่น่าลอง
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
ทำไม MLM (Multi Level Marketing) จึงเป็นทางเลือกที่ต้องลอง ท่านเคยสงสัย หรือเคยคิดจะลอง หรือ จากคำบอกเล่า คนชักชวน แล้วไม่กล้าลอง จริงๆ แล้ว คือโอกาสทองของชีวิตการทำงานก็เหมือน กับนาทีทอง ของการตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีราคา โปรโมชั่น จะเป็นตัวช่วยชี้วัดทำให้ เราตัดสินใจง่ายขึ้น ดร.พอล เกตตี้ ได้กล่าว ถึงบัญญัติ 5 ประการ สู่ความสู่ความสำเร็จในโลกของธุรกิจ ไว้ว่า 1.ทำธุรกิจของตนเอง
2.ขายผลิตภัณฑ์ /การบริการที่ตลาดต้องการ
3.เสนอบริการดีกว่า คู่แข่ง
4.ให้รางวัลผู้ที่มีผลงาน
5.สร้างความสำเร็จ โดยอาศัยผู้อื่นช่วย

จากข้อกล่าวถึง ตามบัญญัติที่ ดร.พอล กล่าว หากพิจารณาดูดีๆแล้วก็สอดคล้องกับธุรกิจ ขายตรงMLM เพราะอะไร หรือ?.
1.เราเป็นเจ้าของกิจการ เป็นเจ้านายตัวเอง

2.มี รายได้ ทันที ไม่มีขีดจำกัด และไม่มีข้อต่อเนื่อง ผิดกับการลงทุนในธุรกิจ เราต้องลงทุน แล้ว รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ คุ้มทุนก่อน จึงจะนำมาคิดเป็นรายรับที่เรียกว่า กำไร
3.รายได้สูง และการทำงาน ก็ทำได้ 2อย่างพร้อมๆกันกับงานประจำโดยไม่ขัดแย้งกัน
4.มี อิสรภาพ ช่วยเหลือคนได้
5.อยู่ในสังคมที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน
6.ใช้เงินลงทุนน้อย ไม่ต้องอาศัยทำเล ยิ่งเป็นของ มิเนอร์รี่ แค่เงินลงทุน เพียง200บาท เท่านั้น
7.ไม่ จำเป็นต้องมีประสพการณ์ หรือพูดเก่ง เพราะจะมีระบบช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันเกื้อกูล ยิ่งทีมเราได้ ผลิตซีดี ให้ ใช้ในการแนะนำ การทำงาน ทำให้ไม่ต้องคิดถึงเรืองนี้ มีศูนย์อบรมพัฒนาบุคลากร ของบริษัทที่คอยช่วยจัดการเพิ่มพูนความรู้ ประสพการณ์

8.มีเวลามากขึ้น ได้เปิดตาเปิดสมองไปกับผู้คน ในที่ต่างๆ
9.ได้พัฒนาตนเองตลอดเวลา
10.ทำงานเพียง 1-5ปี มีรายได้ ตลอดชีวิตเป็นมรดก
หาก ถ้าเรามีทางเลือก2ทางในการใช้ตัดสินใจเลือกทางเดิน ของชีวิต ระหว่าง โครงการทำงานในตลอดระยะเวลาของเรา 40ปี กับโครงการ1-5ปี เราลองพิจารณาดู จากข้อมูลข้างล่าง
ทางเดินของชีวิต
ทางเลือกที่หนึ่ง การเป็นลูกจ้าง หรือรับราชการ
ทางเลือกที่2เส้นทางMLM
1.ทำงานให้คนอื่น
2.มีขอบเขตจำกัดรายได้
3.งานหยุดชะงัก รายได้ก็ชะงักด้วย
4.ไม่มีผลตอบแทนจากกำไร
5.ไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ในองค์กรที่เราทำ
6.เกษียณงานตามอายุงาน
7.เดินทางตามหน้าที่
8.หน้าที่งานมีขอบเขต
9.มีกฎระเบียบ
1.ทำงานเพื่อตนเอง
2.ทวีคูณรายได้
3.งานสะดุด รายได้คงที่
4.มีผลตอบแทนจากกำไร
5.มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ของการกระทำที่เกิดจากองค์กร นั้น สามารถให้เป็นมรดกได้
6.เลือกการเกษียณได้
7.มีผลกำไรชีวิตจากการเดินทาง
8.เคลื่อนไหวได้เต็มกำลัง
9.มีอิสระเสรี

นอก จากนี้ การขายตรง ยังมีจุดเด่น ไม่ว่าจะมองมุมไหนในแง่ผู้ประกอยการ ผู้บริหาร หรือมองในแง่นักขายตรงก็ตาม ทำให้ MLMเป็นทางเลือกที่ทุกคนต้องลอง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
จุดเด่นของธุรกิจMLM
มองในแง่ผู้ประกอบการ
มองในแง่นักขายตรง
1.การลงทุน ทำเลที่ตั้ง ไม่จำเป็น ต้องใช้ทำเลที่เด่นๆมาก
2.การบริหารสินค้าคงคลังไม่เสี่ยง
3.ไม่มีคู่แข่ง ณ จุดขาย
4.ไม่ต้องลงโฆษณาผ่านสื่อ ทีวี วิทยุ
5.ไม่มีสงครามเรื่องราคา
6.เพิ่มรายได้ ให้กับคนทั่วๆไป
7.ไม่เป็นปัญหา สังคม
1.ร่ำรวยด้วยการขยัน
2.รักกับทีมงาน
3.เบ่งบานเต็มที่พวกพ้อง?น้องพี่
4.มีฝีมือก้าวหน้า
5.หาความสำเร็จด้วยตนเอง
6.เก่ง และก้าวหน้า
7.สรรหาของดีไว้ให้ลูกค้า
ทำไมทำธุรกิจMLMแล้วไปไม่รอดหรือไปไม่ถึงดวงดาว
โรงเรียนสอนธุรกิจ กับ MLM
หลาย คนล้มเลิกการทำ MLM ไปเสียกลางคัน หรือกลางทาง ไปไม่ถึงดวงดาว ทั้งที่ ธุรกิจ นี้ไม่ได้ลงทุนเป็นตัวเงิน เพราะฉะนั้น ไม่มีคำว่า ล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก หลังจากลงแรงไปได้ สักพัก และบางคน ก็คิดว่าทำธุรกิจนี้ทำวันนี้ได้ ผลวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้เกิดได้ รวยได้เพียงคืนเดียว ยกเว้น จะถูกล๊อตเตอร์รี่ เท่านั้น ทำธุรกิจ นี้ คิดไส้เลยว่า3-6เดือน มันจะมีดัชนีชี้วัดออกมา แต่คนส่วนใหญ่มักใจร้อน และที่เป็นเหตุใหญ่ๆ มาจาก สาเหตุ ที่เหล่านี้??..
แพ้ภัยตัวเอง
นักขายตรงที่ทำธุรกิจ หรือ ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ แล้วไม่รวย ไปไม่ถึงดวงดาวมีที่มาจาก
จับ ปลาหลายมือ ขายหลายอย่าง แต่เอาดีไม่ได้เลย สักอย่าง บริษัท นี้ ก็เป็น นู่นก็เป็น บางทีเป็นเสียจนสินค้ามาชนกันเอง ยังแยกไม่ออก มั่วไปหมด อธิบายให้ ตัวเองยังไม่ถูกเลย แล้ว คนฟัง จะไปรู้เรื่องได้ไง
ไม่ เชื่อถือบริษัท มีทัศนคติไม่ดี ต่อองค์กร ทำงานไปตำหนิ บริษัท ของตนเองให้ทีมงานฟัง แล้วใครจะเชื่อถือ ตัวท่าน หรือวางใจบริษัท ว่าเป็นแบบท่านพูด หรือไม่ เท่ากับสู่ยุทธการทำร้ายตัวเอง
ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ไม่เอาจริงเอาจัง มัวแต่ทำเล่นๆ หรือจับจดจับจ่อ
เก่งแต่หาข้ออ้าง กล่าวคำแก้ตัวเสมอ ขาดวินัยการทำงาน และผัดวันประกันพรุ่ง
ทำงานอย่างขาดแรงจูงใจ ไม่มีความต้องการ ไม่ทุ่มเทต่อการงาน ขาดเป้าหมาย ขาดความทะเยอทะยาน และขาดจุดมุ่งหมายในชีวิต
ไม่เข้าใจรูปแบบ คือไม่เข้าใจว่ารูปแบบของความสำเร็จทางธุรกิจ MLM ต้องอาศัยเวลาไม่น้อยกว่า6เดือนในการเริ่ม หรือ อย่างเร็ว3เดือน ผ่านไปแล้ว จึงจะเห็นผล ต้องให้ความสำคัญต่อการประชุมเป็น อย่างมาก การสร้างบ้าน สร้างอนาคต ไม่มีสิ่งใดลงวันนี้ จะสำเร็จพรุ่งนี้
เซ็งคนรอบข้าง
ทำ งาน แล้ว คนรอบข้างที่ใกล้ชิด พูดให้แต่ข้อเสียธุรกิจ นี้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำ หรือทำมาเพราะตัวเองล้มเหลว ก็เลยมาพูดกรอกหูทุกวัน จนเกิดอาการ คล้อยตาม หรือญาติพี่น้อง มองเป็นเรื่องไร้สาระ คิดแบบเก่า ไม่เข้าใจธุรกิจ
หัวหน้าทีมไม่ดี
ดาวน์ ไลท์หลายๆคน ต้องอำลาวงการไปอย่าง น่าใจหาย เพราะมีปัญหากับอัพไลท์ จอมเบี้ยว พูดง่ายว่า เจออัพไลท์ หรือ หัวหน้าทีม จอมเล่ห์กล ประเภท
    • ฝากเบิกสินค้า แต่ไม่ได้สินค้า
    • ได้สินค้า แต่ไม่ได้ยอดขาย
    • ได้ยอดขาย แต่ไม่เคยได้โบนัส
    • โบนัสที่จะได้ รอกันแบบแทบชั่วอายุ
อัพ ไลท์ บางคน ขนาดเล่ห์เหลี่ยมจัด หลอกคนที่เป็น ดาวน์ไลท์ ที่รู้น้อยกว่า ให้ขนเงินขนทอง มาปิดยอดเพื่อหวังสมบัติ รางวัล หรือโบนัสพิเศษ หรือการเลื่อนตำแหน่ง ของตัวเอง เจอเข้าแบบนี้ก็กะอักเลือดกันทุกคน
บริษัทมีปัญหา
ขาด ความเป็นมืออาชีพในการบริหาร ขาดประสบการณ์ ขาดการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน แม้นการวิเคราะห์ทางด้านการตลาดหัวใจสำคัญ ยังมั่ว ไม่จริงจัง จริงใจ ขาดจริยธรรมและไม่ซื่อสัตย์ต่อผลิตภัณฑ์ หลายต่อหลายธุรกิจ ทำให้ บริษัทเหล่านี้ หยุดชะงัก และล้มตายไปในที่สุด มักมาจาก
ปัญหาตัวผู้บริหารธุรกิจขายตรง
ประเภทเก่งคนเดียว บริหารแบบเบ็ดเสร็จ ยึดอำนาจ ไดโนเสาร์เต่าล้านปี ขาดวิสัยทัศน์
-เขี้ยวลากดิน
-คอรับชั่นกันเป็นทึม กินกัน จนบริษัทเจ๊ง
ปัญหาจากสินค้า
คือ คุณภาพสินค้าไม่ได้ มาตรฐาน ลูกค้าเจอเข้าไปครั้งเดียว จอด แล้วใครจะมาซื้อซ้ำสอง ซ้ำสาม ราคาเกินจริง หรือ ประเภทสินค้า มีการขาดสต๊อคยู่บ่อย ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ฯลฯ
ปัญหาจากแผนการตลาด
จัด ทำแผนการตลาดโดยไม่คำนึงถึงจุดคุ้มทุน และผลกำไร ทางธุรกิจ จากพวกมือปืนรับจ้างๆ ต่างๆ ที่ใครเห็น ก็ยี้..โดยพยายามให้เห็น แผนการตลาดเด่น และจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูง แต่พอทำไปได้สักพัก ไม่มีเงินจ่ายผลประโยชน์ ให้เป็นไปตามแผนที่วาง หรือมีการเปลี่ยนแปลงแผนการตลาดในเชิงลบ แบบแทบรายเดือน ทำให้ ผู้ที่มาร่วมงานรามเป็นสมาชิกมีความรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบรายวัน รายเดือน
ปัญหาจริยธรรมทางธุรกิจ
สินค้า ไม่ผ่านการปฎิบัติ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่า จะในแง่สรรพสามิต หรือ อ.ย. (คณะกรรมการอาหาร และยา) แม้นแต่กระบวนการทางภาษี
TEL 85620 5996 2888 
>>www.morsenglao.blogspot.com<<