สินค้าทั้งหมด |
Sunday, May 27, 2012
“ทราบไหมครับ ? ว่าผู้หญิงเราเป็นตกขาวกันมากขึ้นทุกวัน และ ส่วนใหญ่แก้ปัญหาตกขาวกันแบบไม่ถูกวิธี!” , ตกขาว , แก้ปัญหาตกขาวแบบถูกวิธี TEL 85620 5996 2888
“ทราบไหมครับ ? ว่าผู้หญิงเราเป็นตกขาวกันมากขึ้นทุกวัน และ ส่วนใหญ่แก้ปัญหาตกขาวกันแบบไม่ถูกวิธี!”
พูดถึง “ตกขาว” เชื่อว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อย ต้องรู้จักและเคยมีประสบการณ์ของอาการตกขาวกันหมดทุกคน และหลังจากที่เป็นแล้ว มักจะรักษากันด้วยการซื้อยาชนิดต่างๆมารับประทานเอง หรือไม่ก็พยายามหาซื้อยามาสอดช่องคลอด เพราะเข้าใจว่าจะช่วยให้ตกขาวหายไปได้อย่างถาวรดังนั้น ในฐานะที่จิ๊บเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จิ๊บคิดว่าถึงเวลาเสียที่ผู้หญิงเราควรจะ สบายใจและห่างไกลจากตกขาว จิ๊บก็เลยอยากจะถ่ายทอดความรู้และข้อมูลที่น่าสนใจเรื่องตกขาวให้ทุกคนได้ ศึกษาค่ะ“ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของตกขาว ทำให้ดูแลรักษาแบบไม่ถูกวิธีนั่นเอง!”
ผู้หญิงเป็นตกขาวกันมากขึ้นทุกวันจริงหรือเปล่า ?
จากการสืบค้นข้อมูล จิ๊บพบว่าเป็นเรืองจริงค่ะ
ที่ผู้หญิงเรามีแนวโน้มที่จะเป็นตกขาวกันมากขึ้น
ลองดูข้อมูลกราฟอ้างอิงที่จิ๊บได้สืบค้นมา
ทำความเข้าใจเรื่องตกขาวกันก่อน
เป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตกขาว มีกี่ประเภท
อะไรบ้าง เพราะว่าตกขาวแต่ละประเภทจะมีวิธีการใช้ยาหรือรักษาแตกต่างกันไป
ปัญหาส่วนใหญ่จากประสบการณ์ของจิ๊บที่มักจะพบ จากผู้หญิงเราเมื่อเป็นตกขาว
คือ ไม่รู้ว่าตนเองเป็นตกขาวประเภทไหน ?
และจะทำให้ตัดสินใจรักษาตกขาวแบบผิดๆโดยไม่ตั้งใจค่ะจากแผนผังด้านบน เราสามารถแบ่งประเภทของตกขาวออกได้เป็นดังนี้ค่ะ“ตก ขาว เป็นคำศัพท์ทางการแพทย์ ที่ใช้บอกถึงสิ่งที่ระบายออกทางช่องคลอดประเภทหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงของการตั้งครรภ์หรือเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาอื่นๆ ถ้าคุณมีตกขาว ตกขาวที่มีอาจจะเหนียวข้นและมีสีขาว เหลือง หรือเขียวก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งเกิดในช่วงของการตกไข่จนกระทั่งมีประจำเดือน หรือการติดเชื้อที่เกิดขึ้น”
- ตกขาวปกติ
- ตกขาวผิดปกติ
ตกขาวปกติเป็นอย่างไร ?
"ไม่มีกลิ่นหรืออาจจะมีกลิ่นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็น" | |
"ปริมาณตกขาวที่เกิดขึ้นไม่มากจนเกินไป" | |
"ตกขาวมีลักษณะใสหรือสีขาว" |
*** ระยะไข่ตก ร่างกายจะสร้างตกขาวปกติที่มีลักษณะเหนียว หนืด ออกมาในปริมาณที่มากขึ้น เนื่องจากกลไกของธรรมชาติต้องการคัดกรองอสุจิตัวที่แข็งแรงที่สุด *** ในกรณีของผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์หรือทานยาคุมกำเนิด อาจจะมีตกขาวปกติในปริมาณที่มากขึ้น
ตกขาวผิดปกติเป็นอย่างไร ?
"ตกขาวมีกลิ่นเหม็น" | |
"ตกขาวมีปริมาณมากกว่าปกติมาก" | |
"ตกขาวมีสีที่เปลี่ยนไป เช่น เทา เหลือง เขียว และอาจเป็นฟองร่วมด้วย" | |
"ตกขาวเกิดร่วมกับอาการแสบ คัน บริเวณช่องคลอดและปากมดลูก" |
สาเหตุของตกขาวผิดปกติ
หน้าที่โดยพื้นฐานของช่องคลอด คือ
ทำหน้าที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับภายนอกช่องคลอด
ไปสู่มดลูกและระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
ค่าความเป็นกรด-ด่างตามธรรมชาติของช่องคลอดมีฤทธิ์เป็นกรดทำหน้าที่ป้องกัน
การติดเชื้อ ความเป็นกรดในช่องคลอดถูกสร้างขึ้นจากแบคทีเรียฝ่ายดี
ที่สร้างขึ้นจากร่างกายเราตามธรรมชาติ เมื่อช่องคลอดของเรามีสุขภาพดี
ช่องคลอดจะรักษาความสะอาดและความแข็งแรงของตัวมันเอง
ด้วยการผลิตตกขาวปกติออกมา
ความสมุดลตามธรรมชาติของช่องคลอดสามารถถูกทำลายด้วยอะไรก็ตาม
ที่เข้าไปรบกวนสภาพปกติของช่องคลอด
เมื่อสภาพความเป็นกรด-ด่างที่สมดุลตามธรรมชาติของช่องคลอดถูกรบกวน
ย่อมส่งผลให้เชื้อชนิดอื่นๆสามารถเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้น
เป็นเหตุช่องคลอดมีสภาวะอักเสบและติดเชื้อ
และก่อให้เกิดปัญหาตกขาวผิดปกติตามมา
สภาวะความสมดุลหรือความเป็นกรด-ด่างของช่องคลอดมักจะถูกรบกวนด้วยสาเหตุดัง
ต่อไปนี้*** การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง มีผลต่อค่าความเป็นกรด ด่างของช่องคลอด ผู้หญิงเรามีโอกาสที่จะติดเชื้อและเป็นตกขาวผิดปกติได้ง่าย หากฮอร์โมนเพศหญิงมีการเปลี่ยนแปลงหรือถูกรบกวน
การติดเชื้อในช่องคลอดที่ทำให้เกิดตกขาวผิดปกติ
3 อันดับ การติดเชื้อในช่องคลอดยอดนิยม ที่ทำให้ผู้หญิงเรามีปัญหาตกขาวผิดปกติค่ะ- ช่องคลอดติดเชื้อรา -
เป็นเชื้อราที่มีชื่อว่า “Candida albicans” ซึ่งเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่บริเวณช่องคลอดอยู่แล้วตามธรรมชาติ และมิได้มีผลเสียแต่อย่างใด แต่ถ้าสภาพภายในช่องคลอดเกิดการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลหรือการใช้ยาปฏิชีวนะ อาจส่งผลให้เชื้อราชนิดนี้เกิดขึ้นในช่องคลอดมากเกินไป ส่งผลให้เกิดตกขาวผิดปกติจากเชื้อราได้
Candida albicans
การที่ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำเนื่องจากการเจ็บป่วย เช่น เอดส์
เอสแอลอี
รวมถึงการสวนล้างช่องคลอดมักเป็นสาเหตุของการทำให้สมดุลกรด-ด่างภายในช่อง
คลอดเปลี่ยนไป และส่งผลให้เกิดตกขาวจากเชื้อราได้อีกเช่นกัน- ช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรีย -
เป็นตกขาวผิดปกติที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “Bacterial vaginosis” ซึ่งไม่ใช่เชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Bacterial vaginosis
โดยปกติ สภาวะช่องคลอดของผู้หญิงที่มีสุขภาพดี
จะมีจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการก่อตัวของแบคทีเรียชนิดนี้อยู่
การลดลงของจุลินทรีย์ (อาจจะเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
หรือความไม่สมดุลของค่ากรด-ด่างของช่องคลอด)
ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้นและทำให้ติดเชื้อได้- ช่องคลอดติดเชื้อพยาธิ -
พยาธิชนิดนี้มีชือว่า “Trichomonas vaginalis” เป็นโปรโตซัวที่พบได้ในช่องคลอดหรือบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น อย่างเช่น ในน้ำปัสสาวะ แต่ไม่ได้อยู่ในลำไส้เหมือนเช่นพยาธิทั่วๆไปที่เรารู้จักกัน ซึ่งเป็นพยาธิที่ติดต่อได้ผ่านทางเพศสัมพันธ์ มักพบในผู้หญิงที่มีสามีติดเชื้อตัวนี้ หรือติดเชื้อจากการใช้ห้องน้ำสาธารณะ (พบไม่บ่อยนัก)
Trichomonas vaginalis
เนื่องจากพยาธิชนิดนี้เป็นพยาธิที่ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น
การรักษาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพาคู่นอนของตนเองไปพบแพทย์และทำการรักษา
ร่วมกันค่ะ
ตกขาวผิดปกติแก้อย่างไรดี ?
การแก้ปัญหาตกขาวผิดปกติ เป็นอะไรที่ผู้หญิงเราเข้าใจผิดกันอยู่มาก
โดยส่วนใหญ่มักจะมีผลิตภัณฑ์หรือโฆษณาชวนเชื่อว่ารักษาตกขาวได้แบบชะงัด
และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่
จึงมักที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาทดลองใช้ด้วยตนเอง
หรือถ้าดีหน่อยก็อาจจะไปปรึกษาตามร้านขายยา
เพื่อซื้อยามารับประทานและอาจจะมีการใช้ยาเหน็บหรือยาสอดร่วมด้วยค่ะ
ถ้าซื้อยามาใช้ได้ตรงกับสาเหตุ ตกขาวก็อาจจะหายไปค่ะ
แต่ถ้าเราไม่ได้ไปแกที่ต้นเหตุแล้ว การทานยา การเหน็บยา
หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆก็ดี จะช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
และมักจะมีปัญหาตกขาวผิดปกติกลับมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น คนที่มีปัญหาเบาหวาน
(คนเป็นเบาหวานร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่ำ และป่วยเป็นโรคได้ง่าย)
มักจะมีปัญหาช่องคลอดติดเชื้อราและมีตกขาวผิดปกติ
ถ้าเราได้ยามาทานหรือยามาเหน็บ ก็อาจจะช่วยบรรเทาอาการตกขาวผิดปกติได้
แต่จิ๊บถามว่า
ถ้าเรายังไม่สามารถทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายของเราสูงขึ้นได้
ตกขาวผิดปกติจาการที่ช่องคลอดติดเชื้อรา ก็จะเป็นๆหายๆอยู่แบบนั้นใช่ไหมค่ะ
? ดังนั้น ก่อนที่เราจะหาวิธีการรักษาตกขาวผิดปกติ “เราควรจะต้องทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนว่า สาเหตุของตกขาวผิดปกติของเราเอง คืออะไร ?”
ยาฆ่าเชื้อและยาเหน็บช่องคลอด ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีปัญหาตกขาวผิดปกติจะทราบดีค่ะ
ว่าการไปตรวจรักษาอาการตกขาวผิดปกติที่โรงพยาบาลก็ดี
หรือการปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาต่างๆก็ดี
สุดท้ายแล้วมักจะได้ยาฆ่าเชื้อมาทานหรือได้ยาเหน็บช่องคลอดมาเหน็บ
ซึ่งมักจะเป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ
สาวๆคนไหนโชคดีหน่อยก็พอได้ยามาทานหรือมาเหน็บก็อาการดีขึ้น
แต่เชื่อไหมค่ะว่ามักจะดีขึ้นแค่เพียงระยะแรกเท่านั้น
และมักจะกลับมาเป็นตกขาวผิดปกติอีกในภายหลัง เพราะอะไรเหรอค่ะ ?
เพราะว่าการทานยาฆ่าเชื้อและการใช้ยาเหน็บช่องคลอด
เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุค่ะ
อย่างที่จิ๊บได้ยกตัวอย่างไปแล้วก่อนหน้านี้ค่ะว่า
ถ้าเราไม่สามารถทราบสาเหตุหรือต้นเหตุของตกขาวผิดปกติจริงๆได้
ถึงแม้ว่าเราจะเหน็บยาสักเท่าไร มันก็จะกลับมาเป็นอีก
จนเรารู้สึกว่ามันเป็นปัญหาชีวิต
และอาจจะลามไปถึงความสัมพันธ์ที่มีกับแฟนหรือสามีอีกด้วย
เพราะว่าผู้หญิงที่มีปัญหาตกขาวผิดปกติ
ช่องคลอดจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ค่ะ
สูตรลับการรักษาตกขาวผิดปกติ
จากการคลุกคลีและหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตกขาวอย่างจริงจัง
ทำให้จิ๊บได้ทราบว่า การรักษาตกขาวผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น
ต้องมีความเข้าใจถึงสาเหตุ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องและปลอดภัย
ซึ่งสูตรลับหรือข้อมูลเหล่านี้
ได้ผ่านการทดลองใช้กับผู้หญิงที่เป็นตกขาวผิดปกติหลายคน
และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ด้วย ยาสะหมุมไพ หมอเส็งรักษาตกขาว อย่างถูกวิธีและได้ผล โทร 85620 5996 2888
© 2012 รักษาตกขาว อย่างถูกวิธีและได้ผล ด้วยยาสะหมุมไพ หมอเส็ง
สวัดีครับ ทุกๆท่าน ผมชื่อ คำพัด สีมมะวงค์ ครับผมเป็นคนหนึ่งฝันอยากจะรวย และ มีอิสรภาพทางการเงินกับเขาบ้าง ผมมีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับคนที่อยากจะมีอิสรภาพทางการเงินและเวลาเพื่อมาเปิดโอกาสให้ท่านได้พิจรณาอีกทางหนึ่งครับ
10 คำถามของคนอยากรวย...... เมื่ออ่านจบแล้ว ท่านคิดว่า ท่านตอบคำถามตัวเองได้หรือยัง
เมื่อคืนผมออกไปสังสรรค์ กับรุ่นน้องคนหนึ่ง มีการพบปะพูดคุยเรื่องต่างๆมากมาย ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แต่ที่เอามาเขียน Post นี้มีสาระนะครับ เผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ อ่านนะครับ จากที่ผมได้คุยกับรุ่นน้องคนนี้ มีคำถามหนึ่งที่ผมชอบในคำถามของเขา “พี่ครับ ทำอย่างไร ผมถึงจะรวย” ก่อน อื่นผมขอบอกก่อนนะครับ ว่าตัวผมเองก็ ไม่ได้รวยอะไร แค่มีกินมีใช้ไม่ขัดสน และมีเงินลงทุนบ้างแต่มีจำนวนจำกัดเท่านั้นเอง ตัวผมเองใคร่ควรในคำถาม นับว่าเป็นคำถามที่ดีทีเดียว ผมก็เลยตอบเขาไปว่า เป็นคำถามที่ดี และถามได้ถูกต้องมาก พี่จะเปรียบเทียมคำถามให้ฟัง
10 คำถามของคนอยากรวย...... เมื่ออ่านจบแล้ว ท่านคิดว่า ท่านตอบคำถามตัวเองได้หรือยัง
เมื่อคืนผมออกไปสังสรรค์ กับรุ่นน้องคนหนึ่ง มีการพบปะพูดคุยเรื่องต่างๆมากมาย ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แต่ที่เอามาเขียน Post นี้มีสาระนะครับ เผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ อ่านนะครับ จากที่ผมได้คุยกับรุ่นน้องคนนี้ มีคำถามหนึ่งที่ผมชอบในคำถามของเขา “พี่ครับ ทำอย่างไร ผมถึงจะรวย” ก่อน อื่นผมขอบอกก่อนนะครับ ว่าตัวผมเองก็ ไม่ได้รวยอะไร แค่มีกินมีใช้ไม่ขัดสน และมีเงินลงทุนบ้างแต่มีจำนวนจำกัดเท่านั้นเอง ตัวผมเองใคร่ควรในคำถาม นับว่าเป็นคำถามที่ดีทีเดียว ผมก็เลยตอบเขาไปว่า เป็นคำถามที่ดี และถามได้ถูกต้องมาก พี่จะเปรียบเทียมคำถามให้ฟัง
ทำอย่างไร ผมถึงจะรวย :การ ที่ถามแบบนี้แสดงว่าเราอยากรวยจริงๆโดยต้องเกิดจากการกระทำ นั่นคือทำอย่างไรถึงจะรวย จะต้องทำอะไร เพื่อให้เกิดการมีรายรับมากๆขึ้น อย่างนี้ซิ มีโอกาสรวยแน่นอน
เมื่อไหร่ผมจะรวย:การถามแบบนี้ก็แสดงว่าต้องการจะรวย แต่ไม่ต้องการทำอะไรทั้งสิ้น นั่งรอความรวย ถูกล็อตเตอรี่ หรือถูกรางวัล ช่างเพ้อฝัน แล้วก็ ฝันไปเถอะว่าจะรวย ผมก็เลยเปรียบเทียบความคิดให้ได้เห็นภาพดังนี้นะครับ
สิบข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลางเมื่อไหร่ผมจะรวย:การถามแบบนี้ก็แสดงว่าต้องการจะรวย แต่ไม่ต้องการทำอะไรทั้งสิ้น นั่งรอความรวย ถูกล็อตเตอรี่ หรือถูกรางวัล ช่างเพ้อฝัน แล้วก็ ฝันไปเถอะว่าจะรวย ผมก็เลยเปรียบเทียบความคิดให้ได้เห็นภาพดังนี้นะครับ
ข้อหนึ่ง เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาวซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็น เวลานาน และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง
ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มี แนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ “ซุบซิบนินทา” เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
ข้อสาม คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่ มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้
ข้อสี่ คน รวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถ สร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความ ผันผวนของราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้ม ค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง “บ้าบิ่น” เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ข้อห้า คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้ และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำ ไปสู่ความร่ำรวยได้
ข้อหก คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยงและอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อย กว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้
ข้อเจ็ด คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อย บอกหรือรู้กันยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต
ข้อแปด คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง ข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนใน ทรัพย์สินหลาย ๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็น หลัก
ข้อเก้า คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยมองที่ภาพรวม ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้อง เสียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขา จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง
และสุดท้าย ข้อสิบ คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร? ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจเช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ?
เมื่ออ่านจบแล้ว ท่านคิดว่า ท่านตอบคำถามตัวเองได้หรือยัง
ถ้าท่านสนใจอยากจะรวยไปพร้อมกับเราและทีมงานท่านลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.morsenglao.blogspot.com
รับอบรม ฟรี พร้อมเครื่องมือทำธุรกิจอีกเพียบ คุณมีหน้าที่แค่โปรโมทธุรกิจเท่านั้นก็รวยแล้ว
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เราจะส่งข้อมูลไปให้คุณอ่านเพิ่มเติมทาง mail:morsenglao@hotmail.com ครับ.
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงมีโอกาสได้ร่วมงานกัน
ผม คำพัด สีมมะวงค์ โทรศัพท์: 020 22228597 / 56999579
(คลิกลิ้งค์ ไม่ได้ กรุณาCopy แล้วไปวางที่ช่องใส่ เว็บไซด์)
หมอเส็งให้สัมภาษณ์ นสพ สยามดารา TEL 020 5996 2888
หมอเส็งให้สัมภาษณ์ นสพ สยามดารา
ถ้าจะพูดถึงความสวยความงามแล้ว ผู้หญิงทุกคนต้องสนใจเป็นแน่ เพราะความงามกับผู้หญิงนั้นถือเป็นของคู่กันมานมนาน วันนี้เราจะพาคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามหรือผู้หญิงที่ต้องการให้ความสวย นั้นอยู่คู่กับตนเองไปตลอดกาลนั้นต้องฟังทางนี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปคุยกับปรมาจารย์ด้านศาสตร์สมุนไพร ที่จะทำให้คุณดูสวยจากภายในสู่ภายนอกกับผู้ชายที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี ในชื่อ “หมอเส็ง” ที่จะมาเปิดอกและเคล็ดลับความงามอย่างธรรมชาติให้คุณได้สัมผัสความมหัศจรรย์ ของว่านไทยทีมีชื่อว่า “ว่านชักมดลูก” ซึ่งหมอเส็งถือเป็นคนแรกที่ได้บุกเบิกสมุนไพรว่านชักมดลูกมาหลายทศวรรษ
ความเป็นมาของคุณหมอในการเริ่มทำสมุนไพรเป็นอย่างไร ?
ผมเป็นหมอแผนโบราณมาหลายสิบปี มีก๋งและพ่อผมทั้งตระกูลเป็นหมอยา มีความชำนาญด้านสมุนไพร ชีวิตวัยเด็กของผมคลุกคลีอยู่กับร้านขายยาแผนโบราณ พ่อก็เป็นหมอมาจากเมืองจีนสอนให้ผมรู้จักกับสมุนไพร ซึ่งการศึกษาแพทย์แผนโบราณนั้นยากมาก ต้องเรียนรู้ถึงสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด ถ้าจะใช้สมุนไพรรักษาให้ถูกหลักและให้ออกฤทธิ์รักษาอย่างได้ผลต้องแตกฉาน สมุนไพรเพียงชนิดเดียวไม่สามารถรักษาได้ผล ต้องนำสมุนไพรหลายๆชนิดมาผสมผสานกันจึงจะออกฤทธิ์ในการรักษาอย่างได้ผล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้ง ประสบการณ์เป็นหมอมาหลายสิบปี พอประสบการณ์มันสูง เก็บข้อมูลจากการรักษาคนมาเยอะ ก็จะรู้ว่าสมุนไพรตัวไหนรักษาโรคอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น มีความชำนาญขึ้น ระยะหลังเลยมาทำยาขาย เราเอาของที่ดีๆมีคุณภาพได้ผลเร็ว มาทำยาสำเร็จรูปขาย
อะไรที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนให้คุณหมอหันมาสนใจสร้างธุรกิจนี้ ?
เพราะลำพังเป็นหมออย่างเดียวเนี่ยเหนื่อย มันเหนื่อยเพราะรักษาคนไข้หลายสิบคน มันไม่มีเวลาว่าง ก็เลยเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นทำยามาขาย พอทำยามาขายแล้วขายดีมีชื่อเสียงดังขึ้นมา แล้วก็พอเราดังคนก็เข้ามาสัมผัสเยอะ แล้วพอมีคนกลุ่มหนึ่งพวกขายตรง ขายแบบที่ว่าสร้างคนขายให้เป็นกลุ่มแล้วเอาไปขายก็กลายเป็นเปิดบริษัท แสงสุริยะฉัตร ทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายใต้ชื่อ “หมอเส็ง” สมุนไพรที่เอามาจำหน่ายมีหลายตัวด้วยกัน และที่ทำให้มีชื่อเสียงมากๆคือ สมุนไพรชื่อว่า “ว่านชักมดลูก” นี่แหละครับ
จุดเด่นของสมุนไพรมีอะไรบ้าง ?
ก็คือ ความเป็นธรรมชาติ จริงๆแล้วร่างกายของคนเราเป็นธรรมชาติ ถ้าเราใช้ธรรมชาติไปบำบัดโรคต่างๆร่างกายจะยอมรับมากกว่า โอกาสแพ้ก็ไม่มี ถามว่ายาสมุนไพรได้ผลไหม ? คือ สมัยนี้คนทำไม่เป็นชอบทำออกมาขาย หรือเป็นหมอก็ไม่ชำนาญรักษาก็เลยไม่หาย ผมเองเป็นคนโกหกไม่เป็น ถ้าผมพูดถึงสรรพคุณ คือ ผมได้ทดสอบแล้วลองใช้แล้ว สมุนไพรมันอยู่ที่คนใช้ ใช้อย่งเดียวมันไม่ได้ผล กวาวเครือ อย่างเดียวมันไม่ได้ผล ถ้าได้ผลมันก็น้อย คือ คนโบราณจะมีการผสมผสานสมุนไพรหลายตัว เพราะฉะนั้นสมุนไพรอยู่ที่คนชำนาญ คนทำขายเยอะก็ต้องเลือกให้ดี ต้องระวัง
หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่านชักมดลูกมีที่มาอย่างไร ?
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรที่มีประเภทคล้ายเผือกมัน ลักษณะคล้ายมดลูกของผู้หญิง ธรรมชาติบ่งบอกถึงความเป็นยาเกี่ยวกับมดลูกของผู้หญิงโดยเฉพาะ ถ้าพูดถึงชื่อฟังดูแล้วน่ากลัว เพราะมีคำว่า “ชัก” คำว่าชักมดลูกนั้นหมายถึง ชักหรือหดทุกส่วนของกล้ามเนื้อที่หย่อนยานให้เต่งตึงสดใส ว่านนี้เราเห็นว่ามันให้คุณประโยชน์ เป็นสมุนไพรไทยของคนไทย แล้วยาไทยมันดัง เห็นว่าว่านเป็นสมุนไพรที่ให้คุณกับผู้หญิงทุกจุดทุกมุมครับ ก็เลยเรียกว่าทำออกมาขายแล้วมันขายดี ตลาดยอมรับ คุณผู้หญิงก็กินคุณภาพ คือ นอกจากจะทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิงแล้ว ยังเน้นเรื่องประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ หรือประจำเดือนมาแล้วปวดท้องมากๆ หรืออาการหน่วงท้องน้อย ปวดมดลูก ช่วยบรรเทาอาการตกขาว
สรรพคุณของว่านชักมดลูกมีอะไรบ้าง ?
อย่างที่บอก ว่านชักมดลูก มีฤทธิ์กระชับมดลูก ช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่งหรือมดลูกต่ำให้สูงขึ้น ช่วยให้มดลูกกระชับขึ้น จริงๆมันจะออกฤทธิ์ตรงมดลูกเป็นส่วนใหญ่ ที่อื่นมันจะออกฤทธิ์น้อย เพราะฉะนั้นคนไทยเราหรือคนทั่วไปทำงานหนัก เป็นเหตุให้มันมีปัญหาเรื่องมดลูก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการเจ็บท้องน้อยแล้วไม่หาย กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย หรือมดลูกต่ำลงมาคาอยู่ตรงช่องคลอดก็มี คือ มดลูกอยู่ผิดตำแหน่งมันก็ส่งผลเยอะก็มีปัญหาเยอะ
ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงกำลังเผชิญมีอะไรบ้าง ?
ก็มีอย่างตกขาว กลิ่นไม่สะอาด มดลูกอักเสบเป็นประจำ ทำให้มีประจำเดือนแล้วปวด แล้วพวกหน่วงท้องน้อยเนี่ย คือ ทำงานหนักแล้วจะเจ็บจี๊ดเข้าหัวใจเลย ทำให้ต้องหยุดชั่วคราวจนกว่าอาการเจ็บมันจะบรรเทา ถึงจะทำงานได้ต่อ เพราะฉะนั้นมันจะเป็นอุปสรรคต่อผู้หญิงนะครับ
ว่านชักมดลูกนี้จะช่วยรักษาปัญหาของผู้หญิงได้อย่างไร ?
มันจะช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่งให้เข้าอู่ หรือแก้เรื่องมดลูกอักเสบได้ ทุกวันนี้ผู้หญิงไทยที่มีปัญหาเรื่องมดลูกมีเยอะ ทุกคนที่กินมันได้ผล การทำยาขายมันอยู่ทีคุณภาพ ถ้าคุณภาพดีก็ยอมรับกันและผลิตภัณฑ์ของเรามันได้ผลมาก
นอกจากนั้นว่านชักมดลูกยังช่วยในเรื่องของความสวยความงามด้วย
ความสวยความงามของผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญ ว่านชักมดลูกทำให้ผู้หญิงมีความเป็นผู้หญิงโดยสมบูรณ์ อะไรที่หย่อนๆยานๆนั้นตึงหมด อย่างหน้าอกหย่อนยานกินสัก 3 วันก็จะตึงขึ้นแล้ว บางคนหน้าอกแฟบกินไปก็สร้างหน้าอกเป็นรูปเดิม ถึงจะไม่สวยเท่าเดิมแต่ก็ดูแล้วไม่น่าเกลียด เรียกง่ายๆว่าช่วยเสริมอกหย่อนยานให้เต่งตึงขึ้น ผู้หญิงจะรู้จุดนี้ เนื่องจากมันมีวิวัฒนาการการชัก หมายถึงว่า ทำให้ตึง อย่างใบหน้าหย่อนๆมันก็ตึงขึ้นไป อีกทั้งยังลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ต้นคอ หน้าท้องและผิวพรรณ ลบรอยด่างดำบนใบหน้า
ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่นอยากให้คุณหมออธิบายตรงนี้ให้สาวๆฟังหน่อย
กล้ามเนื้อย่นๆหย่อนๆ หน้าเหี่ยวๆ จริงๆมันไม่เกี่ยวกับผิวนะ คุณต้องเข้าใจมันเกิดจากกล้ามเนื้อบนใบหน้าหดตัว พอกล้ามเนื้อบนใบหน้าเหี่ยวย่นผิวจะย่นด้วย เพราะผิวต่อกับเนื้อพอกล้ามเนื้อมันเสื่อมโทรมหรือหย่อนยาน มันก็จะทำให้ใบหน้าเหี่ยว
แสดงว่าว่านนี้ช่วยในเรื่องของผิวดีขึ้นด้วย ?
หน้าตึงก็ทำให้ผู้หญิงสวยขึ้นด้วย ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ฝ้าต่างๆจางลง และนอกจากนั้นก็ทำให้พวกหน้าแห้งทาแป้งไม่ติด กินสัก 3-5 วันหน้าก็จะมีน้ำมีนวลขึ้นรับแป้ง ผ่องขึ้น คือจะช่วยรักษาผิวหน้าที่แห้งทาแป้งไม่ติดหลังจากรับประทานประมาณ 7 วัน อาการทาแป้งไม่ติดจะหายไป เรียกว่าว่านชักมดลูกให้คุณภาพทั้งร่างกายเลย
แล้วสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์เป็นเช่นไร ?
ผู้หญิงที่เจ็บมดลูกบ่อยนอนกับสามีก็ไม่ได้ ก็จะเจ็บ หรือผู้หญิงที่มีอารมณ์ทางเพศเปลี่ยนไปเพราะมดลูกไม่ดี อย่างพวกที่ตายด้านไม่มีอารมณ์เรื่อง sex ไม่มีน้ำหล่อลื่น พอกินเข้าไปจะมีน้ำหล่อลื่น ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดสตรี จะมีอาราณ์มากขึ้้น ช่วยกระชับช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์ ช่วยเสริมอารมณ์ทางเพศที่หมดไปให้กลับฟื้นคืนมาภายใน 7 วัน เรื่องเซ็กซ์ไม่น่ารังเกียจนะ เพราะไม่ว่าจะโกรธกันแค่ไหนกลางคืนมีเซ็กซ์กันเนี่ยอารมณ์โกรธแค้นจะหายไป คนถึงเรียกว่า ว่านมหาเสน่ห์
ทราบมาว่าคุณหมอมีไร่ปลูกว่านเองเลย ?
ครับ ว่านผมปลูกเอง เรามีพันธุ์ของเราเอง ผมจะเอาว่านมาปรุงแต่งเอง เลยทำให้ว่านชักมดลูกของผมที่กินเข้าไปแล้ว ผู้หญิงนอกจากจะสวยมีเสน่ห์แล้ว อกตึงไร้รอยเหี่ยวย่นแล้ว ยังทำให้ผู้หญิงที่บกพร่องเรื่องเซ็กซ์หรือเรื่องเพศจะสมบูรณ์ขึ้นได้ใน 3 วัน มันจะกลับมาดี ผู้หญิงที่ไม่มีความบกพร่องเรื่องเพศยังไงก็มีเสน่ห์ครับ และยิ่งกว่านั้นสูตรที่ผมทำ สรรพคุณยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่สะอาดต่างๆ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ กลิ่นผม กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นเท้า เมื่อทานติดต่อกัน 3-5 วันรับรองว่ากลิ่นต่างๆจะไม่มีเลย
แสดงว่าคุณหมอได้ประยุกต์การผสมสมุนไพรให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น ?
คือผมได้ใช้ตัวอื่นเข้าไปให้มีฤทธิ์ในการดับกลิ่นครับ เพราะฉะน้้นคนที่กินเข้าไปจะดับกลิ่นหมด กลิ่นตัว กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ คนกินเข้าไปแล้วปากจะหอมมาก นี่คือจุดเด่นกินแล้วหายครับ ยาฝรั่งไม่มีหรอก บางอย่างยาแผนปัจจุบันไม่มี แม้ว่าจะมีว่านชักมดลูกหลายยี่ห้อ แต่ส่วนผสมยังไงก็ไม่เหมือนกันหรอกครับ
นอกจากว่าชักมดลูกแล้วคุณหมอมีสมุนไพรตัวอื่นๆแนะนำสาวๆอีกไหม ?
ใครอยากอกสวยนะผมมีอีกตัวนึง สวยภายในอาทิตย์เดียว หน้าจะเด้งมีออร่า หน้าผุดผ่องขึ้น จะเป็นแบบกินเกี่ยวกับภายในครับ กวาวเครือขาวครับ ตัวนี้จะเป็นยาที่เพิ่งทำออกมา ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงขาวสวย ฝ้าจางใบหน้าหายมัน ใบหน้าที่ทาแป้งไม่ติดจะดีขึ้น แป้งจะติดหน้า มันจะรักษาจากภายสู่ภายนอก จะสวยได้นานขึ้น
งั้นให้คุณหมอช่วยสรุปข้อสำคัญของสมุนไพรตามแบบฉบับของหมอเส็งหน่อย
สมุนไพรของหมอเส็งจะช่วยลบรอยเหี่ยวย่น ลบรอยฝ้าและด่างดำ รักษาผิวที่แห้ง ช่วยเสริมอกที่หย่อนยาน รักษาอาการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการตกขาว ช่วยกระชับช่องคลอดชักมดลูกให้สูงขึ้น ลดอาการร้อนวูบวาบและอ่อนเพลียในคนวัยทอง ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ทางเพศเพิ่มน้ำหล่อลื่น ขจัดกลิ่นต่างๆในร่างกายครับ
ข้อมูลจาก นสพ สยามดารา
Email: morsenglao@hotmail.com
Telephone Laos 85620 5996 2888 / 2222 8597 / 5479 2000 / 7775 8881 / 7755 5579 Mr kham phat
Friday, May 18, 2012
ปัญหาชายวัยทอง, ปัญหาของชายวัยทอง, มารู้จักโรคเบาหวาน,โรคเบาหวาน , ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน รับส่งสินค้าถึงมือท่าน.. สนใจติดต่อ 020-5996-2888
ปัญหาชายวัยทอง
ปัญหาของชายวัยทองเรามักจะได้ยินคำว่าวัยทอง ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนmenopause สำหรับผู้ชายเมื่ออายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนที่สร้างก็น้อยลงมักจะเริ่มเมื่อ อายุ 40 ปี andropause ซึ่งการขาดฮอร์โมนจะดำเนินไปอย่างช้าๆจนเหลือประมาณร้อยละ 10 ของวัยรุ่นบางคนอาจจเรียกว่า male climacteric, viropause
ฮอร์โมนเพศชาย
โดยทั่วๆไประดับฮอร์โมนเพศชายในผู้สูงอายุจะน้อยกว่าคนที่อายุน้อย ฮอร์โมนจะเริ่มลดลงเมื่อายุ 30 ปีและจะค่อยๆลดลง การลดลงของฮอร์โมนเพศชายจะไม่เหมือนเพศหญิงเมื่อถึงวัยทองจะไม่มีฮอร์โมน estrogen และเป็นทุกคน แต่สำหรับผู้ชายที่สูงอายุยังมีฮอร์โมนอยู่บ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างฮอร์โมนได้จนอายุ 70 ปีพบว่าร้อยละ5ที่มีฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ การให้ฮอร์โมนทดแทนเพศชายก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ
- ทำให้ต่อมลูกหมากโต
- ทำให้บดบังอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่ม
- ทำให้เกิด sleep apnea
ฮอร์โมนนี้สร้างที่อัณฑะ(testis) และต่อมหมวกไต{adrenal gland}บทบาทสำคัญคือสร้างให้ร่างกายเหมือนผู้ชาย คือจะสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำให้มีความรู้สึกทางเพศและอารมณ์ดี ทำให้อวัยวะเพศแข็ง ช่วยสร้างเม็ดโลหิต ทำให้กระดูกแข็งแรง
อาการของผู้ชายที่ขาดฮอร์โมน
ฮอร์โมน testosterone มีหน้าที่สร้างความเป็นผู้ชาย เช่นกล้ามเนื้อ หนวดเครา ความต้องการทางเพศ เมื่อขาดฮอร์โมนจะมีอาการที่ขาดฮอร์โมน testosterone ดังนี้
- หนวดเคราหยุดการเจริญ
- อ้วนหรือไขมันเพิ่ม
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง
- ร้อนตามตัว
- อารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย
- ไม่มีสมาธิ
- ซึมเศร้า
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- นมโตและเจ็บ
- หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
-
เป็นโรคกระดูกพรุนการวินิจฉัยเนื่อง
จากอาการไม่เฉพาะดังนั้นมักจะวินิจฉัยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคคนแก่
การตรวจเลือดก็ยังไม่มีเกณฑ์แน่ชัดว่าเมื่อไรจึงจะขาดฮอร์โมน
ดังนั้นหากมีอาการเข้าได้กับภาวะที่มี testosteroneต่ำก็ให้สงสัยไว้ก่อนการรักษาการ
ให้ฮอร์โมน Testosterone
เพื่อทดแทนพบว่าได้ประโยชน์ในผู้ป่วยหลายรายโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีระดับ
testosterone ต่ำพบว่าอาการที่ดีขึ้นได้แก่
- อารมณ์ดีขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวา มองโรคในแง่ดี
- รู้สึกกระฉับกระเฉง มีพลังในการทำงาน
- อาการหงุดหงิดโกรธง่ายหรืออารมณ์ซึมเศร้าลดลง
- นอนหลับดีขึ้น
- มีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้น และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น
- กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น
หากคุณมีโรค มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ห้ามใช้ฮอร์โมนนี้อย่างเด็ดขาด โรคต่างๆเหล่านี้ต้องระวัง
- โรคตับ
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- บวมเท้า
- ต่อมลูกหมากโต
- โรคไต
- โรคเบาหวาน
มารู้จักโรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy
โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา Diabetic retinopathy
โรค เบาหวานขึ้นจอประสาทตาเป็นโรคแทรกซ้อนของเบาหวานที่ควบคุมไม่อยู่ จะลุกลามไปที่ตา และจะทำให้เกิดอันตราย ตั้งแต่ตามัว เห็นภาพซ้อน มองภาพแคบลง ไปจนถึงมองไม่เห็นไปเลย อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเป็นผลมาจากจอประสาทตาเสื่อม
โรคตาที่เกิดจากเบาหวาน
1.เบาหวานขึ้นจอรับภาพ : เกิดจากการทำลายของเส้นเลือดที่เลี้ยง จอ รับภาพ เบาหวานขึ้นจอรับภาพพบบ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุของตาบอดอันดับหนึ่ง เส้นเลือดที่เลี้ยงจอรับภาพจะบวม และรั่ว ทำให้จอรับภาพบวม และเกิดเส้นเลือดงอกผิดปกติที่จอรับภาพ ทำให้มีเลือดออกในลูกตา เนื่องจากเส้นเลือดเหล่านี้เปราะและแตกง่าย
2.ต้อกระจก : เกิดจากเลนส์แก้วตาเปลี่ยนสภาพจากใสเป็นขุ่น โอกาสเกิดต้อกระจกของผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงกว่าตาคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2 เท่า และต้อกระจกก็เป็นตั้งแต่อายุยังไม่มากด้วย ต้อกระจกเองจะทำให้คนไข้ตามัวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นโรคที่รักษาได้ผลดีมากด้วยการผ่าตัด
3.ต้อหิน : เกิดจากความดันตาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำลายขั้วประสาทตา ทำให้ตาบอดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่รู้สึกตัว ต้อหินในคนไข้เบาหวาน ก็พบบ่อยกว่าคนที่ไม่เป็นหวาน 2 เท่า และยิ่งเป็นเบาหวานนานขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีอัตราเสียงต่อการเป็นต้อหินสูงขึ้น เช่นเดียวกับ โรคเบาหวานขึ้นจอรับภาพ ต้อหินเป็นโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งเพราะมักไม่มีอาการเตือน ต้องตรวจจึงจะทราบ แต่รักษาได้ด้วยยาหยอด หรือแสงเลเซอร์ หรือ ผ่าตัด
อาการ
1.ในระยะแรกของโรคผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติที่จอประสาทตาเสื่อมจะไม่ลุกลามเร็ว แต่จะค่อยๆ เป็น และไม่ค่อยมีอาการจนกว่าตาจะมัว
2.ต่อมาพบว่าการมองเห็นอาจปกติ หรือเริ่มมีอาการตามัวเนื่องจากจอประสาทตาบวม ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการตามัวโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานมาก่อน
3.ในรายที่เป็นมากขึ้นมีเส้นเลือดผิดปกติงอกมาก อาจจะแตกได้ง่าย จะเห็นเป็นจุดๆ หรือมองไม่เห็นเลยถ้าเลือดออกมามาก ระยะลุกลามของโรค พบว่าจอประสาทตาจะขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นจุดๆ เกิดหลอดเลือดขึ้นใหม่ หลอดเลือดที่เกิดขึ้นใหม่นี้ผนังจะบางและแตกง่าย หลอดเลือดที่แตกแล้วน้ำเหลืองจะออกที่จอประสาทตา และในน้ำวุ้นของลูกตา ทำให้เกิดอาการตามัวและมองไม่เห็น ถ้าเลือดออกมากและน้ำวุ้นที่เลือดอยู่นานก็จะเกิดพังผืด และดึงให้จอประสาทตาหลุดลอกได้ เป็นสาเหตุให้ตาบอดได้
4.ตาบอดจากเบาหวาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของประสาทตาทำให้มีเลือด น้ำเหลือง น้ำตา มาเกาะที่ประสาทตา ประสาทตาส่วนนั้นไม่สามารถจับภาพได้ เมื่อทิ้งไว้นานๆ ประสาทตาจะเสื่อมและมองไม่เห็น
การรักษา
1.ในระยะที่เบาหวานขึ้นจอตาไม่มาก จักษุแพทย์จะแนะนำให้ควบคุมโรคเบาหวานให้ดี และนัดมาดูเป็นระยะๆ สำหรับระยะที่มีเบาหวานขึ้นจอตามากจนถึงระดับหนึ่ง จำเป็นต้องฉายเลเซอร์ที่จอประสาทตาเพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตของหลอดเลือด และในกรณีที่เข้าสู่ระยะท้ายๆ จักษุแพทย์จะใช้การผ่าตัด
2.จักษุแพทย์สามารถช่วยไม่ให้คนไข้เบาหวานตาบอดได้ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ ทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติในจอรับภาพ ทั้งนี้การใช้แสงเลเซอร์ไม่สามารถช่วยให้การมองเห็นที่เสียไปแล้วกลับคืนได้ หลักการคือใช้เลเซอร์ฉายลงไปตรงเส้นเลือดงอกใหม่เพื่ออุดเส้นเลือดและฉายลง บนจอรับภาพทั่วไปเพื่อลดการเกิดเส้นเลือดใหม่ เพราะเส้นเลือดที่งอกใหม่มีผนังบางแตกง่าย และลดการเกิดจอประสาทตาลอก
3.การผ่าตัดน้ำวุ้นตา ในกรณีที่มีเส้นเลือดแตกและเลือดคั่งอยู่ในน้ำวุ้นตา ทำให้มองไม่เห็น ถ้าเลือดไม่สามารถดูดซึมเองได้หมด จะต้องผ่าตัดเอาออก เพื่อทำให้มองเห็นดีขึ้นและสามารถฉายเลเซอร์รักษาเบาหวานขึ้นตาได้
4.การรักษาโดยการผ่าตัด ทำในรายที่มีเลือดออกในวุ้นตา และจอตาหลุดลอก โรคในระยะนี้ แม้จะได้รับการรักษาแล้ว แต่สายตาอาจจะไม่กลับมาดีดังเดิมได้
5.ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์เจริญมากขึ้น มีการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพจอประสาทตาในระบบดิจิตอล ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย แพทย์สามารถถ่ายภาพจอประสาทตาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่จอประสาทตาและบันทึก ภาพออกมาได้ทันที ซึ่งช่วยในการเก็บข้อมูลและช่วยในการพิจารณาตัดสินให้การรักษาได้ทันที ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยในการป้องกันมิให้เกิดตาบอดหรือสายตาพิการ
ยาสมุนไพร บำรุงร่างกาย
บริการด่วน ใน นะคอน หลวงเวียงจัน
รับส่งสินค้าถึงมือท่าน..
สนใจติดต่อ 020-5996-2888บริการส่งถึงมือท่าน
หมดปัญหาของล่าช้า ของไม่ถึงมือ การหลอกลวง ของปอม
ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร, ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์ TEL 020 5996 2888 / 2222 8597
ยาสตรีหลังคลอดกับการให้นมบุตร
* ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ
TEL 020 5996 2888 / 2222 8597 คำพัด
สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนบทความวันนี้ เกิดจากการที่มี่ผู้อ่านบทความของเราถามกันมามากเหลือเกินเกี่ยวกับการรับประทานยาสตรีหลังคลอดหมอเส็ง ซึ่ง
คำถามที่ผมได้รวบรวมมาไว้ เป็นคำถามที่ถูกถามบ่อยมาก
จนกระทั่งผมคิดว่าน่าจะเขียนเป็นบทความที่เป็นทางการ
จะได้ไม่ต้องถามกันให้เสียเวลาอีกคำถามสุดฮิตนั่นก็คือ จะสามารถรับประทานยาสตรีหลังคลอดได้เมื่อไหร่ เนื่องจากเป็นห่วงว่าการรับประทานยาสตรีหลังคลอดจะส่งผลต่อน้ำนมที่ให้แก่บุตร ?
ผมเข้าใจ ว่าคนที่ถามคำถามนี้คงหนีไม่พ้นคุณแม่มือใหม่ หรืออาจจะเป็นคุณแม่มือเก่าที่สนใจอยากจะรับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอ เส็ง ก่อนอื่นเรามาทบทวนสรรพคุณของยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งกันก่อนอีกครั้งจะดี กว่า
- ช่วยทำหน้าที่แทนการอยู่ไฟ หมายความว่า ผู้ที่รับประทานยาสตรีหลังคลอดบุตรหมอเส็งก็เหมือนได้อยู่ไฟหลังคลอดบุตร
- ช่วยขับน้ำคาวปลา
- ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
- ช่วยทำให้ผิวพรรณ สดใส สวยงาม
- ช่วยทำให้หน้าท้องที่หย่อนยาน จากการคลอดบุตรยุบตัวเร็ว
- ช่วยทำให้มีน้ำนมมาก
เอาละกลับมาตอบคำถามข้างต้นกันดีกว่า ผมขอตอบจากข้อมูลที่ผมได้สอบถามมาจากผู้รู้และประสบการณ์ตรงดังนี้
- กรณีที่คุณแม่คลอดตามธรรมชาติ ก่อนที่คุณแม่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งนั้น ควรจะรับประทานยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ (1 ขวดใหญ่) เพื่อบำรุงร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรงเสียก่อน จากนั้นค่อยรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งติดต่อกัน ส่วนระยะเวลาในการรับประทานนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่ว่าอยากสวย หน้าท้องยุบเร็ว มากขนาดไหน
- กรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด สูตรในการรับประทานก็ไม่แตกต่างจากข้อแรก เพียงแต่ว่าต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขมิ้นชัน ชนิดแคปซูลไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ ก่อนที่จะรับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง
- การรับ
ประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็ง มีผลการให้นมลูกหรือไม่
สำหรับคำถามนี้คุณแม่หลายๆท่านเป็นกังวลกันมาก
ผมขอเอาประสบการณ์ตรงมาตอบเลยว่า พี่สะใภ้
ของผมหลังจากคลอดลูกก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตรหมอเส็งตามสูตร
และให้นมลูกตามปกติ หลานผมก็เป็นเด็กฉลาดและแข็งแรงดีมาก
นอกจากนี้คุณภรรยาของคุณหมอเส็งก็ได้รับประทานยาสตรีหลังการคลอดบุตร
หลังคลอดน้องโป๊ยเซียนเช่นกัน
ถ้าบทความที่ผมเขียนมีประโยชน์ช่วยคอมเม้นต์ที่ด้านล่างด้วยนะครับ
ยาหมอเส็งสำหรับหญิงตั้งครรภ์
ไม่ใช่แค่อยากบำรุงร่างกายนะครับ คุณผู้หญิงบางคนในช่วงมีน้องแล้วมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นก็เป็นกังวลว่าหลัง คลอดแล้วจะลดน้ำหนักลำบาก ก็เลยอยากควบคุมน้ำหนักตอนตั้งท้องซะงั้น ผมถูกถามแบบนี้ก็งงๆเหมือนกันครับ แต่ก็ลองสอบถามผู้รู้มาให้ทุกครั้ง เพราะว่าใจเขาใจเราครับ
บทความในวันนี้ผมจะบอกถึงยาหมอเส็งที่หญิงตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้ครับ เอาเป็นว่าอ้างอิงจากคำถามที่เคยถูกถามมานะครับ
ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์สามารถรับประทานยาหมอเส็งตัวไหนได้บ้าง ?
ยาหมอเส็งที่รับประทานได้ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์มีดังนี้ครับ คือ
- ยาบำรุงร่างกาย เบอร์ 2 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
- ยาบำรุงร่างกาย 234 ตราหมอเส็ง ชนิดแคปซูล
- ยาบำรุงร่างกาย 999 ตราหมอเส็ง ชนิดน้ำ
มีคำถามน่าสนใจอีกคำถามหนึ่งของคนที่เค้าถามเข้ามาว่า อยากควบคุมน้ำหนักระหว่างตั้งท้องก็เลยอยากทานยาสลายไขมันหมอเส็ง ได้หรือเปล่า ?
อันนี้ขอยืนยันคำตอบด้านบนครับ ทานไม่ได้ครับ ทานได้เพียงยาบำรุงร่างกายที่ผมแนะนำไปได้เพียงเท่านั้น
วันนี้สั้นๆแต่คิดว่าเป็นประโยชน์ครับ
*** ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่่องสุขภาพ ความงาม ปัญหาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง หรือถ้าท่านอยากร่วมธุรกิจหมอเส็งกับเราก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามราย ละเอียดหรือคำแนะนำได้ครับ
Email: morsenglao@hotmail.com
Subscribe to:
Posts (Atom)