Sunday, August 26, 2012

ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 หรือสูตร 2 ดี?, แนะนำวิธีทาน ว่านชักมดลูกหมอเส็ง Morseng Lao Herb Shop TEL 020 5996 2888

ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 หรือสูตร 2 ดี?

Morseng Lao Herb Shop TEL 020 5996 2888

เป็น ทีทราบกันดีว่ายาหมอเส็งมีอยู่หลายสูตรมาก ทั้งสูตรยาบำรุงร่างกาย สูตรขมิ้นชัน สูตรกระชายดำ แต่ที่ดูเป็นที่สนใจและเป็นคำถามยอดฮิตของผู้ที่กำลังตัดสินใจทานยาหมอเส็ง ก็คือ มีปัญหาสุขภาพแบบนี้ ว่านชักมดลูกหมอเส็งช่วยได้ไหม ? และถ้าจะทานจะใช้ว่านชักมดลูกสูตร 1 หรือสูตร 2
เบื้องต้นผมได้เขียนบทความเรื่อง แนะนำวิธีทานว่านชักมดลูกหมอเส็ง ลองอ่านบทความนั้นดู จากนั้นค่อยมาอ่านบทความนี้ ท่านผู้อ่านจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างครบถ้วน
กับคำถามที่ว่าว่านชักมดลูกสูตรไหนดี ผมคิดว่าเราคงตัดสินกันแบบให้ 100 % ลำบาก เพราะว่าความแตกต่างของปัญหาแต่ละคน งบประมาณ อายุ การแพ้ยา ดังนั้นผมคงไม่สามารถสรุปให้ได้ว่าใครควรใช้ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตรไหนบ้าง ? จนกว่าจะได้ข้อมูลจากผู้ใช้ยาคนนั้นๆ
แต่ที่พอจะนำเสนอได้ก็คงเป็นการบรรยายสรรพคุณว่านชักมดลูกหมอเส็งโดยคุณ หมอเส็งเอง ซึ่งผมได้รับข้อมูลมาและนำมาถ่ายทอดต่อในบทความนี้ ร่วมกับความคิดเห็นและประสบการณ์ของผมครับ

ความแตกต่างของว่านชักมดลูกสูตร 1 และสูตร 2

ในการบรรยายสรรพคุณยาหมอเส็งครั้งหนึ่ง คุณหมอเส็งได้อธิบายถึงความแตกต่างของว่านชักมดลูกสูตร 1 และสูตร 2 ว่า
“ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 และสูตร 2 ออกฤทธิ์เหมือนกัน 60% และออกฤทธิ์ต่างกัน 40%”
ผมฟังดูแล้วเขียนออกมาเป็นแผนภาพได้แบบนี้ครับ



วงกลมสีน้ำเงิน = การออกฤทธิ์ของว่านชักมดลูกสูตร 2
วงกลมสีเขียว = การออกฤทธิ์ของว่านชักมดลูกสูตร 1
จากแผนภาพ หมายความว่า ส่วนที่ออกฤทธิ์ได้เหมือนกันมีอยู่ 60% ก็คือ ส่วนที่วงกลมทั้งสองซ้อนทับกัน และส่วนที่ไม่ซ้อนทับกันของการออกฤทธิ์ของว่านสูตร 1 และว่านสูตร 2 มีอยู่ 40% แสดงว่าว่านทั้ง 2 สูตร มีส่วนที่ออกฤทธิ์แตกต่างกันอยู่ ดูแผนภาพแล้วคิดว่าท่านผู้อ่านน่าจะพอเข้าใจนะครับ
คำถามต่อไปที่จะเกิดขึ้นก็คือ แล้วที่บอกว่าออกฤทธิ์เหมือนกัน 60% มีอะไรบ้าง แล้วที่ไม่เหมือน 40% มีอะไรบ้าง ?
อันนี้ต้องขอบอกว่าผมไม่มีข้อมูลจริงๆครับ เท่าที่ทราบมาก็เป็นเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิ์เท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามผมได้สรุปและให้คะแนนการออกฤทธิ์ของยาตามความเข้าใจและ ประสบการณ์ของผมดังนี้
ชนิดว่านชักมดลูก / สรรพคุณแก้ปัญหาระบบสืบพันธุ์เพศหญิงช่วยเรื่องความงาม
ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1
ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2
จากตาราง ผมอธิบายและสรุปให้เข้าใจแบบนี้ครับ
ปัญหาระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
  • ปวดประจำเดือน
  • มดลูกหย่อนหรือมดลูกต่ำ
  • ตกขาวหรือระดูขาว
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ความงาม
  • ความเต่งตึงของร่างกาย
  • ความกระชับ
  • ผิวพรรณสดใส
ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 โดดเด่นในด้านการออกฤทธิ์เพื่อช่วยในเรื่องความงามของผู้หญิง ทั้งในเรื่องความเต่งตึง ความกระชับทุกสัดส่วน และผิวพรรณสดใส ส่วนในเรื่องการแก้ปัญหาระบบสืบพันธุ์เพศหญิงก็ช่วยผู้หญิงได้ดีทีเดียว
ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2 โดดเด่นในด้านการออกฤทธิ์เพื่อแก้ปัญหาระบบสืบพันธุ์ได้ดีมาก แต่การออกฤทธิ์เพื่อความงามของผู้หญิง ไม่โดดเด่นอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1

สรุป

ที่ผมเสนอไปเป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งที่ได้ที่เป็นข้อเท็จจริงรวมกับ ประสบการณ์การแนะนำยาของผมเอง  อย่างไรก็ตามการทานว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตรทีเหมาะกับท่านผู้อ่านเองอาจจะ ไม่ถูกต้อง 100% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทาน อาจจะต้องมีการทดลองทานว่านชักมดลูกหมอเส็งหลายๆสูตรเพื่อพิสูจน์ผลลัพท์ที่ ได้ด้วยตัวท่านเองด้วยส่วนหนึ่ง
ในส่วนของเราที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้แนะนำยาหมอเส็ง เราจะพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้ท่านแก้ปัญหาสุขภาพและได้ผลลัพท์ตามที่ท่านต้องการครับ ดังนั้นหากท่านมีปัญหาเรื่องการใช้ยาหมอเส็ง ไม่รู้ว่าจะทานตัวไหนดี การปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่มากครับ

แนะนำวิธีทาน ว่านชักมดลูกหมอเส็ง



มีหลายคำถามจากท่านผู้อ่านเกี่ยวกับวิธีการรับประทานว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 และว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2 ก็เช่นเคยครับ ผมก็เลยทำหน้าที่ของตัวแทนจำหน่ายที่ดี นำความรู้และคำแนะนำในเรื่องนี้ โดยคุณหมอโฆษิต มาถ่ายทอดต่อให้ทุกท่านครับ

ว่านชักมดลูกสูตรไหนดี ?

ตัวว่านชักมดลูกสูตร 1 และสูตร 2 ผมให้ข้อคิดอย่างนี้ สูตร 1 ที่เป็นกล่องเขียวนะครับ เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีลงมานะครับ ตัวกล่องน้ำเงินที่เป็นสูตร 2 เหมาะสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไปแล้วก็คนที่ท้องหลังคลอดทุกวัยอายุ ตัวสูตร 2 เหมาะกับท่าน ตัวสูตร 2 เหมาะกับคนหลังคลอดกับหลังแท้งบุตรนะครับ แต่ถ้าใครที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีลงมาให้ท่านใช้สูตร 2 ถ้าหลังคลอดบุตรกับหลังแท้งบุตรประมาณ 1-2 เดือน แล้วให้ท่านกลับไปใช้สูตร 1 เหมือนเดิม ส่วนใครที่มีอายุมากกว่า 35 ปีไปแล้วก็ให้ท่านใช้สูตร 2 ต่อ เนื่องกันไปได้เลยนะครับ มันจะช่วยให้มดลูกของคุณเข้าอู่เร็วขึ้น ขับน้ำคาวปลา โพรงมดลูกของคุณจะได้สะอาดเร็วขึ้น การติดเชื้อจะได้น้อยลง และมันไปเสริมสร้างความแข็งแรงโครงสร้างข้างในให้แข็งแรง
ผมสรุปให้แบบนี้ครับ

“ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี

ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไป และเหมาะสำหรับสุภาพสตรีหลังคลอดและหลังแท้งทุกวัย”

ว่านชักมดลูกทานนานแค่ไหน ?

คุณต้องจำไว้ว่า ว่านชักมดลูกอย่ากินในปริมาณเยอะแล้วก็อย่ากินนานนะครับ 4 เดือน 6 เดือน ท่านต้องลดปริมาณลงมาบ้าง คุณจะเห็นว่าที่กล่องว่านชักมดลูกของคุณหมอเส็งจะมีเขียนเอาไว้ว่า ไม่ใช้ยาตัวนี้นานจนเกินไป แต่ไม่ได้บอกระยะเวลานะครับ 4 – 6 เดือน ท่านต้องหยุดบ้าง ท่านต้องลดปริมาณการใช้ลงมาครึ่งหนึ่งบ้าง เปลี่ยนมาเป็นใช้เป็นวันเว้นวันบ้าง อย่าทานต่อเนื่องเยอะ เพราะถ้าทานต่อเนื่องเยอะ มันจะกลับกลายเป็นว่าทำให้ฮอร์โมนตัวนี้ผันผวน (ฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า เอสโตรเจน) และ อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งกับเต้านม มดลูกและรังไข่ของเราได้ เพราะฉะนั้น เราควรรักษาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้อยู่ในปริมาณที่มันไม่เยอะจนเกินไป แล้วควบคุมให้ร่างกายเราเปล่งปลั่งสวยงาม

“ว่านชักมดลูกอย่าทานต่อเนื่องเกิน 6 เดือน”

ผมขอเสริมเรื่อง ว่านชักมดลูกทานนานแค่ไหน ?
จากประสบการณ์ของผม เวลาคุณหมอเส็งแนะนำคนไข้ให้ทานว่านชักมดลูก เวลารับประทานจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน ครับ แต่ถ้า 3 เดือนแล้วยังไม่ได้ผลเป็นทีน่าพอใจก็ทานต่อไปได้ครับแต่ต้องไม่เกิน 6 เดือน ดังที่คุณหมอโฆษิตกล่าวไว้ครับ
คำแนะนำในบทความนี้นอกจากสามารถนำไปปรับใช้กับการรับประทาน ยาสตรีหลังการคลอดบุตร ยาสตรีเบอร์ 2 ว่านชักมดลูก สูตร 111 ก็ได้ด้วยนะครับ เพราะว่าล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูกทั้งนั้น

Morseng Lao Herb Shop TEL 020 5996 2888

Sunday, August 12, 2012

กินยาหมอเส็งแล้วอ้วนจริงหรือ ? Morseng Laos Vientiane TEL 020 59962888

กินยาหมอเส็งแล้วอ้วนจริงหรือ ?

สำหรับเรื่องในวันนี้ เป็นข้อมูลที่ผมได้รับการสอบถามมาจากเพื่อนสมาชิกหมอเส็ง ที่กำลังทานยาหมอเส็งอยู่ คือว่าเค้าบอกว่ายาหมอเส็งทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้นหรือว่าอ้วนขึ้นนั่นแหละครับ
เค้าก็เลยถามว่าจะต้องกินยาหมอเส็งก่อนอาหารหรือหลังอาหารดี เพราะว่าหลังจากทานว่านชักมดลูกสูตร 1 หมดไป 1 ขวด แล้วน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมา 5 กิโลกรัม
โอ้แม่เจ้า! ตอนแรกที่ผมได้อ่านคำถามแล้วผมค่อนข้างตกใจครับ เพราะว่าว่านชักมดลูกสูตร 1 นั้น ถ้าเราทานตามปริมาณปกติ คือ ครั้งละ 30 cc วันละ 2 ครั้งจะทานได้ 12.5 วันพอดีเป๊ะเลยครับ
นั่นหมายความว่า คุณคนนั้นน้ำหนักขึ้น 5 กก. ภายใน 12.5 วันครับ ขึ้นเร็วมากๆ
ผมก็เลยอยากจะนำเสนอประสบการณ์ของผม เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูครับว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ? ท้ายบทความมีแบบสำรวจให้ทำด้วยครับ ถ้าใครอ่านแล้วช่วยกันตอบแบบสำรวจด้วยนะครับ เพราะว่าผมจะได้เอาผลมาให้ได้ดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ยาหมอเส็งช่วยให้เจริญอาหาร

จากประสบการณ์ของผมเอง การทานยาบำรุงร่างกายหรือว่านชักมดลูก ช่วยให้ทานอาหารได้อร่อยขึ้นหรือเรียกว่า เจริญอาหารก็ได้ครับ แล้วการเจริญอาหารมันไม่ดีตรงไหน ? หลายท่านโดยเฉพาะคุณผู้หญิงอาจจะยกมือค้านผมเลยว่า ก็มันทำให้อ้วนน้ำหนักขึ้น รูปร่างก็ไม่ดีนะสิ

“เราจะอ้วนหรือไม่อ้วนขึ้นอยู่กับการกินของเราเองครับ ตัวว่านชักมดลูกหมอเส็งไม้ได้ทำให้น้ำหนักขึ้น”

ผมขอชี้แจงอย่างนี้ครับ เราจะอ้วนหรือไม่อ้วนขึ้นอยู่กับการกินของเราเองครับ ตัวว่านชักมดลูกหมอเส็งไม้ได้ทำให้น้ำหนักขึ้น ลองอ่านต่อไปครับ

การกินเป็นสัญชาตญาณของคน

ไม่มีใครปฏิเสธได้หรอกครับว่า การกินเป็นเรืองธรรมชาติและเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ เพื่อความอยู่รอดของตนเอง เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากๆ ที่เราจะกินโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก หรือไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ยังได้ อย่าว่าแต่คนที่กินยาหมอเส็งแล้วอ้วนเลยครับ คนทั่วไปที่ไม่เคยได้กินยาหมอเส็งก็อ้วนกันมากมาย หาซื้อยาลดความอ้วนที่มีวางขายอยู่เต็มเมือง หรือแม้กระทั่งเข้าสถานเสริมความงาม เพื่อลดความอ้วน
การที่เรายังสามารถทานอาหารได้อย่างอร่อยและมีความอยากอาหารอยู่ หมายความว่า ร่างกายเรายังสมบูรณ์เป็นปกติครับ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยมาก่อน ตอนไม่สบายมีความรู้สึกอยากทานอาหารไหมครับ ?  ผมว่าทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีความรู้สึกอยากอาหาร หรือถ้ามีก็น้อยมาก
ผมพูดเรื่องนี้เพราะผมคิดว่าเราน่าจะดีใจนะครับที่ยาหมอเส็ง ช่วยให้เราทานอาหารได้อย่างมีความสุข เพราะนั่นหมายความว่า ถ้าเรายังกินได้เราก็ยังมีชีวิตอยู่ได้
ทีนี้ในเมื่อการกินเป็นสัญชาตญาณของคน แล้วถ้าเราไม่อยากอ้วนเราต้องทำอย่างไรบ้าง ?

คำถามนี้ตอบง่ายมากๆครับ สูตรเป็นแบบนี้ครับ

แคลลอรี่ที่กินเข้าไป – แคลลอรี่ที่ใช้ไป = แคลลอรี่ที่เหลือ

หมายความว่า แคลลอรี่ที่เหลือเป็น “บวก” คุณจะอ้วนขึ้น แต่ถ้า แคลลอรี่ที่เหลือเป็น “ลบ” คุณจะผอมลง
สูตรง่ายๆครับ หลายคนรู้ดีแต่ก็ยังอ้วน แล้วมีวิธีไหนที่จะทำให้แคลลอรี่เป็นลบได้บ้าง ?
ผมมีข้อแนะนำดีๆมาฝากครับ

หยุดสัญชาตญาณการกินแหลก

1. ระบุอารมณ์ตัวเองให้ได้ คือ เราต้องเท่าทันตัวเองว่า ขณะนี้กำลังรู้สึกอย่างไร และมีวิธีจัดการอารมณ์นั้นอย่างไร เช่น เริ่มจากการเดินลงไปโรงอาหาร ร้านขนม ซื้อช็อกโกแลตกิน ฉะนั้นหากเรารู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร เราจะตัดตอนกระบวน การคลายอารมณ์นั้นด้วยการกินได้
2. ระวังเวลาร่วมวงรับประทานอาหารกับเพื่อน เพราะเราเป็นสัตว์สังคม ใครทำอะไร เราก็มีแนวโน้มจะทำตามด้วย การกิน แหลกในมื้อที่ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนพ้อง จึงเสี่ยงต่อการกินอาหารสารพัดอย่างจนพุงกาง ฉะนั้นก่อนเริ่มตักอาหารเข้าปาก ควรสูดกลิ่นเสียก่อน เพื่อเริ่มกินอย่างมีสติ
3. อาหารช่วยอะไรบ้าง ถามตัวเองด้วยคำถามนี้บ่อยๆ จนฝังอยู่ในจิตสำนึก เพราะการกินแหลกไม่เคยช่วยให้เราหายกลัว โน่นกลัวนี่ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ช่วยให้คนยอมรับเราเพิ่มขึ้น แถมหนุ่มๆก็ไม่ชอบเสียด้วย
4. สังเกตเงื่อนไขการกินแหลก ว่า เราเริ่มกินแหลกในสถานการณ์แบบไหน โดยจดไว้ เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการแก้ไข สถานการณ์ต่างๆเหล่านั้น เช่น ถ้าเริ่มกินแหลกช่วงก่อนอาหารมื้อเย็น ก็ควรดื่มน้ำแทนการหยิบนั่นหยิบนี่เข้าปาก

โภชนาการเป็นเรื่องสำคัญ

ผมหมายถึงการที่เราจะต้องคอยดูแลว่าในแต่ละวันสัดส่วน ในการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อถูกต้องหรือเปล่า ? ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักอาหารหลัก 5 หมู่ดีใชไหมครับ ?
โดยปกติคนเราจะต้องรับประทานอาหาร 3 มื้อ ในแต่ละมื้อควรเน้นอาหารในแต่ละหมู่ให้ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักให้ทานผักและผลไม้มากเป็นพิเศษ เพราะว่าผักและผลไม่มีเสันใยเยอะและมีแคลลอรี่ต่ำ ทานแล้วไม่อ้วนครับ
ถ้าท่านกินยาหมอเส็งแล้วเจริญอาหารก็ขอให้ทานผักผลไม้เยอะๆครับ กินยังไงก็ไม่อ้วน
อีกเรื่องหนึ่งครับ เกี่ยวกับเรื่องอาหารมื้อเย็น อย่าทานมื้อเย็นเป็นมื้อดึก คือ มื้อเย็นควรทานก่อนเวลา 6 โมงเย็นครับ นอกจากนี้อย่าทานแป้งหรือทานข้าวเยอะตอนทานอาหารเย็นให้เน้นผักผลไม้แทนครับ เพราะว่าช่วงเวลาตอนเย็น เป็นช่วงที่ร่างกายคนเราแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานแล้วครับ กินแล้วก็ไปนอนทำให้อ้วนง่าย
สุดท้ายผมได้ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อทำการสำรวจว่าโดยรวมแล้วคนที่กินยาหมอเส็งแล้วอ้วนหรือไม่อ้วนเป็นสัด ส่วนเท่าไหร่ ยังไงช่วยกันตอบแบบสำรวจด้านล่างด้วยนะครับ คลิ๊กที่ภาพด้านล่างได้เลย ที่แน่ๆผมคนหนึ่งหละที่ทานยาหมอเส็งแล้วไม่อ้วนครับ แข็งแรงดีมากๆ

 Morseng Vientiane Laos TEL 020 5996 2888

Monday, August 06, 2012

ทำไมสตรีควรทานว่านชักมดลูกหมอเส็ง ?, เรื่องวันนี้สำหรับสุภาพสตรีเท่านั้น! , Morseng Lao Khamphat Simmavong TEL 020 5996 2888 / 2222 8597

ทำไมสตรีควรทานว่านชักมดลูกหมอเส็ง ?

Morseng Lao Khamphat Simmavong 

TEL 020 5996 2888 /  2222 8597



ร่างกายและสรีระของผู้หญิงเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน และเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในส่วนของอวัยวะระบบสืบพันธุ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วรักษากันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นโรคที่ทางการแพทย์ในหลายๆแขนงยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที แน่ชัด ทำได้เพียงการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นด้วยยาหรือการผ่าตัดเท่านั้นเอง

โรคสตรียอดฮิต

โรคยอดฮิตของผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศและ อวัยวะสืบพันธุ์สตรีมีหลายโรคครับ ยกตัวอย่าง เช่น
  • พังผืด
  • เนื้องอก
  • ซีสต์
  • มดลูกหย่อน
  • ช่องคลอดไม่กระชับ
  • ตกขาวผิดปกติ
  • ช่องคลอดมีกลิ่น
  • ช่องคลอดไม่กระชับ
  • ผิวไม่สวย หยาบกร้าน
  • ปวดหน่วงท้องน้อย
  • ฝ้าฮอร์โมน
  • สิวฮอร์โมน
  • และอื่นๆอีก
แต่ละโรคสุภาพสตรีหลายๆท่านคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี และน่าจะมีหลายๆท่านกำลังหาทางเยียวยาอาการดังกล่าวข้างต้นใช่ไหมครับ ? จะว่าไปแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม มักจะไปหาหมอหรือพบแพทย์เมื่อตนเองมีอาการผิดปกติมากๆ (เป็นน้อยๆมักจะไม่ไป คิดว่าเดี๋ยวก็หาย) พอไปพบแพทย์ทีถ้าโชคร้ายหน่อยก็เป็นเยอะแล้วครับ อาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัด และตัดอวัยวะบางส่วนก็มี ซึ่งถ้าเราพูดถึงโรคสตรีที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็อาจจะหมายถึง การเกิดพังผืดในมดลูกจำนวนมาก ซีสต์หรือเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่จนบางครั้งการผ่าตัดเอาชิ้นส่วนที่ผิดปกติ ออกไปเป็นเรื่องยาก จนแพทย์อาจจะต้องตัดสินใจแนะนำให้คนไข้ตัดอวัยวะ เช่น มดลูก หรือรังไข่ทิ้งไปเลยก็มี
จากประสบการณ์การแนะนำยาหมอเส็งมาสักพัก พบว่าไม่ใครอยากจะถูกตัดอวัยวะส่วนไหนออกจากร่างกายหรอกครับ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ยังอยากให้อยู่ครบทุกส่วนนะแหละ แต่ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วนะครับ สุภาพสตรีหรือคนส่วนใหญ่มักจะไปพบแพทย์ตอนที่ไม่สบายเยอะแล้ว และไม่ค่อยที่จะคิดป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรค ซึ่งอาจจะเกิดจากการขาดความเข้าใจหรือไม่มีข้อมูลหรือความรู้ที่มากพอก็เป็น ได้ ดังนั้น การดูแลสุขภาพหรือการปฏิบัติตนในเชิงป้องกัน เป็นสิ่งทีสำคัญและจำเป็นมากครับ (ในความเห็นของผมเอง) และในส่วนนี้ว่านชักมดลูกหมอเส็งข้ามามีส่วนช่วยและบทบาทในการป้องกันและดูแลสุขภาพและโรคสตรีอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ

ว่านชักมดลูกหมอเส็งดูแลสุขภาพภายในสตรีอย่างไรบ้าง ?

ก่อนอื่นลองมาดูสรรพคุณของว่านชักมดลูกหมอเส็งที่คุณหมอเส็งได้กล่าวไว้เสียก่อนว่ามีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพภายในของสตรีอย่างไรบ้าง ?
มหัศจรรย์กับคุณประโยชน์ถึง 13 ประการของว่านชักมดลูก
  1. ลบรอยเหี่ยวย่น บนใบหน้า ต้นคอ หน้าท้อง และผิวพรรณ
  2. ลบฝ้าและรอยด่างบนใบหน้า
  3. ช่วยรักษาผิวหน้าที่แห้งทาแป้งไม่ติด หลังรับประทานประมาณ 7 วัน อาการทาแป้งไม่ติดจะหายไป
  4. ช่วยเสริมอกหย่อนยานให้เต่งตึงขึ้น
  5. ช่วยรักษาอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
  6. ช่วยบรรเทาอาการตกขาว
  7. ช่วยกระชับช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์
  8. ช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่ง หรือมดลูกต่ำให้สูงขึ้น
  9. ลดอาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยทอง
  10. ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ทางเพศของคุณผู้หญิงที่หมดไปให้กลับฟื้นคืนมาภายใน 7 วัน
  11. ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดสตรี
  12. เพิ่มความสวยงามของอวัยวะใต้ร่มผ้าของสตรีเมื่อทานสมุนไพรว่านชักมดลูกติดต่อกัน 3-4 เดือน
  13. ช่วยขจัดกลิ่นไม่สะอาดต่างๆ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ กลิ่นผม กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นเท้า เมื่อทานติดต่อกัน 3-5 วัน
ว่านชักมดลูกตำรับยาของหมอเส็ง ผลิตจากสมุนไพรว่านชักมดลูกสายพันธุ์ที่หมอเส็งปลูกเอง เพื่อคุณประโยชน์ 13 ประการสำหรับคุณผู้หญิง เลือกว่านชักมดลูกสูตรของหมอเส็งเท่านั้น
ทุกท่านอ่านดูแล้วก็จะพบว่ามีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสตรีมากมาย แต่ผมขอเสริมข้อมูลให้อีกนิดนึง เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นครับ
จากสรรพคุณ 13 ประการ ถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆว่า ว่านชักมดลูกหมอเส็งดีต่อสุขภาพภายในสตรีอย่างไร ? ก็จะสรุปหลักได้ 2 ข้อดังนี้
  1. คำว่า “ชักมดลูก” ของว่านได้มาจากสรรพคุณในการทำให้มดลูกและรังไข่อยู่ในตำแหน่งที่มันควรอยู่ หรือภาษาคนโบราณเค้าจะเรียกว่า “มดลูกเข้าอู่” ซึ่งการทำให้มดลูกอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง จะช่วยป้องกันการเกิดพังผืดในมดลูกและรังไข่ได้ เนื่องจากพังผืดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมดลูกหรือรังไข่ของสตรีมีการเคลื่อน ไปจากตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ เช่น การเคลื่อนของมดลูกหรือรังไข่ตอนมีประจำเดือน เป็นต้น ร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมาจับมดลูกและรังไข่ไว้ไม่ให้ผิดตำแหน่งไปมากกว่า เดิม ดังนั้น หากเราทานว่านชักมดลูกหมอเส็ง มดลูกและรังไข่จะถูกทำให้เข้าที่หรือเข้าอู่อยู่เสมอ
  2. ทางการแพทย์แผนตะวันออกเชื่อว่าการเกิด ซีสต์ เนื้องอก ตกขาวผิดปกติ ไม่มีน้ำหล่อลื่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ และอีกหลายๆโรค มาจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกาย ตัวว่านชักมดลูกหมอเส็งมีสรรพคุณในการช่วยปรับและรักษาระดับของฮอร์โมนเพศ หญิงให้มีความสมดุล ถ้าร่างกายสตรีมีความสมดุลแล้วก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้อีก
หลักๆ ก็มีสองข้อที่เป็นประเด็น คือ “เรื่องตำแหน่งของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงกับความสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง” ที่ช่วยให้สุภาพสตรีสวยและมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกและป้องกันการเกิดโรค สตรีชนิดต่างๆได้

ใช้ว่านชักมดลูกหมอเส็งเชิงป้องกันดีกว่า

จากสรรพคุณที่กล่าวมาทั้งหมด ถ้าทำความเข้าใจให้ดีจะทราบว่า อาการหรือโรคสตรีบางอย่างว่านชักมดลูกหมอเส็งสามารถที่จะช่วยบรรเทาและรักษา ได้ดี แต่ก็เช่นกันครับ มีอีกหลายโรคที่ว่านชักมดลูกหมอเส็งอาจจะช่วยได้น้อยลง หากเราเป็นหรือมีอาการมากแล้ว เช่น เนื้องอกหรือพังผืด เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้หากเราดูและสุขภาพให้ดีและทานว่านชักมดลูก หมอเส็งในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของตนเองก่อนจะเกิดโรคสตรีตามมานั่นเองครับ
ดังนั้น อย่ารอจนตัวเราเองไม่สบายมาก ค่อยหายามาทานครับ แนะนำว่าถ้ามีอาการผิดปกติแบบต่อเนื่องหรือบ่อยๆสัก 1 เดือน ก็ควรไปพบแพทย์ได้แล้ว โรคสตรีหากอยู่ในระยะที่เป็นมากๆแล้ว การรักษาด้วยการทานยาอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพอ หรืออาจจะต้องผ่าตัดหรือตัดอวัยวะบางส่วนทิ้งไป ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับใคร เพราะฉะนั้น กันไว้ดีกว่าแก้นะครับ
 Morseng Lao Khamphat Simmavong TEL 020 5996 2888

เรื่องวันนี้สำหรับสุภาพสตรีเท่านั้น!


เนื่องจากว่าว่านชักมดลูกหมอเส็งนั้นมีอยู่หลายเบอร์มากๆ และคำถามที่ผมถูกถามมากที่สุดก็มักจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องการใช้ว่านชักมดลูก ดังนั้นทางผมจึงได้ทำการรวบรวมว่านชักมดลูกหมอเส็งชนิดต่างๆ มาไว้ด้วยรวมกัน และได้อธิบายสรรพคุณอย่างง่ายๆ เพื่อให้คุณผู้อ่านที่เป็นสุภาพสตรีได้ศึกษา และทำความเข้าใจว่าว่านสูตรไหน ชนิดไหน ? เหมาะกับตนเอง และสามารถตัดสินใจเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง ตามวัตถุประสงค์และปัญหาของแต่ละคนครับ
ว่านชักมดลูกหมอเส็งหลักแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
  1. ว่านชักมดลูกหมอเส็ง ชนิดน้ำ
  2. ว่านชักมดลูกหมอเส็ง ชนิดแคปซูล
ลำดับที่รูปว่านชักมดลูกหมอเส็งข้อมูลว่านชักมดลูกหมอเส็ง
1
ยาสตรีหลังการคลอดบุตร

ยาหมอเส็งตัวนี้เป็นยาที่หมอเส็งคิดค้นขึ้นมา เพื่อหญิงหลังคลอดเพื่อช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ขับน้ำคาวปลา หน้าท้องยุบเร็ว และอื่นๆ ออกฤทธิ์ได้ดีกว่ายาน้ำว่านชักมดลูกสูตร 2 ถึง 7 เท่า

สำหรับหญิงที่ไม่ใช่หญิงหลังคลอดก็สามารถทาน ได้ เพราะเป็นว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตรที่ดีที่สุด และมีคุณสมบัติครอบคลุมว่านชักมดลูกหมอเส็งตัวอื่น
2
ว่านชักมดลูกสูตร 1 ตราหมอเส็ง

เป็นว่านชักมดลูกหมอเส็งที่มีสมุนไพร 99 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยรักษาคนที่มีปัญหามดลูก เช่น ปวดประจำเดือน ตกขาว มดลูกต่ำ เป็นต้น และแถมด้วยคุณสมบัติพิเศษ คือ ช่วยยกกระชับให้มดลูกและส่วนต่างๆของร่างกายคุณสุภาพสตรีที่หย่อนยานกลับ เต่งตึงอีกครั้ง
3
ว่านชักมดลูกสูตร 2 ตราหมอเส็ง

เป็นว่านชักมดลูกหมอเส็งที่มีคุณสมบัติช่วย ดูแลรักษามดลูกเหมือนว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 แต่ในส่วนของการยกกระชับร่างกายนั้นไม่มีในว่านสูตรนี้
4
ยาสตรีเบอร์ 2 ตราหมอเส็ง

มีส่วนผสมของยาบำรุงร่างกายและว่านชักมดลูก หมอเส็งสูตร 2 สมุนไพรกว่า 109 ชนิด เหมาะมากสำหรับสตรีที่ขาดฮอร์โมนเพศหญิง เช่น สตรีวัยทอง สตรีที่ไม่มีมดลูก เป็นต้น
5
ว่านชักมดลูกสูตร 111 ตราหมอเส็ง

เป็นว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตรที่เทียบได้กับ ว่านชักมดลูกสูตร 2 ตราหมอเส็ง และราคาถูกกว่าด้วย แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่าย่อมมีความแตกต่าง คือ ทานแล้วอาจจะเห็นผลช้ากว่า
5
แคปซูลว่านชักมดลูก ตราหมอเส็ง เบอร์ 2

เป็นว่านชักมดลูกหมอเส็งที่เน้นการดูแลรักษา สำหรับสตรีที่ปวดประจำเดือนและไม่ชอบรับประทานยาน้ำว่านชักมดลูกได้ เนื่องจากมีปัญหาในการรับประทานยาน้ำ

เท่าที่ทราบข้อมูลจากคุณหมอเส็งมา ถ้าสตรีท่านไหนสามารถทานยาน้ำได้ ให้ทานว่านชักมดลูกหมอเส็ง ชนิดน้ำได้จะดีกว่า
7
ยาแคปซูลว่านชักมดลูก 222 ตราหมอเส็ง

เรียกกันโดยทั่วไปว่า "ว่านหน้าขาว" เพราะว่าช่วยปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ เหี่ยวย่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวดำ ที่เกิดจากฝ้าแดด ฝ้าลม ฝ้าเลือด ฝ้าที่เกิดจากยาคุม ให้หน้าขาวนวลขึ้น ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นให้กระชับเนียน มีน้ำมีนวลขึ้น และช่วยกระชับกล้ามเนื้อเสริมหน้าอกให้เต่งตึง เป็นยาที่ทำงานจากภายในสู่ภายนอก
หวังว่าหลังจากอ่านข้อมูลดูแล้ว คุณสุภาพสตรีคงตัดสินใจได้แล้วนะครับว่า ว่านชักมดลูกหมอเส็งตัวไหนเหมาะกับตัวเอง
ปล. ถ้ามีความเห็นหรือคำถามเพิ่มเติมเชิญที่ส่วนแสดงความเห็นทางด้านล่างได้เลย ครับ อย่าลืมนะครับว่าแค่หนึ่งความเห็นของท่านอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ อย่างมากมายครับ
 morsenglao.blogspot.com

Wednesday, August 01, 2012

รายละเอียดการเปิดหมอเส็งเฮิร์บช็อป Morseng Herb Shop Want TEL 020 5996 2888



รายละเอียดการเปิดหมอเส็งเฮิร์บช็อป Morseng Herb Shop Want TEL 020 5996 2888

1. เพื่อให้มีศูนย์จำหน่ายสินค้าสมุนไพรตราหมอเส็ง กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ให้คน ในทุกท้องที่
และ ทุกระดับชั้น มีโอกาสได้บริโภคสินค้า คุณภาพดีอย่างทั่วถึง

2. เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาร่วมโครงการได้มีกิจการที่เป็น หลักแหล่งมั่นคง มีรายได้มากพอที่จะสามารถ ยึดเป็นอาชีพหลัก
ได้อย่างยั่งยืนสืบไปในอนาคต

3. เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการรักษาไว้ ซึ่งภูมิปัญญา และศาสตร์แห่งการนำสมุนไพร มาใช้เพื่อการรักษาโรค และ บำรุงสุขภาพ ร่างกายให้แข็งแรง

 

- ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์    ดูภาพบรรยาการในร้าน กดที่นี่

จะคัดเลือกจากจังหวัดต่างๆ ( 14 Dealer )
จะคัดเลือกจาก นะคอนหลวง เวียงจัน (5Dealer)

 

สินค้ามีหมอเส็งมี  2 หมวดหมู่
1.ยา สมุนไพร และ ความงาม

 

 

  • มีพื้นที่สำหรับเปิดร้าน “หมอเส็งเฮิร์บช๊อป” ตามรูปแบบที่บริษัทกำหนด
  • ซื้อสินค้าเข้าร้านครั้งแรก 1 แสนบาท
  • ห้ามมิให้ Dealer จัดตั้งบู๊ธ หรือห้องแสดงสินค้า นอกพื้นที่ที่ตนได้รับ สิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่าย

  •  

  • ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่า ลิขสิทธิ์
  • ระบบไม่ซับซ้อน
  • คำนวณผลตอบแทนได้ง่าย
  • Brand ... “ หมอเส็ง ” ติดตลาดแล้ว
  • ซื้อสินค้า เข้าร้านครั้งแรก 1 แสนบาท
  • ป้ายด้านหน้า เหนือประตูทางเข้า ขนาด 60 x 200 ซม.
  • ป้ายด้านข้าง ขนาด 65 x 85 ซม.
  • รวม 2 ป้าย 13,500 บาท
  • สรุปการการลงทุนเปิดร้าน “ หมอเส็งเฮิร์บช๊อป ”
  • ค่าซื้อสินค้าเข้าร้านครั้งแรก = 100,000 บาท
  • ค่าป้ายหน้าร้าน + ป้ายด้านข้าง = 13,500 บาท
    ลวม 113,500 บาท
  • หมายเหตุ ไม่รวมค่าตกแต่งร้านซึ่งเปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายลงทุนได้ตามความเหมาะสม
    ผู้ที่สนใจจะสมัคร เป็น Dealer หมอเส็งเฮิร์บช๊อป โปรดกรอก  “ใบแสดงความจำนงฯ”  Tel 020 5996 2888

    มหัศจรรย์ สร้างเสน่ห์หญิง , หมอเส็ง แนะเคล็ด(ไม่)ลับสำหรับผู้หญิง , ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ? TEL Morseng Vientiane Laos 020 5996 2888 / 2222 8597

    มหัศจรรย์ สร้างเสน่ห์หญิง

    อะไรคือทุกสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ ?  

    พูดถึงเสน่ห์ของผู้หญิง สิ่งที่นึกถึงอันดับต้นๆ คือ ต้องมีทั้งความสวย ความเต่งตึง และไม่มีกลิ่นต่างๆ เช่น กลิ่น ผม, กลิ่นปาก, กลิ่นลมหายใจ, กลิ่นใต้ร่มผ้า ซึ่งจากการศึกษาของหมอเส็งพบว่า สมุนไพรว่านชักมดลูก มีสรรพคุณช่วยสร้างเสน่ห์ดังกล่าวได้

    Morseng
    มหัศจรรย์กับคุณประโยชน์ถึง 13 ประการของว่านชักมดลูก
    1. ลบรอยเหี่ยวย่น บนใบหน้า ต้นคอ  หน้าท้อง และผิวพรรณ
    2. ลบฝ้าและรอยด่างบนใบหน้า
    3. ช่วยรักษาผิวหน้าที่แห้งทาแป้งไม่ติด หลังรับประทานประมาณ 7 วัน อาการทาแป้งไม่ติดจะหายไป
    4. ช่วยเสริมอกหย่อนยานให้เต่งตึงขึ้น
    5. ช่วยรักษาอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
    6. ช่วยบรรเทาอาการตกขาว
    7. ช่วยกระชับช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์
    8. ช่วยชักมดลูกที่ผิดตำแหน่ง หรือมดลูกต่ำให้สูงขึ้น
    9. ลดอาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยทอง
    10. ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ทางเพศของคุณผู้หญิงที่หมดไปให้กลับฟื้นคืนมาภายใน 7 วัน
    11. ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดสตรี
    12. เพิ่มความสวยงามของอวัยวะใต้ร่มผ้าของสตรีเมื่อทานสมุนไพรว่านชักมดลูกติดต่อกัน 3-4 เดือน
    13. ช่วยขจัดกลิ่นไม่สะอาดต่างๆ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ กลิ่นผม กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นเท้า เมื่อทานติดต่อกัน 3-5 วัน

    ว่านชักมดลูกตำรับยาของหมอเส็ง  ผลิตจากสมุนไพรว่านชักมดลูกสายพันธุ์ที่หมอเส็งปลูกเอง เพื่อคุณประโยชน์ 13 ประการสำหรับคุณผู้หญิง เลือกว่านชักมดลูกสูตรของหมอเส็งเท่านั้น

    เรื่องสมุนไพร ไว้ใจหมอเส็ง



    หมอเส็ง แนะเคล็ด(ไม่)ลับสำหรับผู้หญิง

    รู้เรื่องสมุนไพรกับ หมอเส็ง ตอนที่ 1


    จากประสบการณ์เรื่องการปรุงยาจากสมุนไพรและการแพทย์แผนโบราณมากว่า 50 ปี ของหมอเส็งพบว่า “ว่านชักมดลูก” เป็น สมุนไพรไทยที่มีประเภทหัวคล้ายเผือกหรือมัน ลักษณะคล้ายมดลูกของผู้หญิง ธรรมชาติบ่งบอกถึงเป็นยาเกี่ยวกับมดลูกของผู้หญิงโดยเฉพาะ ถ้าพูดถึงชื่อฟังแล้วน่ากลัว เพราะมีคำว่า “ชัก” อยู่ คำว่า “ชักมดลูก” นั้น หมายถึง สมัยก่อนผู้หญิงทำงานหนัก ยกของหนัก เป็นเหตุให้มดลูกต่ำ บางคนมดลูกต่ำจนคาช่องคลอดก็มี สมัยก่อน ไม่มีการผ่าตัด ก็อาศัยว่านชักมดลูกนี่แหละ …..รักษาจนหาย
    ความจริงคำว่า “ชัก” ของว่านชักมดลูกนั้น หมายถึง ชักหรือหดทุกส่วนของกล้ามเนื้อที่หย่อนยานให้เต่งตึงสดใส ว่านชักมดลูก ยังให้คุณหลายประการ เช่น ลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ช่วยให้ฝ้าบนใบหน้าจางลงหรือหายไป ช่วยชักหน้าอกที่หย่อนยานให้เต่งตึง ช่วยกระชับหน้าท้องที่หย่อนยาน เกิดจากการมีบุตร ช่วยแก้อาการหน่วง เสียวท้องน้อย ช่วยอาการตกขาวให้ดีขึ้น ช่วยกระชับช่องคลอดและช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนให้น้อยลง
    ความจริงว่านชักมดลูก ยังมีสรรพคุณมากกว่านี้ แต่เท่าที่เขียนมานี้ ก็ให้คุณอย่างมหาศาลอยู่แล้ว ขอบอกเป็นคำสุดท้ายว่า ว่านชักมดลูก ทำให้ผู้หญิงมีเสน่ห์และผู้หญิงเป็นผู้หญิง โดยสมบูรณ์  

    ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ?


    ผิวพรรณ

    - ไม่มีริ้วรอย เหี่ยวย่น บนใบหน้า ต้นคอ หน้าท้อง ฯลฯ
    - ใบหน้าเกลี้ยงเกลา สะอาด สดใส มีน้ำมีนวล ไร้รอยฝ้าและด่างดำ
    - ผิวหน้าชุ่มชื่น ไม่แห้งเป็นขุย แต่งหน้าทาแป้งได้อย่างใจ

    กลิ่นสะอาด จากธรรมชาติแท้ๆ

    - ได้กลิ่นหอมสะอาดจากธรรมชาติแท้ๆ ไม่ต้องปรุงแต่ง เวลาอยู่ใกล้ชิดแล้วหอมสดชื่น ไม่มีกลิ่นที่น่ารังเกียจ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ กลิ่นผมและหนังศีรษะ กลิ่นใต้ร่มผ้า กลิ่นเท้า

    มีความกระชับ เต่งตึงทั้งภายนอก ภายใน

    - หน้าอกสวยได้รูป เต่งตึง ไม่หย่อนยาน
    - มดลูกได้ตำแหน่ง ไม่คล้อย ไม่ต่ำ
    - ช่องคลอดกระชับ ไม่หลวม ไม่ย้อย ให้ความสุขเวลามีเพศสัมพันธ์
    - อวัยวะใต้ร่มผ้าได้รูปสวย สมบูรณ์

    มีอารมณ์ร่วม มีความพร้อมอยู่เสมอ

    - มีชีวิตรักที่สมบูรณ์ สร้างความสุขร่วมกับคู่ได้

    มีความสมบูรณ์ของความเป็นผู้หญิง

    - สบายใจทุกครั้งที่มีประจำเดือน ไม่กังวลเรื่องมาไม่ปกติ ไม่ปวดหน่วง ไม่มีอาการเจ็บ
    - สะอาด ไม่มีอาการตกขาว
    - มั่นใจว่าช่องคลอดชุ่มชื่น มีน้ำหล่อลื่น ไม่แห้ง
    - อารมณ์ดี ไม่ฉุนเฉียว ไม่มีอาการร้อนวูบวาบ อ่อนเพลียเมื่อเข้าสู่วัยทอง
     

    Tuesday, July 31, 2012

    ขมิ้นชันหมอเส็ง กับเรื่องสิวๆ , แนะนำวิธีทาน ว่านชักมดลูกหมอเส็ง , หมอเส็ง รักษาการมีบุตรยากอย่างไร ?

    ขมิ้นชันหมอเส็งกับเรื่องสิวๆ

    Morseng Vientianeเรื่อง ของผิวพรรณเป็นเรื่องที่หลายๆท่านให้ความสำคัญมากโดยเฉพาะสุภาพสตรี ปัญหาใหญ่ชนิดหนึ่งของผิวพรรณที่พบได้บ่อยและเป็นปัญหาที่ทำให้ขาดความมั่น ใจอย่างมากก็ คือ ปัญหาสิว ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัย ผู้ใหญ่ก็ตาม
    หลังจากที่ผมพยายามหาวิธีการในการรักษาสิวแบบธรรมชาติ และไม่จำเป็นต้องใช้ทายาหรือใช้ยารักษาสิว โดยการนั่งอ่านบทความจำนวนมากที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมพบว่าหลายแหล่งความรู้จากต่างประเทศ ต่างพูดถึงการรักษาสิวที่เกี่ยวข้องกับตับหรือการล้างพิษในตับ หลายคนที่เคยมีปัญหาสิวอย่างหนักกลายมาเป็นคนที่มีผิวพรรณดี หน้าใสไร้สิวได้อย่างไร ? และเรื่องหลักของเราที่พูดถึงขมิ้นชันหมอเส็งกับสิวและการล้างพิษตับเกี่ยวข้องกันอย่างไร ? ท่านจะได้ทราบในบทความนี้ครับ

    สาเหตุแท้จริงของสิว

    หลายท่านเคยเข้าใจว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว คือ
    • เชื้อแบคทีเรีย
    • ผิวมัน
    • การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบผิดวิธี
    • และสาเหตุอื่นๆที่ท่านอาจจะเคยผ่านตามาบ้าง
    ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว
    จากการค้นคว้าหาข้อมูลจำนวนมาก เราพบว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวมีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น! คือ
    “ความไม่สมดุลของฮอร์โมนร่วมกับการมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย (ในระบบเลือดและน้ำเหลือง)”
    เพราอะไร ? มาดูกันต่อครับ
    ฮอร์โมนเป็นสื่อทางเคมีที่ร่างกายใช้ในการสื่อสารกับอวัยวะและเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เพื่อบอกให้ทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง ? ถ้าเราพูดถึงเรื่องสิวเราจะพูดถึงฮอร์โมนที่เรียกว่า แอนโดรเจน (androgenic) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศชายที่มีชื่อว่า เทสโทสเทอโรน ที่มีหน้าที่ในการมีหน้าที่ควบคุมลักษณะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเพศชายใน ช่วงวัยรุ่น
    ตัวแอนโดรเจนเองจึงเป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีอยู่ร่างกายของทั้งผู้ชายและ ผู้หญิง และมีทำหน้าที่เกียวกับการควบคุมต่อมไขมันที่ผิวหนัง พูดให้เข้าใจกันแบบง่ายๆก็คือ ร่างกายของใครที่ฮอร์โมนชนิดนี้มาก ผิวของคนๆนั้นก็จะมันมาก เพราะต่อมไขมันที่ผิวหนังผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ปริมาณแอนโดรเจนในร่างกายที่สูงไม่ได้เป็นปัจจัยทั้งหมดที่ก่อให้เกิดสิว เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมบางคนที่ผิวมันมากๆทำไมถึงไม่เป็นสิวเลย ? ต้องมีปัจจัยร่วมอีกอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น คือ การมีสารพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งหากท่านใดมีครบทั้งสองปัจจัยแล้ว ผิวของท่านจะเป็นแหล่งที่แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวเจริญเติบโตได้ดีและ รับรองได้ว่าท่านจะต้องมีปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวผด สิวฝัง สิวหัวช้าง หรือสิวอื่นๆอย่างแน่นอน
    เห็นไหมครับว่า แบคทีเรียไม่ได้เป็นสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว แต่ผิวของท่านเองต่างหากละครับ ที่เป็นแหล่งกำเนิดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวอย่างดี ดังนั้นแม้ว่าเราจะพยายามใช้ยาเพื่อทำลายแบคเทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวมาก เท่าไร สิวก็จะไม่หายไป ถึงแม้หายก็จะเป็นใหม่ หากท่านมีปัญหาเรื่องสมดุลของฮอร์โมนแอนโดรเจนและปัญหาสารพิษตกค้างในระบบ เลือดและน้ำเหลือง

    แก้ปัญหาสิวจากสาเหตุที่แท้จริง

    ความลับอย่างหนึ่งของการรักษาสิวที่ไม่ค่อยมีใครทราบ คือ การทำอย่างไรให้ร่างกายมีฮอร์โมนแอนโดรเจนที่สมดุลและการล้างพิษในระบบเลือด และน้ำเหลืองอย่างไรดี ?
    โดยปกติแล้ว ร่างกายของมนุษย์เราจะพยายามรักษาความสมดุลของฮอร์โมนไว้ หากร่างกายเริ่มขาดความสมดุลของฮอร์โมนหรือมีสารพิษในร่างกายขึ้นมาเมื่อ ไหร่ ร่างกายจะพยายามสร้างสมดุลให้กลับคืนมาให้ได้ โดยการกำจัดส่วนเกินของฮอร์โมนและสารพิษออกไป แล้วกระบวนการในการปรับสมดุลและกำจัดสารพิษส่วนเกินทำงานอย่างไร ?  ลองดูต่อไปครับ
    อวัยวะที่มีส่วนสำคัญในเรื่องนี้ คือ ตับ จากที่เราพอจะทราบกันอยู่ว่า ตับทำหน้าที่หลักในการกำจัดของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย หรือจะพูดให้ชัดในประเด็นของสิว คือ ตับทำหน้าที่ในการกำจัดแอนโดรเจนส่วนเกินและกำจัดสารพิษในระบบเลือดและน้ำ เหลืองของเรานั่นเอง
    ความแตกต่างของคนที่หน้าใสกับคนที่หน้าสิว ความแตกต่างระหว่างเรากับเพื่อนที่หน้าใสไร้สิว ซึ่งเค้าไม่ได้ไปหาหมอหน้าหรือแพทย์ผิวหนังที่ไหน ? และไม่ได้กินวิตามินหน้าใสหรือทำอะไรพิเศษกับผิวหน้า ความแตกต่างนั้น คือ ประสิทธิภาพของตับในการกำจัดสารพิษและฮอร์โมนส่วนเกินที่ดีกว่าคนที่เป็นสิว นั่นเอง
    ผมเชื่อว่าตอนเป็นวัยรุ่นคนส่วนใหญ่ต้องมีปัญหาสิวกันบ้างไม่มากก็น้อย และเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเป็นวัยรุ่นแล้วมักจะต้องเป็นสิว ?
    โดยธรรมชาติแล้วตับของเรามีความสามารถในการกำจัดสารพิษหรือฮอร์โมนส่วน เกินได้ในระดับในเวลาหนึ่งเท่านั้น และในขณะที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นหรือเป็นวัยรุ่นแล้วก็ตามร่างกายของเราจะมี การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนหลายๆชนิดในร่างกายอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเพิ่มระดับของแอนโดรเจนในร่างกาย หากตับของเราสามารถที่กำจัดฮอร์โมนส่วนเกินนี้ได้ ทุกอย่างก็ไร้ปัญหา แต่ถ้ากำจัดได้ไม่หมดร่างกายจะมีฮอร์โมนส่วนเกินค้างอยู่และทำให้ระบบเลือด ของเรามีสารพิษตกค้างไปด้วย ก่อให้เกิดสิวได้ในภายหลัง ซึ่งในกรณีนี้ก็สามารถใช้อธิบายเหตุผลที่สตรีในช่วงของการมีประจำเดือนมักจะ มีปัญหาสิวได้เช่นกัน

    ขมิ้นชันหมอเส็งล้างพิษตับ

    หากท่านเคยอ่านสรรพคุณของขมิ้นชัน หรือสรรพคุณขมิ้นชันหมอเส็ง จะพบว่าสรรพคุณที่ช่วยให้ตับทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพและช่วยในการล้างพิษตับ คือ
    • ป้องกันการอักเสบของตับ
    • ลดการอักเสบในร่างกาย
    • ต้านมะเร็ง
    • ป้องกันการเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
    การทานขมิ้นชันเพื่อการล้างพิษตับเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่มีปัญหา สิว เพื่อให้ตับสามารถกำจัดฮอร์โมนส่วนเกินและสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าใครเป็นสิวมากสิ่งที่ต้องระวังให้มากอีกอย่าง คือ การทานอาหารปลอดสารพิษที่จะช่วยให้ตับทำงานน้อยลง และได้พักมากขึ้น การทานเนื้อสัตว์ที่มีฮอร์โมนเร่งโต หรือผักที่ฉีดยาฆ่าแมลง และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ล้วนส่งผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของตับทั้งสิ้น
    การใช้ขมิ้นชันเพื่อรักษาสิวเรามีความจำเป็นต้องทานขมิ้นชันได้ปริมาณ เพียงพอ สำหรับขมิ้นชันธรรมดา ตามขนาดที่เภสัชกรแนะนำ คือ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร ในช่วงแรกของการทานอาจจะมีอาการร้อนในบ้าง แต่เมื่อร่างกายปรับตัวได้อาการร้อนในจะค่อยๆดีขึ้นเอง
    ในกรณีขมิ้นชันหมอเส็ง โดยส่วนตัวแล้วผมว่าดีกว่าขมิ้นชันธรรมดามากเพราะเป็นตำรับยาที่ได้รับการ ผสมผสานสมุนไพรถึง 32 ชนิด เข้าด้วยกันและได้ผลจากการทานดีกว่าขมิ้นชันธรรมดามาก (จากการทดลองด้วยตนเอง) อีกทั้งยังช่วยกำจัดกลิ่นต่างๆที่เป็นกลิ่นไม่สะอาดในร่างกาย ซึ่งสรรพคุณในการกำจัดกลิ่นตรงนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการกำจัดสาร พิษในระบบเลือดและน้ำเหลือง เพราะคนที่ร่างกายมีกลิ่น นั่นหมายถึง เลือดในร่างกายที่ไม่สะอาดพอและมีสารพิษตกค้างนั่นเอง

    แนะนำวิธีทาน ว่านชักมดลูกหมอเส็ง

    Morseng Lao Vientiane Tel 020 5996 2888 / 2222 8597มีหลายคำถามจากท่านผู้อ่านเกี่ยวกับวิธีการรับประทานว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 และว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2 ก็เช่นเคยครับ ผมก็เลยทำหน้าที่ของตัวแทนจำหน่ายที่ดี นำความรู้และคำแนะนำในเรื่องนี้ โดยคุณหมอโฆษิต มาถ่ายทอดต่อให้ทุกท่านครับ

    ว่านชักมดลูกสูตรไหนดี ?

    ตัวว่านชักมดลูกสูตร 1 และ สูตร 2 ผมให้ข้อคิดอย่างนี้ สูตร 1 ที่เป็นกล่องเขียวนะครับ เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีลงมานะครับ ตัวกล่องน้ำเงินที่เป็นสูตร 2 เหมาะสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไปแล้วก็คนที่ท้องหลังคลอดทุกวัยอายุ ตัวสูตร 2 เหมาะกับท่าน ตัวสูตร 2 เหมาะกับคนหลังคลอดกับหลังแท้งบุตรนะครับ แต่ถ้าใครที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีลงมาให้ท่านใช้สูตร 2 ถ้าหลังคลอดบุตรกับหลังแท้งบุตรประมาณ 1-2 เดือน แล้วให้ท่านกลับไปใช้สูตร 1 เหมือนเดิม ส่วนใครที่มีอายุมากกว่า 35 ปีไปแล้วก็ให้ท่านใช้สูตร 2 ต่อ เนื่องกันไปได้เลยนะครับ มันจะช่วยให้มดลูกของคุณเข้าอู่เร็วขึ้น ขับน้ำคาวปลา โพรงมดลูกของคุณจะได้สะอาดเร็วขึ้น การติดเชื้อจะได้น้อยลง และมันไปเสริมสร้างความแข็งแรงโครงสร้างข้างในให้แข็งแรง
    ผมสรุปให้แบบนี้ครับ 
         “ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 1 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี

    ว่านชักมดลูกหมอเส็งสูตร 2 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไป และเหมาะสำหรับสุภาพสตรีหลังคลอดและหลังแท้งทุกวัย”

    ว่านชักมดลูกทานนานแค่ไหน ?

    คุณต้องจำไว้ว่า ว่านชักมดลูกอย่ากินในปริมาณเยอะแล้วก็อย่ากินนานนะครับ 4 เดือน 6 เดือน ท่านต้องลดปริมาณลงมาบ้าง คุณจะเห็นว่าที่กล่องว่านชักมดลูกของคุณหมอเส็งจะมีเขียนเอาไว้ว่า ไม่ใช้ยาตัวนี้นานจนเกินไป แต่ไม่ได้บอกระยะเวลานะครับ 4 – 6 เดือน ท่านต้องหยุดบ้าง ท่านต้องลดปริมาณการใช้ลงมาครึ่งหนึ่งบ้าง เปลี่ยนมาเป็นใช้เป็นวันเว้นวันบ้าง อย่าทานต่อเนื่องเยอะ เพราะถ้าทานต่อเนื่องเยอะ มันจะกลับกลายเป็นว่าทำให้ฮอร์โมนตัวนี้ผันผวน (ฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า เอสโตรเจน) และ อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งกับเต้านม มดลูกและรังไข่ของเราได้ เพราะฉะนั้น เราควรรักษาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้อยู่ในปริมาณที่มันไม่เยอะจนเกินไป แล้วควบคุมให้ร่างกายเราเปล่งปลั่งสวยงาม

    “ว่านชักมดลูกอย่าทานต่อเนื่องเกิน 6 เดือน”

    ผมขอเสริมเรื่อง ว่านชักมดลูกทานนานแค่ไหน ?
    จากประสบการณ์ของผม เวลาคุณหมอเส็งแนะนำคนไข้ให้ทานว่านชักมดลูก เวลารับประทานจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน ครับ แต่ถ้า 3 เดือนแล้วยังไม่ได้ผลเป็นทีน่าพอใจก็ทานต่อไปได้ครับแต่ต้องไม่เกิน 6 เดือน ดังที่คุณหมอโฆษิตกล่าวไว้ครับ
    คำแนะนำในบทความนี้นอกจากสามารถนำไปปรับใช้กับการรับประทาน ยาสตรีหลังการคลอดบุตร ยาสตรีเบอร์ 2 ว่านชักมดลูก สูตร 111 ก็ได้ด้วยนะครับ เพราะว่าล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูกทั้งนั้น
     Morseng Lao Vientiane Tel 020 5996 2888 / 2222 8597
    >>>www.morsenglao.blogspot.com<<< 

    หมอเส็ง รักษาการมีบุตรยากอย่างไร ?

    เห็น เป็นประเด็นร้อนที่คู่สามีภรรยาหลายๆคู่ ค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เนต ด้วยความคันไม้คันมือผมเองก็เลยตัดสินใจหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูบ้าง ว่า คู่สามีภรรยาที่เค้าประสบปัญหาการมีบุตรยากได้รับการตรวจและการรักษาจากหมอแมะอย่างไรบ้าง ? มีการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อให้มีลูกติด

    เท่าที่ผมรวบรวมการตรวจรักษาการมีบุตรยากของหมอแมะก็มีประมาณนี้ครับ
    1. ตรวจร่างกายด้วยการจับชีพจร อันนี้ผมว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ผมคิดว่าหมอแมะทุกคนต้องทำอยู่ (ถ้าไม่ตรวจจะรู้ได้ยังไง ?) โดยทำการแมะทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง โดยส่วนใหญ่หลังจากทำการตรวจแล้วมักจะพบว่าฝ่ายสามีและ(หรือ)มีปัญหาเรื่อง ไตไม่แข็งแรง แล้วส่งผลถึงระบบการสืบพันธุ์ ส่งผลอย่างไรบ้าง ลองอ่านข้อความด้านล่างนี้ดูครับ

    อาจจะเคยได้ ยินมาบ้างว่าทางแพทย์จีนถือว่า ไต เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด ธาตุหยางที่ไตถือเป็นต้นกำเนิดของธาตุหยางทั้งหมดในร่างกาย แม้กระทั่งไฟหรือธาตุหยางที่ใช้ในการย่อยอาหารก็มาจากไตเช่นกัน

    ธาตุหยางที่ ไตพร่องยังมีอาการต่างๆ อีก เช่น ปวดเมื่อยเอว เข่าไม่มีแรง ผมร่วง ฟันโยกง่าย กระดูกเปราะ ปัสสาวะถี่หรือน้อยเกินไป ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ มีลูกยาก เป็นต้น

    ยกมาจาก http://aunlamun.exteen.com/20071202/entry
    จากข้อความข้างต้นจะเห็นว่าไตเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ โดยตรง เพราะฉะนั้นถ้าใครมีปัญหาเรื่องไตย่อมส่งผลให้มีบุตรยากครับ
    2. จ่ายยา หลังจากที่หมอแมะทำการตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คงไม่ พ้นการจ่ายยาให้รับประทาน ประเด็นสำคัญตรงเรื่องนี้อยู่ที่ว่าหมอแมะจ่ายยาอะไรให้รับประทานบ้าง อยากรู้ไหมครับ  ?
    ฝ่ายหญิง
    • ยาตัวแรกที่ต้องรับประทาน คือ ยาปรับสมดุลร่างกายหรือจะเรียกว่ายาปรับธาตุก็ได้ครับ ต้องทานยานี้ก่อนเพราะว่าเป็นยาตัวพื้นฐานที่ช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง ขึ้นจากการปรับธาตุให้สมดุลโดยทานควบคู่กับยาบำรุงร่างกายเพื่อให้ได้ผลดี ที่สุด
    • ทานยาบำรุงมดลูก (คิดว่าเป็นยาบำรุงโลหิตสตรี) เพื่อช่วยขับเลือดเสีย ทำให้เลือดไหลเวียนดี ขับน้ำคาวปลาและทำให้มดลูกสะอาดมีสุขภาพดี
    • ทานยาบำรุงไต เพื่อเสริมสร้างธาตุหยางให้ไตแข็งแรง
    • ทานยาเสริมสร้างฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อช่วยกำหนดวันไข่ตกและตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น (ทำให้รู้ว่าต้อง xxx เมื่อไหร่)
    ฝ่ายชาย
    • ทานยาบำรุงไต เพื่อเสริมสร้างธาตุหยางให้ไตแข็งแรง
    • ทานยาบำรุงร่างกาย
    ฝ่ายชายทานยาน้อยนะครับ มีไม่กี่ตัวเอง
    ส่วนผลที่ได้ของสามีภรรยาแต่ละคู่ นั้นก็แตกต่างกันออกไป บางคู่ก็ได้ลูกสมใจ บางคนหลังจากติดลูกแล้วก็แท้ง บางคนไม่ติดลูกเลยก็มี ขึ้นอยู่ความแข็งแรงของร่างกายและบุญวาสนาด้วย
    การไปหาหมอแมะเพื่อรักษาการมีบุตรยากนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลหรือได้ลูกสมใจกันทุกคน แต่รู้ทั้งรู้สามีภรรยาหลายๆคู่ก็ยังคงมีความหวังที่จะได้มีครอบครัวที่ สมบูรณ์เหมือนคนปกติทั่วไป จึงยอมลงทุนตรวจร่างกายหรือแม้กระทั่งทานยาสมุนไพรแปลกๆที่ตนเองไม่รู้จัก ซ้ำยังมีราคาค่อนข้างแพงอีกด้วย นับถือๆครับ
    ผมอยากรู้ความเห็นของท่านครับ ว่าคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ ช่วยๆกันคอมเม้นต์หน่อยนะครับ 

      Morseng Lao Vientiane Tel 020 5996 2888 / 2222 8597
    >>>www.morsenglao.blogspot.com<<<